Sanook คลุกข่าวเช้า 1 ก.ย. 63 ฝ่ายค้านแพ้โหวตตัดงบคดีเหมืองทอง - แอมมี่ถูกยกเลิกงาน เหตุร่วมประท้วง
สวัสดีค่ะ พบกันอีกครั้งกับ Sanook คลุกข่าวเช้า ประจำวันอังคารที่ 1 กันยายน 2563 ที่มาพร้อมกับข่าวที่น่าสนใจประจำวัน รายงานโดยระบบ AI จากฟังก์ชัน Text to Speech ซึ่งช่วยให้คุณรับฟังข่าวสารได้ง่าย ทุกที่ทุกเวลา เพียงมองหาสัญลักษณ์รูปลำโพงสีเขียวด้านบน แล้วก็กดฟังได้เลย
เริ่มกันที่ข่าวแรก ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 มีการพิจารณางบประมาณเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย เพื่อใช้ต่อสู้คดีระหว่างรัฐบาลไทย กับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด ประเทศออสเตรเลีย บริษัทแม่ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด ผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรี จังหวัดพิจิตร วงเงิน 111 ล้านบาท ของกระทรวงอุตสาหกรรม กรณีหัวหน้าคสช. ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว มาตรา 44 สั่งปิดเหมืองแร่ทองคำ โดย นพ.เรวัต วิศรุตเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ กมธ.จากพรรคเสรีรวมไทย ใช้สิทธิแปรญัตติตัดงบประมาณทั้งหมด 111 ล้านบาท เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยว่า หัวหน้าคสช. ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จึงไม่มีสิทธิใช้งบประมาณต่อสู้คดี ทว่าในที่สุด ที่ประชุม กมธ. มีมติเสียงข้างมาก 38 ต่อ 21 เสียง ให้ปรับลดงบประมาณเพียง 12 ล้านบาท ตามที่อนุ กมธ. เสนอมาเท่านั้น ทาง นพ.เรวัต จึงขอใช้สิทธิสงวนคำแปรญัตติขอให้ตัดงบประมาณทั้งหมด 111 ล้านบาทในชั้นการพิจารณารายมาตราในวาระ 2 ในที่ประชุมสภาฯระหว่างวันที่ 16 - 18 กันยายนนี้
ตามมาด้วยข่าวคราวการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ ซึ่งเมื่อวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุนักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดัง นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ “แอมมี่ The Bottom Blues” ได้สาดสีน้ำเงินใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ สน.สำราญราษฎร์ ขณะร่วมชุมนุมเพื่อให้กำลังใจกลุ่มเยาวชนที่เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมระบุว่าเป็นการตอบโต้ด้วยศิลปะ หลังประชาชนถูกป้ายสีมานาน ล่าสุด แอมมี่ได้เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ The Bottom Blues ว่าตนถูกยกเลิกงานคอนเสิร์ต 1 งาน เนื่องจาก “ผู้ใหญ่” รู้สึกไม่สบายใจต่อกรณีที่เจ้าตัวแสดงจุดยืนทางการเมือง และระบุว่า หากลูกค้าคนอื่นๆ ต้องการยกเลิกงานด้วยเหตุผลนี้ก็สามารถแจ้งได้ ทางแอมมี่ยินดีและเข้าใจ พร้อมคืนเงินมัดจำให้เต็มจำนวน
ปิดท้ายด้วยกรณีของ “น้องครีม” เด็กหญิงวัย 11 ปี ที่คาดว่าเสียชีวิตจากวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ซึ่งล่าสุด นพ. ศุภกร พิทักษ์การกุล ผช.ผอ. ด้านพัฒนาคุณภาพ หัวหน้ากลุ่มงานมะเร็งนรีเวช กรมการแพทย์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอีจันว่า ที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครเสียชีวิตเพราะวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก และหากผลชันสูตรพบว่าน้องครีมเสียชีวิตเพราะวัคซีน ก็จะถือเป็นรายแรกในประเทศไทย
นอกจากนี้ นพ. ศุภกร ยังระบุว่า ประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนให้กับเด็กนักเรียนในชั้น ป.5-ป.6 ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา ปีนี้ถือเป็นปีที่ 3 แล้วที่มีการฉีดวัคซีนป้องกันชนิดนี้ในกลุ่มนักเรียน ที่ผ่านมาไม่มีใครเสียชีวิตหลังจากได้รับวัคซีน แต่มีแค่อาการแพ้หรือร่างกายต่อต้านเพราะยังไม่สามารถรับตัววัคซีนได้ทันที ทางกระทรวงสาธารณสุขจะมีมาตรการในการฉีดวัคซีนทุกครั้งว่า จะไม่ฉีดให้กับนักเรียนที่มีไข้สูง หรือมีอาการไม่สบาย แต่หากเป็นไข้หวัดธรรมดา ก็จะประเมินอาการและฉีดให้แต่ต้องให้นั่งพักสังเกตอาการทุกครั้ง
สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตของน้องครีมนั้น นพ. ศุภกร กล่าวว่า ยังไม่สามารถสรุปได้ ต้องรอการชันสูตรที่ชัดเจนอีกครั้ง ว่าน้องมีอาการไม่สายมาก่อนหน้าหรือไม่ และอาจมีเชื้อไวรัสตัวอื่นหรือมีอาการติดเชื้อมาก่อนที่พอมารับวัคซีนแล้วอาจทำให้อาการหนักขึ้น อย่างไรก็ตาม วัคซีนชนิดนี้ไม่มีอันตรายเพราะทั่วโลกได้ฉีดมานานมากและส่วนใหญ่จะไม่มีใครแพ้จนเสียชีวิต
ด้านพ่อแม่ของน้องครีมก็ยืนยันที่จะยังไม่เผาศพลูกสาว จนกว่าจะได้ความกระจ่างถึงสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตของน้องครีม
ข่าวที่น่าสนใจในวันนี้ก็มีเท่านี้ หากมีประเด็นร้อนที่น่าติดตาม Sanook จะรีบนำมาเสิร์ฟถึงมือคุณทันที สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ