"ศรีสุวรรณ" สอนข้อกฎหมาย "แอมมี่" สาดสีใส่ตำรวจ ผิดหลายมาตรา-รอรับหมายได้เลย
“ศรีสุวรรณ” ชี้พฤติกรรม "แอมมี่ The Bottom Blues" สาดสีใส่ตำรวจ ไม่ใช่เสรีภาพ แต่เจตนาสร้างความเสียหายและเดือดร้อนให้กับตำรวจทั้ง 13 นาย
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวในวันนี้ (29 ส.ค.) ถึงกรณีที่ นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ The Bottom Blues สาดสีน้ำเงินใส่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ พร้อมกระโดดเข้าชกเจ้าหน้าที่ ระหว่างที่ผู้ต้องหาคดีเวทีชุมนุมเยาวชนปลดแอก มารายงานตัวตามหมายเรียก เมื่อวานนี้ (28 ส.ค.)โดยอ้างว่า เป็นการตอบโต้ที่ประชาชนถูกป้ายสีมามากแล้ว พร้อมประกาศ หากยังคุกคามประชาชนอยู่ จะคุกคามคืนด้วยศิลปะเช่นนี้อีกนั้น
นายศรีสุวรรณ ระบุว่า การที่ แอมมี่ สาดสีใส่ตำรวจ เป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ ถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวาง แม้กระทั่งในกลุ่มผู้สนับสนุนม็อบนักศึกษาเอง ต่างมองว่าไม่เหมาะสม และทำให้การเคลื่อนไหวของนักศึกษาด่างพร้อย ทำลายความชอบธรรมในการเคลื่อนไหว
แต่ก็มีนักประชาธิปไตยตกรุ่น นักประชาธิปไตยลูกจ้างบางราย พยายามกล่าวอ้างว่า เป็นงานศิลปะประเทศอื่นเขาก็ทำกัน เพื่อหวังแก้หน้าแก้ภาพลักษณ์ที่ถูกทำลายย่อยยับ เพราะการกระทำของพวกตัวเอง โดยเฉพาะภาพที่แพร่ในโซเชียลเต็มไปหมด คือ ภาพที่นักประชาธิปไตย ดวดเหล้าดวดเบียร์กันคืนก่อนปฏิบัติการ
การกระทำดังกล่าวไม่ใช่เสรีภาพที่ชอบกล่าวอ้างกัน แล้วพากันหัวเราะสนุกสนาน แต่มีเจตนาสร้างความเดือดร้อน และเสียหายให้เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 13 นายที่ถูกสาดสี
นายศรีสุวรรณ บอกด้วยว่า แม้ผู้ชุมนุมจะพยายามเรี่ยไรเงิน เพื่อนำไปให้ตำรวจซื้อเครื่องแบบใหม่แล้วก็ตาม แต่การกระทำที่เกิดขึ้น ครบองค์ประกอบความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา หลายมาตรา อาทิ มาตรา 138 ที่บัญญัติว่า “ผู้ใดต่อสู้ หรือขัดขวางเจ้าพนักงาน หรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ในการปฏิบัติการตามหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการต่อสู้หรือขัดขวางนั้น ได้กระทำโดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนั้น การที่ทำให้ชุดเครื่องแบบตำรวจเสียหาย ก็เป็นความผิดตาม มาตรา 358 ด้วย ที่บัญญัติว่า “ผู้ใดทำให้ เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่น หรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ผู้นั้นกระทำความผิดฐาน ทำให้เสียทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
ทั้งหมดนี้ ยังไม่รวมข้อหาร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และหรือร่วมกันจัดให้มีกิจกรรม ซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ในลักษณะมั่วสุมกัน ชุมนุมทำกิจกรรม หรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด อันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตาม พรบ.โรคติดต่อ 2558
“อีกไม่นาน แอมมี่ กับพวก ที่หน้าระรื่นกันในวันนี้ ควรนอนรอรับหมายเรียกจาก สน.สำราญราษฎร์ ได้เลย แล้วอย่ามาโวยวายให้อายชาวบ้านเขาว่า เป็นการคุกคามสิทธิเสรีภาพ เพราะการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ แต่กลับไปละเมิดสิทธิผู้อื่น เยี่ยงนี้มีทางเดียว คือ ให้มันจบที่เรือนจำเท่านั้น จึงจะชอบ”
โดยก่อนหน้านี้ นายไชยอมร ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพจ The Bottom Blues ชี้แจงถึงสิ่งที่ทำลงไปว่า
“ที่ผ่านมาหลายคนคงรับรู้ ถึงการที่ผมเข้าไปให้กำลังใจรุ่นน้องของผม ที่สถานีตำรวจมาก่อน วันนั้นผมเชื่อมั่นในวิธีการแบบสันติ ผมเข้าใจว่า ทุกคนมีหน้าที่ และบทบาท เป็นของตัวเอง
แต่สิ่งที่ทำให้ผมเจ็บปวดที่สุด คือการที่ผมยืนอยู่ในระเบียบ และพยายามเรียกร้องให้ใครบางคนหันมาสนใจ
แต่เรากลับถูกเพิกเฉย ถูกมองข้าม ไม่ว่าเราจะตะโกนเสียงดังแค่ไหนก็ตาม
วันนี้สิ่งที่ผมทำลงไป มันคือการกระทำของผมแต่เพียงผู้เดียว ไม่ใช่ในฐานะตัวแทน หรือแกนนำ ของการชุมนุมใดใดทั้งสิ้น
ผมรู้ดีว่า การกระทำดังกล่าว เปรียบเสมือนดาบสองคม ผมเพียงแต่หวังว่า เหตุการณ์ในวันนี้จะทำให้ใครหลายๆคน ตระหนักถึงความสำคัญของการทวงคืน “ความยุติธรรม” #ใส่ร้ายป้ายสี"