หลินปิง ขู่กระโจนใส่ เต่า
หลินปิง แพนด้าน้อย ขู่กระโจนใส่ เต่า ไม่พอใจสิ่งแปลกปลอม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 9 กันยายน นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนดาในประเทศไทย สวนสัตว์เชียงใหม่ สพญ.กรรณิการ์ นิ่มตระกูล สัตวแพทย์ประจำตัวแพนดา พร้อมทีมวิจัยนำตัวหลินปิงแพนดาน้อยออกมาตรวจสุขภาพตามกำหนดเมื่อมีอายุครบ 105 วัน ภายในคลินิกแพนดา โดยในวันนี้หลินปิงมีท่าทางสนุกสนาน คึกคัก เดินหมุนตัวไปมาในเตียงตรวจสุขภาพ และมีท่าทางอ้อนให้หัวหน้าโครงการวิจัยฯ อุ้มเล่นด้วยการนำหัวไปซุกที่แขนและหน้าอก ก่อนที่จะยอมนอนให้ตรวจร่างกายทุกส่วนแต่โดยดี ซึ่งในวันนี้ทีมวิจัยได้นำเต่าไฟฟ้าสีชมพูเข้าไปทดสอบการตอบสนอง โดยหลินปิงมีท่าทางสนใจที่จะเล่นด้วย ใช้สายตาจ้องมองตามพร้อมกับส่งเสียงร้องใส่เต่าที่แล่นไปมาด้วยเสียงดังและ ตามด้วยการกระโจนเข้าใส่
นายประเสริฐศักดิ์ กล่าวว่า หลินปิงหนักเพิ่มขึ้นจาก 3 วันที่ผ่านมาเฉลี่ยวันละ 100 กรัม เป็น 7,520 กรัม การเจริญเติบโตถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติไม่น่าห่วง ความยาวเท่าเดิม 66 เซนติเมตร ฟันแถวล่างขวาขึ้น 1 ซี่ รวมมีฟันน้ำนมแล้ว 11 ซี่ พัฒนาการเรียนรู้ด้านอื่นๆ มีการเปลี่ยนแปลงชัดเจน เมื่อลองนำเต่าไฟฟ้าสีชมพูมีเสียงเพลงเข้าไปวิ่งเคลื่อนไหวในเตียง หลินปิงมีปฏิกิริยาตอบสนองทันทีว่ามองเห็นสิ่งเคลื่อนไหวที่อยู่ตรงหน้า
"หลินปิงเริ่มส่งเสียงเห่าและแสดงท่าทางไม่พอใจต่อสิ่งแปลกปลอมและ ไม่คุ้นเคย พี่เลี้ยงก็จะรีบนำออกไปเพราะไม่ต้องการสร้างความเครียดให้กับแพนดาน้อยเรา เพียงแค่ต้องการดูพฤติกรรมตอบสนองเท่านั้น ซึ่งวันนี้ได้อัดเสียงร้องของหลินปิงไว้ด้วยโทรศัพท์มือถือเพื่อเป็นข้อมูล ในการศึกษาวิจัยในช่วงอายุนี้ของแพนด้าไว้ เท่าที่สังเกตเราพบพฤติกรรมการเห่า 4 ช่วงวัยคือเสียงร้องในตอนแรกเกิด หิวนม เห่าขู่ และการทำเสียงสะอึกจากลำคอดัง อึย อึย เมื่อมีอาการไม่สบายตัว ไม่พอใจ ตกใจ และเครียดคล้ายแพนดาโตแต่เสียงจะเล็กกว่า"
นายประเสริฐศักดิ์ กล่าวว่า ช่วงนี้พี่เลี้ยงพยายามสร้างความคุ้นเคยด้วยเสียงและการเรียกชื่อ เพราะหลินปิงเป็นแพนดาเพศเมีย หากคุ้นเคยจะง่ายต่อการดูแลใกล้ชิดในยามผสมพันธุ์ คลอด และการนำลูกออกมาตรวจสุขภาพ เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่สำคัญมากระหว่างแพนดาเพศเมียกับพี่เลี้ยง หากเดินทางกลับเจ้าหน้าที่จีนก็สามารถทำงานต่อได้ทันทีเพราะมีความคุ้นเคย กับพี่เลี้ยงได้ดีแล้ว