"วิงสแปน" บริษัทย่อยการบินไทย ปลดพนักงาน 2,600 คน ยังไม่มีเงินจ่ายชดเชย
"วิงสแปน" บริษัทย่อยการบินไทย ประกาศปลดพนักงานฟ้าผ่า! 2,600 ชีวิต ยอมรับยังไม่มีเงินจ่ายชดเชยตามกฎหมาย ขอให้รอไปก่อนไม่เกิน 1 ปี
เมื่อวานนี้ (31 ส.ค. 63) บริษัท วิงสแปน เซอร์วิส จำกัด บริษัทย่อยของสายการบินไทยได้ออกประกาศบริษัทฉบับที่ 19/2563 เรื่องเลิกจ้างพนักงาน มีเนื้อหาว่า
ด้วยการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ทำให้ธุรกิจสายการบินและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องได้รับผลกระทบอย่างมาก รวมถึงบริษัท วิงสแปน เซอร์วิสเซส จำกัด ที่เป็นผู้จัดส่งแรงงงานให้แก่สายการบินในประเทศไทยด้วย
แม้ว่าระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทได้พยายามทุกวิถีทาง เพื่อช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระให้แก่พนักงาน ให้ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม รวมทั้งบริหารจัดการโดยมีมาตรการต่างๆ ในการปรับลดค่าใช้จ่ายทุกประเภทลงอย่างต่อเนื่อง
แต่จนถึง ณ ปัจจุบัน สถานการณ์การแพร่ระบาดของของโรคโควิด-19 ยังไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด กอปรกับแรงงานที่ยังคงได้รับการว่าจ้างมีอยู่จำนวนไม่มาก ทำให้บริษัทมีรายได้ลดลง และมีไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในการดูแลพนักงานที่บริษัทให้หยุดงานชั่วคราวจำนวนมาก จนทำให้ต้องประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงินต่อเนื่องอย่างรุนแรง
บริษัทจึงมีความจำเป็นต้องปรับลดค่าใช้จ่ายลงอีกให้มีความเหมาะสม และเพื่อให้พนักงานที่ยังปฏิบัติงานอยู่ในปัจจุบันยังคงสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้
"วิงสแปน" ประกาศเลิกจ้างมีผลวันนี้ 1 ก.ย.
จากปัจจัยที่เกี่ยวข้อง คือ การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และจากผู้ว่าจ้างแรงงานหลักคือบริษัท การบินไทย ที่ประสบปัญหาต้องประกาศหยุดทำการบินทั้งหมดเป็นการชั่วคราว และปัญหาการเงินซึ่งอยู่ในขั้นตอนฟื้นฟูกิจการที่ศาลล้มละลายกลาง ทำให้บริษัทไม่สามารถคาดการณ์ได้ถึงการกลับมาว่าจ้างแรงงานของผู้ว่าจ้าง และยังไม่มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดความมั่นใจว่า จะมีการว่าจ้างแรงงานในอนาคตเมื่อใด และจำนวนเดิมหรือไม่
ด้วยปัญหาการเงินที่ต่อเนื่องอย่างรุนแรงของบริษัทดังกล่าว ทำให้เป็นสิ่งยากต่อการตัดสินใจของบริษัท ที่ต้องขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ ไม่สามารถว่าจ้างพนักงานที่บริษัทให้หยุดงานในปัจจุบันได้อีกต่อไป
บริษัทจึงมีความจำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงานที่บริษัทได้มีประกาศให้หยุดงาน เพราะเหตุจำเป็น> มีผลตั้งแต่วันนี้ 1 กันยายน 2563 ทั้งนี้ ไม่รวมถึงคณะกรรมการสหภาพแรงงานวิงสแปนสัมพันธ์ และคนทำงานสนามบินแห่งประเทศไทย และพนักงานปัจจุบันที่เป็นผู้พิการ หรือหากพนักงานยังไม่ประสงค์ให้เลิกจ้าง ให้พนักงานแสดงความจำนงขอลาหยุด โดยไม่รับค่าจ้างเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 8 เดือน และให้การลาหยุดโดยไม่รับค่าจ้างเริ่มตั้งแต่ 1 กันยายน 2563 เป็นต้นไป"
ยอมรับยังไม่มีเงิน "จ่ายชดเชย"
บริษัทขอขอบคุณพนักงานที่ปฏิบัติงานให้บริษัทด้วยดีตลอดมา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พนักงานจะเข้าใจถึงสถานการณ์และความจำเป็นที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทั้งนี้ บริษัทจะมีหนังสือแจ้งให้พนักงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบเป็นรายบุคคล พร้อมกับจะแจ้งรายชื่อพนักงานที่จะเลิกจ้างแก่สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เพื่อให้พนักงานที่มีสิทธิ ได้รับสวัสดิการที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ บริษัทจะทยอยจ่ายเงินชดเชยการเลิกจ้างและเงินอื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนดให้พนักงานภายในระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่การเลิกจ้างมีผล หรือเมื่อบริษัทกลับมามีสภาพคล่องทางการเงินดีแล้วต่อไป
บริษัทขอเรียนว่า บริษัทไม่มีเจตนาไม่จ่ายเงินชดเชยการเลิกจ้างและเงินอื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ให้พนักงานแต่อย่างใด แต่เนื่องจาก "บริษัทยังไม่มีความสามารถทางการเงินขณะนี้"
ดังนั้น บริษัทจึงต้องขยายเวลาการจ่ายเงินดังกล่าวออกไปอีกสักระยะหนึ่ง อีกทั้งหากเริ่มมีการว่าจ้างแรงงานจากบริษัทผู้ว่าจ้าง บริษัทจะพิจารณารับพนักงานกลับเข้ามาร่วมงานกับบริษัทอีกครั้ง
เปิดผลประกอบการย้อนหลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประกาศเลิกจ้างครั้งนี้ ทำให้พนักงานวิงสแปนเกือบทั้งหมด ประมาณ 2,600 คน ถูกเลิกจ้างและตกงานทันที
ทั้งนี้ บริษัท วิงสแปน เป็นบริษัทย่อยของสายการบินไทย ซึ่งสายการบินไทยถือหุ้นในสัดส่วน 49% และ บริษัท ครัวการบินภูเก็ต จำกัด (PACCO) ถือหุ้น 51% วัตถุประสงค์หลักของการดำเนินงานไม่ได้เพื่อแสวงหากำไร แต่เป็นไปเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของ บริษัท การบินไทย ในด้านการสรรหาทรัพยากรบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพ พนักงานได้รับได้รับสวัสดิการตามกฎหมายแรงงานอย่างยุติธรรม และลดต้นทุนด้านบุคลากรในระยะยาว และเพื่อให้เกิดความคล่องตัว สอดคล้องกับแผนการปรับปรุงประสิทธิภาพองค์กร
โดยวิงสเแปนจะทำหน้าที่รับจ้างให้บริการภายในสนามบิน ซึ่งต้องใช้ความชำนาญเฉพาะทาง เช่น ฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้น (กราวน์เซอรวิส) ฝ่ายครัวการบิน ฝ่ายบริการอุปกรณ์ภาคพื้น ฝ่ายช่าง ฝ่ายคลังสินค้า เป็นต้น
ทั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยผลประกอบการ 3 ปีล่าสุดของบริษัทวิงสแปน เซอร์วิส จำกัด ดังนี้
- ปี 2560 กำไรสุทธิ 2.4 ล้านบาท
- ปี 2561 ขาดทุนสุทธิ 97 ล้านบาท
- ปี 2562 กำไรสุทธิ 5.6 ล้านบาท