ครูผิดสังเกตเด็กชาย ป.6 ซึมเศร้า ซักไซ้จนรู้ความจริง "เจ้าอาวาส" ล่วงละเมิดทางเพศ

เด็กนักเรียนชาย ป. 6 ถูกเจ้าอาวาสวัดดังล่วงละเมิดทางเพศหลายครั้ง ฉากหน้าใจบุญบอกครอบครัวว่าจะช่วยเหลือเด็ก

(24 ส.ค.63) เจ้าหน้าที่มูลนิธิคุ้มครองเด็ก จ.สมุทรสงคราม  ได้พาเด็กชายวัย 12 ปี ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นประถม 6 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยผู้ปกครองและครู เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี  เพื่อดำเนินคดีกับ เจ้าอาวาสวัด ซึ่งได้กระทำการล่วงละเมิดทางเพศต่อนักเรียนชายคนดังกล่าว  ซึ่งจากการสอบถามพบว่า ถูกล่วงละเมิดทางเพศมาแล้วเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งเด็กไม่สมยอม และถูกกระทำด้วยการขืนใจจนทนไม่ไหว จึงไปปรึกษาครูที่โรงเรียนเพื่อให้หาทางช่วยเหลือ กระทั่งได้มีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิคุ้มครองเด็กและวางแผนเก็บหลักฐานใช้ในการดำเนินคดี

ครูบี (นามสมมติ) เปิดเผยว่า เด็กกลุ่มนี้เป็นกลุ่มชาติพันธ์ที่อาศัยอยู่ที่บ้านป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์  มีเจ้าอาวาสวัดที่อยู่ใกล้โรงเรียนพามาสมัครเข้าเรียนรวม 3 คน เป็นระดับประถม 2 คน และระดับมัธยม 1 คน ซึ่งครูสังเกตว่าเด็กชั้นประถม 6 คนหนึ่งมีอาการซึมเศร้า ไม่ร่าเริงเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ก็พยายามสังเกตดูอาการ ต่อมามีเพื่อนนักเรียนมาเล่าให้ครูฟังว่า เด็กคนดังกล่าวถูกกระทำอนาจารแต่ไม่ทราบว่าถึงขั้นใด ครูจึงได้พยายามสอบถามเด็ก กระทั่งเด็กเปิดปากและขอร้องให้ครูพาไปอยู่ที่อื่นเพราะตนเองไม่ใช่คนพื้นที่จึงไม่รู้จะไปพึ่งพาใครและไปไม่ถูก ครูจึงซักไซ้ไล่เลียงเรื่องราวทั้งหมด แต่เนื่องจากเจ้าอาวาสรายดังกล่าวเป็นคนโผงผาง รู้จักคนเยอะมีพรรคพวกมาก จึงยังไม่กล้าทำอะไรโดยพลการ และได้สั่งเด็กไว้ว่า หากถูกกระทำอีก ให้แจ้งให้ครูทราบเพื่อจะได้ดำเนินคดีให้เข็ดหลาบ 

กระทั่งบ่ายวันที่ 23 ส.ค.63 เด็กบอกครูว่า โดนเจ้าอาวาสกระทำอีกโดยเป็นการล่วงละเมิดทางเพศ ครูจึงได้ประสานมูลนิธิคุ้มครองเด็กลงมาและติดตามแม่ของเด็กลงมาพบกันกระทั่งได้พาเด็กเข้าแจ้งความที่ สภ.แก่งกระจาน

นางลอย (นามสมมุติ) แม่ของเด็ก เล่าว่า ก่อนหน้านี้ลูกตนเองเรียนอยู่ที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน แต่มีเพื่อนมาเรียนอยู่ที่แก่งกระจานเพราะเจ้าอาวาสองค์นี้มักจะเอาของไปแจกให้กับชาวบ้านที่บ้านป่าละอูและชักชวนชาวบ้านที่มีลูกหลายคนว่า ให้ส่งมาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ จะส่งเสียและดูแลให้เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระ เพราะชาวชาติพันธ์มีลูกหลายคนและมีความยากจน จนมีเด็กมาเรียนและพักอยู่ที่วัดหลายคน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเด็กแถวบ้านและเป็นเพื่อนกับลูกชายตน ทำให้ลูกชายไม่มีเพื่อนเล่น และอยากตามมาเรียนด้วย แต่ตนเองบอกว่าถ้าจะมาก็ให้เรียนที่โรงเรียนเดิมจนจบชั้นประถม 6 ก่อน 

ต่อมาอยู่ๆ ขณะที่ตนเองไปทำงานอยู่ที่อำเภอหัวหิน ลูกชายโทรศัพท์ไปหาเพื่อนบอกอยากมาเที่ยวที่วัดและโรงเรียนดังกล่าว จนเจ้าอาวาสรู้และนำรถยนต์มารับบอกว่าพาไปเที่ยวดูพื้นที่ก่อน แต่เมื่อมาด้วยแล้ว หลวงพ่อไม่ให้กลับบ้าน รับอาสาจะติดต่อย้ายโรงเรียนให้ โดยให้เรียนเสียที่นี่และพักที่วัดอยู่กับเพื่อนที่มาก่อนหน้า ฝ่ายทางแม่ทราบเรื่องภายหลังยืนยันว่า ไม่ได้อนุญาต แต่เมื่อมันล่วงเลยมาแล้วจึงปล่อยเลยตามเลยเพราะตนเองก็พักอยู่ที่หัวหิน กระทั่งมาทราบเรื่องว่า ลูกชายโดนกระทำล่วงละเมิดทางเพศจากทางโรงเรียน จึงยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ขณะที่พ.ต.อ.จิตติพงศ์  ศรจิตติ ผกก.สภ.แก่งกระจาน  เปิดเผยขั้นตอนว่า  เบื้องต้นจะให้พนักงานสอบสวนบันทึกรายละเอียดไว้ก่อน และให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิและครูพาเด็กไปตรวจร่างกายที่ รพ.แก่งกระจาน  แต่เนื่องจากแพทย์ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญจึงต้องนัดให้ไปตรวจใหม่อีกครั้งที่รพ.พระจอมเกล้าในวันพรุ่งนี้  จากนั้นก็จะนัดทีมสหวิชาชีพมาสอบปากคำเด็กพร้อมทั้งผลการตรวจ และจะเรียกเจ้าอาวาสดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป