อ่างแก้วคึกคัก! เด็ก มช. นับพัน แสดงพลังร่วมชุมนุม #มอชองัดข้อเผด็จการ

นักศึกษา คณาจารย์ และประชาชน รวมตัวจัดแฟลชม็อบ #มอชองัดข้อเผด็จการ “ใครไม่งัด มอชอของัด”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (24 ส.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ศาลาอ่างแก้ว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กลุ่มนักศึกษา คณาจารย์และประชาชนนับพันคน รวมตัวจัดแฟลชม็อบ “มอชองัดข้อเผด็จการ ใครไม่งัด มอชอของัด" มีการถือป้ายข้อความเชิงสัญลักษณ์ต่างๆ กิจกรรมปราศรัยในหลายประเด็น อาทิ การแสดงออกทางการเมืองของนักศึกษา การคุกคามสิทธิในโรงเรียน การทำลายสถาปัตยกรรมคณะราษฎร รวมทั้งการกระจายอำนาจการเมืองท้องถิ่น และ การสถาปนาหลักการกองทัพอยู่ใต้พลเรือนในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นต้น

การชุมนุมครั้งนี้ยังคงยืนยัน 3 ข้อเรียกร้อง 2 จุดยืน 1 ความฝัน และ 3 ขั้นตอนการเคลื่อนไหว, Constitution Monarchy หลักการและความฝันเพื่อการอยู่ร่วมกันในระบอบประชาธิปไตย มีการอ่านบทกวีเพื่อประชาธิปไตย

และก่อนที่จะมีการจบกิจกรรมในเวลาประมาณ 20.15 น. ได้ร่วมกันร้องเพลง Do you hear the people sing หลังจากเสร็จกิจกรรมก็ได้แยกย้ายกันกลับ ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มี ตำรวจ ทหาร ทั้งในและนอกเครื่องแบบมาสังเกตการณ์จำนวนมาก

จากการสอบถาม นายวัชรภัทร อายุ 22 ปี หนึ่งแกนนำ เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมในวันนี้เป็นการเรียกร้องข้อเรียกร้องเดิมที่ได้เสนอต่อรัฐบาล รวมถึงข้อเรียกร้องใหม่ที่จะมีเพิ่มขึ้นให้ทันสถานการณ์ โดยเฉพาะเงื่อนไขที่จะเพิ่มขึ้นมา การจัดกิจกรรมในนี้ต่างจากครั้งก่อนๆ ที่จัดขึ้นที่ลานท่าแพ

โดยจะมีการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 และการตรวจอุปกรณ์อาวุธ ภายใต้เงื่อนไขของมหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่ได้คิดว่าเงื่อนไขที่มหาวิทยาลัยกำหนดไว้จะใช้ได้ทั้งหมด เช่น การห้ามบุคคลภายนอกเข้ามา ซึ่งตนคิดว่าไม่ใช่เนื่องจากมหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่สาธารณะ คนเสียภาษีก็คือประชาชน ไม่เฉพาะเพียงนักศึกษา

นายวัชรภัทร กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องโรคระบาดหรือโรคโควิด-19 แต่เป็นภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้นระหว่างการจัดงาน หรือ หลังจากเลิกงานแล้ว เนื่องจากยังคงถูกเจ้าหน้าที่รัฐในการคุกคามต่างๆ ดังจะเห็นได้จากการจัดกิจกรรมช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

มากกว่านั้นคือการใช้กลไกทางกฎหมายในการดำเนินคดีกับผู้เห็นต่างจากรัฐ ซึ่งสิ่งที่เขาออกมานั้นมันอยู่ภายใต้สิ่งที่เรียกว่า "ประชาธิปไตย" รัฐธรรมนูญได้ให้อำนาจรับรองไว้แล้ว ดังนั้นอย่างใช้กลไกกฎหมาย เช่น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน , พ.ร.บ.ชุมนุม , พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ มาปิดกั้นเสรีภาพของนักศึกษาและประชาชน