ศาลล้มละลายฯ นัดไต่สวนคำร้องฟื้นฟู “การบินไทย” นัดสุดท้าย 14 ก.ย. นี้

ศาลล้มละลายฯ นัดไต่สวนคำร้องฟื้นฟู “การบินไทย” นัดสุดท้าย 14 ก.ย. นี้

ศาลล้มละลายฯ นัดไต่สวนคำร้องฟื้นฟู “การบินไทย” นัดสุดท้าย 14 ก.ย. นี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศาลล้มละลายกลาง นัดไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นนัดสุดท้าย โดยฝ่ายผู้คัดค้านนำพยานเข้าเบิกความต่อศาล และศาลได้กำหนดนัดฟังคำสั่งในคำร้องขอฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผนในวันที่ 14 ก.ย.2563

ชาญศิลป์ ตรีนุชกร กรรมการบริษัท และรักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันนี้ (25 ส.ค.) ศาลล้มละลายกลางนัดไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการการบินไทยเป็นนัดสุดท้าย โดยมีทนายฝ่ายการบินไทยเป็นผู้ถามค้านพยานต่อศาล ซึ่งมีเจ้าหนี้ผู้คัดค้านที่ 11 คือ บริษัท ดาต้าโปรดักส์ทอปปัง ฟอร์ม จำกัด นำเสนอพยานขึ้นเบิกความต่อศาล สำหรับภาพรวมกระบวนการไต่สวนคำร้องในวันนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและมีแนวโน้มที่ดี

ทั้งนี้ เมื่อกระบวนการไต่สวนเสร็จสิ้นและศาลมีคำสั่งให้การบินไทยฟื้นฟูกิจการพร้อมตั้งคณะผู้ทำแผนที่การบินไทยเสนอ กรมบังคับคดีจะดำเนินการแจ้งเจ้าหนี้ทุกรายให้ทราบถึงขั้นตอนการลงทะเบียนเพื่อยื่นคำขอรับชำระหนี้ ซึ่งท่านสามารถดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ได้ด้วยตนเองที่บ้าน หรือจะนำเอกสารมาที่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อที่การบินไทยและกรมบังคับคดีจะช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหนี้ในการยื่นคำขอรับชำระหนี้ออนไลน์ ซึ่งการบินไทยจะประชาสัมพันธ์รายละเอียดวัน เวลา และสถานที่ต่อไป โดยเจ้าหนี้ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายใน 1 เดือน นับแต่คำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผนประกาศในราชกิจจานุเบกษา

อย่างไรก็ดี เพื่อป้องกันความสับสนที่อาจเกิดขึ้นจากการนำเสนอข่าวของสื่อบางแห่งเกี่ยวกับการยื่นคำขอรับชำระหนี้ ชาญศิลป์ ชี้แจงว่า ในส่วนของลูกค้าซึ่งออกบัตรโดยสารกับการบินไทยโดยตรงที่ขอคืนค่าบัตรโดยสาร (Refund) นั้น การบินไทยมีนโยบายที่มุ่งมั่นจะอำนวยความสะดวกและรักษาสิทธิของลูกค้าในการได้รับคืนค่าบัตรโดยสารอย่างเต็มที่ โดยคณะผู้ทำแผนได้หารือกันเกี่ยวกับการกำหนดเงื่อนไขและรายละเอียดส่วนนี้ไว้ในแผนฟื้นฟูกิจการแล้ว เพื่อลูกค้าทุกท่านจะได้ไม่เสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อกรมบังคับคดี

ซึ่งชาญศิลป์ เน้นย้ำว่า ขณะนี้การบินไทยเองก็มีมาตรการเยียวยาลูกค้าที่ขอคืนค่าบัตรโดยสารอย่างเต็มที่ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุด โดยการให้สิทธิลูกค้าเก็บบัตรโดยสารไว้ใช้เดินทางกับการบินไทยหรือไทยสมายล์ได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564 หรือจะแลกเป็น Travel Voucher ซึ่งสามารถนำมาใช้แทนเงินสดในการออกบัตรโดยสารของการบินไทยหรือไทยสมายล์ได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2565 ก็ได้ ซึ่งสิทธิดังกล่าวยังสามารถใช้ออกบัตรโดยสารในชื่อบุคคลอื่นโดยแสดงหลักฐานได้อีกด้วย โดยในส่วนของการแลก Travel Voucher นั้น ชาญศิลป์ แจ้งว่าลูกค้าที่ขอคืนค่าบัตรโดยสารแล้วประสงค์จะแลกรับ Travel Voucher สามารถติดต่อการบินไทยได้ผ่านทาง Call Center โทร 02 356 1111

สำหรับลูกค้าผู้ถือบัตรโดยสารของการบินไทยซึ่งออกบัตรโดยสารกับการบินไทยโดยตรง ที่ยังไม่ได้เดินทางและยังไม่ได้ดำเนินการขอคืนค่าบัตรโดยสาร (Unused Ticket) ชาญศิลป์ กล่าวว่า ลูกค้าผู้ถือบัตรโดยสารของการบินไทยอยู่จะไม่ใช่เจ้าหนี้ที่อาจขอรับชำระหนี้ตามกฎหมายได้ เพราะลูกค้ายังคงมีสิทธิใช้บัตรโดยสารของการบินไทยเมื่อการบินไทยสามารถกลับมาประกอบธุรกิจได้ตามปกติและให้บริการด้านการบินได้อย่างเต็มรูปแบบ

ชาญศิลป์ ได้เน้นย้ำให้ลูกค้าผู้ถือบัตรโดยสารมั่นใจว่า ลูกค้าจะยังคงมีสิทธิในการใช้บัตรโดยสารของการบินไทยอยู่เช่นเดิมภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการของการบินไทย โดยที่ลูกค้าไม่ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้หรือดำเนินการทางกฎหมายใดๆ อย่างไรก็ดี การบินไทยยังคงยินดีมอบสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าผู้ถือบัตรโดยสารที่ยังไม่ได้ใช้เดินทาง

โดยให้ลูกค้าสามารถเก็บบัตรโดยสารไว้ใช้เดินทางกับการบินไทยหรือไทยสมายล์ได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564 หรือจะแลกเป็น Travel Voucher ซึ่งสามารถนำมาใช้แทนเงินสดในการออกบัตรโดยสารของการบินไทยหรือไทยสมายล์ได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2565 ก็ได้ ซึ่งลูกค้าสามารถดำเนินการดังกล่าวได้ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ของการบินไทย www.thaiairways.com โดย ชาญศิลป์ ย้ำชัดว่า การบินไทยยังคงมีหน้าที่ในการให้บริการด้านการบินแก่ลูกค้าผู้ถือบัตรโดยสารอยู่เช่นเดิม โดยที่ลูกค้าไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สามารถใช้สิทธิตามบัตรโดยสารได้แต่อย่างใด

นอกจากนี้ หากศาลมีคำสั่งให้การบินไทยฟื้นฟูกิจการและตั้งคณะผู้ทำแผน การบินไทยจะเชิญเจ้าหนี้กลุ่มต่างๆ มารับฟังการจัดทำร่างแผนฟื้นฟูกิจการในเบื้องต้นเพื่อให้เจ้าหนี้ได้รับทราบถึงความคืบหน้าของการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการและมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อไป

ชาญศิลป์ ทิ้งท้ายว่า ในนามของการบินไทยขอให้เจ้าหนี้ทุกรายมีความมั่นใจว่า หากศาลมีคำสั่งให้การบินไทยฟื้นฟูกิจการและตั้งคณะผู้ทำแผน ก็จะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อเจ้าหนี้ทุกราย เนื่องจากการบินไทยจะสามารถเริ่มต้นแก้ไขสถานการณ์ทางการเงินได้โดยเร็ว พร้อมทั้งอยากขอให้เจ้าหนี้และลูกค้าของการบินไทยเชื่อมั่นว่าการบินไทยพร้อมที่จะดูแลทุกท่านอย่างดีที่สุดต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook