มอบตัวแล้ว! หนุ่มขับฟอร์จูนเนอร์ย้อนศรกว่า 5 กิโลเมตร หวิดชนคันอื่น อ้างขับตามจีพีเอส

ย้อนศรไกลกว่า 5 กิโลเมตร คันอื่นๆ ต้องหลบกันวุ่น กู้ภัยส่งสัญญาณให้จอดก็ไม่หยุด อ้างไม่รู้ทาง-ขับตาม GPS

จากกรณีเมื่อวันที่ 26 ส.ค.63 เวลาประมาณ 03.00 น. อาสาสมัครกู้ภัยพบรถยนต์โตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำติดฟิล์มมืด ขับรถย้อนศรบนถนนชัยพฤกษ์ ขาออก จึงได้ขับรถตามถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน โดยรถคันดังกล่าวขับย้อนศรสวนทางเลนขวาสุดด้วยความเร็วระยะทางใกล้กว่า 5 กิโลเมตร ทางอาสาสมัครกู้ภัยขับเปิดสัญญาณไฟไซเรนอยู่ฝั่งตรงข้าม และพยายามเรียกและส่งสัญญาณให้รถจอด แต่ไม่มีท่าทีจะหยุดกับขับต่อไปเรื่อยๆ

ระหว่างทางมีรถยนต์ที่ขับมาต้องหักหลบเกือบจะเกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง กระทั่งขับย้อนศรมาถึงกลางสะพานพระราม 4 ช่วงโค้ง มีรถบรรทุก 2 คัน ขับตีคู่กันมาต้องเบรคกะทันหันเกือบชนประสานงา รถบรรทุกเองต้องเป็นฝ่ายหลบ

ส่วนด้านคนขับรถโตโยต้า รุ่น ฟอร์จูนเนอร์ ยังคงขับย้อนศรต่อไปกระทั่งขับลงสะพานพระราม 4 ด้านถนนแจ้งวัฒนะหักเลี้ยวเข้าทางปกติ หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.วิวัฒน์ ทองสุข สว.จร.สภ.ปากเกร็ด เร่งติดตามตัวผู้ขับขี่รถฟอร์จูนเนอร์มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ล่าสุดวันนี้ ( 30 ส.ค.63 ) เวลา 14.00 น. นายสุวัฒน์ อายุ 48 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป เป็นผู้ขับขี่ฟอร์จูนเนอร์คันดังกล่าวได้ประสานขอเข้ามอบตัวกับทาง พ.ต.ต.วิวัฒน์ ทองสุข สว.จร.สภ.ปากเกร็ด เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้ตั้งใจขับรถย้อนศร เกิดจากไม่ชินเส้นทางและวิ่งตาม GPS นำทาง จึงได้นำตัวส่ง ร.ต.อ.อิศราวุฒิ นาคยา รองสารวัตร สอบสวน สภ.ปากเกร็ด เพื่อสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหา

นายสุวัฒน์ กว่าวว่า วันที่เกิดเหตุตนยืมรถเพื่อนไปทำธุระที่ จ.นครปฐม เสร็จธุระจะกลับบ้านที่ดอนเมือง ตนไม่ชำนาญทางและขับรถหลง จึงได้ขับตาม GPS พอมาถึงตรงที่เกิดเหตุ มีรถมูลนิธิขับตามมาแต่ตนก็ไม่ได้จอด เพราะกำลังหาทางลง แต่หาไม่เจอจึงได้ขับย้อนศรเพื่อจะไปหาทางลงอีกทาง อยากขอโทษสังคม วันนี้ตนเข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาไม่ได้หลบหนีไปไหน

ทางด้าน ร.ต.อ.อิศราวุฒิ นาคยา รองสารวัตร สอบสวน สภ.ปากเกร็ด กล่าวว่า เบื้องต้นตั้ง 3 ข้อหา 1. ขับรถย้อนศร 2 .ขับรถประมาทหวาดเสียว และ 3. ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่น จะนำตัวส่งศาล จ.นนทบุรีเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป