ครูถึงกับผงะ! เห็บหมาเกาะหัวดูดเลือดเด็กหญิง 8 ขวบ เอาไฟส่องในรูหูเจออีกเพียบ
เห็นรูปแล้วขนลุก เห็บเกาะหัว-ในรูหูเด็กหญิง 8 ขวบ หมอเผยเอาตัวออกมาแล้วแต่ยังมีไข่เหลือในผนังแก้วหูชั้นใน
วันนี้ (30 ส.ค. 63) ที่ จ.สระบุรี มีคุณครูของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี เข้าเยี่ยมเด็กหญิงบี (นามสมุมติ) อายุ 8 ขวบ นักเรียนประถมศึกษาปีที่ 2 ที่บ้านพัก ซึ่งอาศัยอยู่กับพ่อ ในตำบลสร่างโศก อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี เนื่องจากพบ “เห็บ” ทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่ เข้าไปอาศัยเกาะกินเลือดอยู่ที่หัวและภายในรูหู ทำให้เด็กมีอาการคัน ปวด
นางสาวดวงแก้ว ผิวผาย ครูประจำชั้นเผยว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ตนสังเกตเห็นเห็บประมาณ 3-4 ตัว ไต่ตามตัวของ ด.ญ.บี ขณะนั่งอยู่ในห้องเรียน ตนจึงรีบจับทำลาย โดยตอนนั้นก็ยังไม่เอะใจ เพราะคิดว่าเห็บอาจจะอาศัยอยู่ตามพื้นห้อง หรือตามสนามหญ้าภายในโรงเรียน เมื่อเด็กไปเล่นใกล้ๆ อาจเกาะติดมา
จนกระทั่งช่วงเช้าของวันนี้ ตนเองสังเกตเห็นเห็บไต่ ตามเสื้อผ้าเด็กหญิงคนดังกล่าวอีกครั้ง แต่คราวนี้ไต่หลายตัวจึงเรียกเด็กมาสอบถาม จนทราบว่าเด็กหญิงดังกล่าวมีอาการ มีอาการคันและปวดภายในหู จึงใช้ไฟฉายที่โทรศัพท์ส่องหาดู พบว่า เห็บจำนวนหมายตัว อัดแน่นอยู่ภายในหูเด็กหญิง และเกาะดูดเลือดที่หนังศีรษะ ตนจึงรีบแจ้งผู้อำนวยการให้ประสานผู้ปกครองพร้อมทั้ง นำตัวเด็กหญิงส่งให้แพทย์นำเห็บภายในหูออก
จากการสอบถาม ด.ญ.บี ทราบว่า น้องชอบสุนัข และมักจะให้สุนัขนอนด้วย ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เห็บจากตัวสุนัขไต่เข้าไปอาศัย และดูดเลือดในหู
ส่วนพ่อของ ด.ญ.บี เล่าว่า พยายามห้ามลูกสาวแล้วหลายครั้งว่า ไม่ให้ไปคลุกคลีกับสุนัข ที่เลี้ยงไว้ และไม่คิดว่าเห็บสุนัขจะเข้าไปเกาะดูดเลือดลูกสาวมากขนาดนั้น ซึ่งตนเองรู้สึกตกใจมาก หลังจากนี้จะห้าม ไม่ให้สุนัขเข้าไปนอนกับลูกสาวอีกต่อไป
อย่างไรก็ตามแพทย์ได้นำเห็บสุนัขภายในหู ด.ญ.บี ออกมาจนหมดแล้ว แต่อาจมีไข่เห็บที่ยังหลงเหลืออยู่ในผนังแก้วหูชั้นใน ซึ่งทางคณะครูจะนำเด็กหญิงไปพบแพทย์ในวันพรุ่งนี้ (31 ส.ค. 63) เพื่อให้แพทย์ตรวจสอบอย่างละเอียด อีกครั้ง
ด้าน นางสาวปริศนา ป้องปิ่น ผู้อำนวยการโรงเรียน เผยว่า ทางโรงเรียนจะคอยสังเกต และเฝ้าระวัง เด็กนักเรียนทั้งหมด โดยเฉพาะนักเรียน เด็กเล็ก อีกทั้งทางโรงเรียน ต้องคอย หมั่น ตรวจ สุขภาพเด็ก และดูแลรักษาความสะอาดร่างกายให้กับเด็กนักเรียน โดยเฉพาะ ผม และ แหล่งฟักตัว ของเห็บหมัดและเหา โดยจะเร่งกำจัดไม่ให้ มีแพร่ระบาดในโรงเรียน อีกต่อไป