ยุทธพงศ์ แฉซ้ำ! เห็นประธานอนุ กมธ. คุยกับ "นายพล ป." ก่อนโหวตหนุนซื้อเรือดำน้ำ

ยุทธพงศ์ แฉซ้ำ! เห็นประธานอนุ กมธ. คุยกับ "นายพล ป." ก่อนโหวตหนุนซื้อเรือดำน้ำ

ยุทธพงศ์ แฉซ้ำ! เห็นประธานอนุ กมธ. คุยกับ "นายพล ป." ก่อนโหวตหนุนซื้อเรือดำน้ำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 กล่าวก่อนเข้าห้องประชุมในคณะอนุกรรมาธิการฯ ถึงการประชุมเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ

ซึ่งในที่ประชุมมีการบันทึกเสียงและบันทึกชวเลข วันนี้ (24 ส.ค.) จึงจะขอนายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะอุนุกรรมาธิการฯ ให้เปิดเผยบันทึกการประชุมว่าในการประชุมวันนั้นได้พูดคุยกันอย่างไรบ้าง ซึ่งไม่มีใครเห็นด้วยกับการซื้อเรือดำน้ำเลยจึงมีมติให้แขวนการซื้อเรือดำน้ำไว้ก่อน

แต่ทางกองทัพเรือได้แจ้งมาว่าจะขอชี้แจงใหม่ โดยให้เหตุผลว่า

  1. ได้มีการทำสัญญาระหว่างรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ไว้แล้ว ซึ่งผูกพันการซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2 และ ลำที่ 3 หากไม่ซื้อจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และผิดสัญญาจนอาจทำให้เกิดการฟ้องร้อง
  2. มีการลงนามร่วมกันระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กับ รัฐมนตรีกลาโหมของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งการลงนามดังกล่าวเป็นการตกลงที่จะซื้อเรือลำที่ 2 และ 3 หลังจากนั้น ทางคณะกรรมาธิการก็ให้กองทัพเรือนำเอกสารรายละเอียดดังกล่าวมายื่น ซึ่งเมื่อตรวจสอบเอกสารแล้ว ตนเองเห็นว่าในเอกสารฉบับที่ 1 ไม่ระบุว่าให้ซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2 และ 3 แต่ระบุให้ซื้อเพียงลำเดียวคือ ลำที่ 1 ส่วนเอกสารฉบับที่ 2 ตนเองได้เอกสารมาแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบและจะแฉว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้ไปเซ็นอะไรไว้ ซึ่งเชื่อว่าเอกสารดังกล่าวไม่เกี่ยวกับเรื่องเรือดำน้ำ แต่ทางกองทัพเรืออ้างว่าเกี่ยวกับเรือดำน้ำ

ทั้งนี้ บริษัทจากประเทศจีนที่มาลงนามเอกสารจัดซื้อเรือดำน้ำลำแรกคือ บริษัท ไชน่า ชิป บิวดิ้ง แอนด์ ออฟชอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งบริษัทนี้ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ แม้จะอ้างว่าเป็นรัฐวิสาหกิจก็ตาม แต่ในคำพิพากษาในคดีจำนำข้าวของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิพากษาแล้วว่า หากเป็นการจัดซื้อจีทูจี ก็เป็นเรื่องของรัฐบาลต่อรัฐบาลเท่านั้น ซึ่งตนเองจะไม่ให้การจัดซื้อเรือดำน้ำผ่านอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ นายยุทธพงศ์ กล่าวก่อนเข้าห้องประชุมในคณะอนุกรรมาธิการฯ ถึงการลงมติในคณะอนุกรรมาธิการฯ ในการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ที่มีมติออกมา 5 ต่อ 4 ว่า ตนเชื่อว่าหากไม่มีใครล็อบบี้อนุกรรมาธิการ ใครจะกลับคำในสิ่งที่ตนเองพูด มีเหตุผลอะไรที่ต้องไปยกมือให้กองทัพเรือซื้อเรือดำน้ำ หากมีบันทึกชวเลขออกมาก็จะรู้ว่ามีใครที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย และมีการกลับคำพูดหรือไม่ โดยตนเองได้พูดคุยกับประธานเมื่อมีการลงมติและมีเสียงเสมอกัน 4 ต่อ 4 ว่าให้ประธานวางตัวเป็นกลางไม่ต้องลงคะแนน และให้ส่งเรื่องไปที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ซึ่งมองว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่ประธานฯ ก็มีเหตุผลจำเป็นและทำการโหวตให้จัดซื้อเรือดำน้ำอีกเสียงหนึ่งซึ่งถือเป็นเสียงตัดสิน

อย่างไรก็ตาม ก่อนประธานจะตัดสินใจโหวตนั้น มีการพักการประชุม และมี ส.ส. มาบอกกับตนเองว่า ประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ รับโทรศัพท์จาก "นายพล ป." ขณะที่ทุกคนในห้องประชุมก็เห็นและรับรู้กันหมดว่ามีโทรศัพท์เข้ามาหาประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ โดยเป็นการคุยที่ไม่ได้เปิดลำโพง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook