กระทรวงคลังร้าว!? "ปรีดี-สันติ" ถกโผโยกย้ายอธิบดีไม่ลงตัว ต้องถอนวาระจากประชุม ครม.
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ยังไม่ได้มีการรับทราบเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารของกระทรวงการคลัง เนื่องจากยังมีความเห็นที่ไม่ตรงกันระหว่างนายปรีดี ดาวฉาย รมว.คลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ทำให้ต้องถอนวาระการเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงการคลังออกไปจากการพิจารณาของ ครม.ก่อน
ทั้งนี้ รายชื่อที่ถูกเสนอแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนปฏิบัติ คือ นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นผู้เสนอให้นายปรีดี พิจารณาเห็นชอบ หลังจากนั้นเสนอให้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงเศรษฐกิจได้พิจารณาเห็นชอบแล้ว ท้ายที่สุดเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เห็นชอบก่อนเข้า ครม. เพื่อรับทราบ
รายชื่อที่กระทรวงการคลังเสนอให้โยกย้าย ประกอบด้วย นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ไปเป็นอธิบดีกรมศุลกากร แทนนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ที่ขึ้นมารับตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง และให้นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ย้ายไปเป็นอธิบดีกรมสรรพสามิต
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ระหว่างที่นายปรีดี นำเสนอวาระดังกล่าวต่อที่ประชุม ครม.นั้น นายสันติ รมช.คลัง คัดค้านการเสนอให้นายลวรณ มาเป็นอธิบดีกรมสรรพสามิต เพราะเห็นว่าควรแต่งตั้งนายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) มาเป็นอธิบดีกรมสรรพสามิตแทน ทำให้นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงการคลังกลับไปหารือกันใหม่ก่อน
“ที่มีข่าวว่าปลัดกระทรวงการคลัง และ รมว.คลัง มีความคิดเห็นไม่ตรงกันนั้น เป็นเรื่องไม่จริงอย่างยิ่ง เพราะในหลักการแล้วการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลัง และกระทรวงต่างๆ เป็นเรื่องของปลัดกระทรวงและรัฐมนตรีว่าการเท่านั้น โดยผ่านความเห็นชอบของนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอให้ที่ประชุม ครม. รับทราบ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีช่วยว่าการ” แหล่งข่าวระบุ
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น นายสันติ อ้างว่าการแต่งตั้งผู้บริหารกระทรวงการคลังครั้งนี้เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ในฐานะที่เป็นพรรครัฐบาล ทำให้หลายฝ่ายมองว่าเรื่องนี้อาจจะกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างนายสันติกับนายปรีดี ซึ่งอาจทำให้การทำงานร่วมกันเกิดปัญหาหรือไม่