นายกฯ แถลงผลสอบคดี “บอส อยู่วิทยา” ไม่เปิดชื่อคนผิด
นายกฯ ยังไม่ระบุชื่อคนผิดไม่ฟ้อง "บอส" แนะยกคดีขึ้นดำเนินการใหม่-เอาผิดผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ภายหลังนายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญา ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน รายงานผลครบ 30 วัน ว่า กรณีนี้เป็นคดีที่คาใจประชาชน ไม่อยากให้ประชาชนเกิดความไม่เชื่อมั่นระบบกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของไทย ซึ่งยอมรับว่า คดีในลักษณะนี้มีเป็นหมื่นเป็นแสนคดี โดยตลอด 30 วัน คณะกรรมการฯ ของนายวิชาทำงานได้อย่างน่าชมเชย มีการส่งรายงานทุกรอบ 10 วัน และมีการพูดคุยส่วนตัวกับตนเองมาโดยตลอด แต่ตนเองไม่ก้าวล่วง เพราะถือว่าตนเองอยู่ตรงกลาง เพราะอัยการเป็นองค์กรอิสระ ส่วนตำรวจตนเองได้สั่งการไปแล้ว
ทั้งนี้ คณะกรรมการตรวจสอบฯ ได้ลงมติว่า คดีนี้ใช้ระยะเวลานานถึง 8 ปี มีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก ทั้งตำรวจอัยการและฝ่ายการเมือง ซึ่งมีความสลับซับซ้อนและมีการร้องเรียนซ้ำซากถึง 14 ครั้ง โดยคณะกรรมการตรวจสอบฯ มองว่าเป็นการกระทำแบบเป็นกระบวนการ ซึ่งต้องทำการตรวจสอบให้มีความชัดเจนขึ้น พร้อมขออย่าเพิ่งมองว่าใคร มีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง เพราะยังต้องนำเข้ากระบวนการตรวจสอบอีก จึงไม่อยากระบุรายชื่อในขณะนี้ ซึ่งทราบดีว่าหลายคนอยากทราบ แต่เมื่อทราบแล้วความขัดแย้งก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมระบุว่า เมื่อถึงเวลาจะปรากฏออกมาเอง วันนี้จึงมีข้อเสนอแนะ คือ 1.ยกคดีขึ้นดำเนินการใหม่โดยเฉพาะคดีที่ยังไม่ขาดอายุความ 2-3 คดี ที่สามารถดำเนินการได้แน่นอน 2. ดำเนินคดีและดำเนินการทางวินัยผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย 3. บางเรื่องยังไม่ชัดเจน ว่าเป็นความผิดหรือไม่แต่จะมีการตรวจสอบ พฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องในเชิงจริยธรรม 4. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการมอบอำนาจของผู้บังคับบัญชา มอบไปแล้วจะรับผิดชอบอย่างไร โดยต้องไปดูการแก้ไขกฎระเบียบอีกหลายเรื่อง รวมถึงวิธีปฏิบัติในการมอบอำนาจ โดยสิ่งเหล่านี้ก็จะส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยทันที ถ้าเป็นตำรวจก็กำกับดูแลอยู่แล้วในส่วนอัยการก็เป็นอิสระ ขณะที่ในส่วนของทนายความ สภาทนายความก็จะเป็นผู้ดูแล
สภาทนายความก็จะเป็นผู้ดูแล ว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องในส่วนนี้หรือไม่ และรัฐบาลจะให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ไปดูแลประสานงานและรายงานความก้าวหน้าให้ประชาชนทราบเป็นระยะๆ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการฯ ชุดนายวิชา ขอทำงานต่ออีก 30 วัน เพื่อเสนอแนะการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายในเชิงปฏิรูปอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง และต้องช่วยกันผลักดันต่อไปดังนั้นใครมีเบาะแสหรือข้อเสนอแนะต่างๆ สามารถส่งมาให้คณะกรรมการฯ ได้ อย่างไรก็ตามหากมีรายละเอียดสงสัยในเรื่องนี้ให้สอบถามกับนายวิชา และคณะกรรมการฯ ได้ ซึ่งทุกคนไม่ได้หวังอะไรตอบแทนแต่ต้องการทำให้เกิดความชัดเจนเกิดขึ้น ในเรื่องของกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมซึ่งเป็นหลักของประเทศชาติ ถ้าเราอยู่กันแบบไร้กฎหมายไม่ได้ บ้านเมืองก็จะกลายเป็นอนาธิปไตยทันทีไม่ใช่ประชาธิปไตย เพราะหากไม่มีกฎหมายก็อยู่ไม่ได้หลายอย่างทำให้เกิดความเสียหายกับประเทศที่ความเชื่อมั่นจากต่างประเทศก็เสียไป เศรษฐกิจก็ไม่มั่นคง การลงทุนก็ลดลง จึงขอถามว่าแล้วเราจะได้อะไรชัยชนะท่ามกลางซากปรักหักพังใครจะได้อะไร
ทั้งนี้ ระหว่างการแถลงข่าวของนายกฯ ได้มีนายวิชา มหาคุณ ประธานการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย พร้อมคณะกรรมการฯ และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ร่วมนั่งฟังการแถลงข่าวด้วย