โฆษกอัยการสูงสุดโต้ แม้ว ทวิตเตอร์

โฆษกอัยการสูงสุดโต้ แม้ว ทวิตเตอร์

โฆษกอัยการสูงสุดโต้ แม้ว ทวิตเตอร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อ้างอัยการสั่งถอนฟ้องคดีได้ แจงขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาล

โฆษกอัยการสูงสุดโต้ แม้ว ทวิตเตอร์อ้างอัยการสั่งถอนฟ้องคดีได้

เมื่อวันที่ 9 กันยายน นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ว่า อัยการมีอำนาจถอนฟ้องคดีหากเห็นว่าการฟ้องจะไม่เกิดประโยชน์และช่วยทำให้ประเทศชาติเกิดความสงบสุขว่า ถือเป็นความเห็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งอำนาจการถอนฟ้องแม้เป็นดุลพินิจของอัยการตามกฎหมาย แต่ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลด้วยว่าจะเห็นสมควรให้อัยการถอนฟ้องคดีที่ไม่สมควรฟ้องหรือไม่ โดยในอดีตเคยมีคดีที่อัยการใช้ดุลพินิจถอนฟ้องจำเลย อาทิ คดีฆ่า น.ส.เชอรี่แอน ดันแคน หลังจากพบว่ามีการจับจำเลยผิดตัว และคดีเด็กขายของในห้างสรรพสินค้าโลตัส ขโมยซาลาเปาเหลือจากการขายกลับไปให้น้องกิน 1 ลูกแต่ถูกจับได้ และตำรวจส่งคดีมาให้อัยการสั่งฟ้อง อัยการก็ใช้ดุลพินิจสั่งไม่ฟ้องเพราะแม้เด็กกระทำผิดเพราะขโมยของจริง แต่ทำไปเพื่อให้น้องได้มีของกินเพราะครอบครัวยากจน การฟ้องเด็กคนนี้จึงไม่เกิดประโยชน์ อัยการสูงสุดจึงใช้อำนาจตามกฎหมายสั่งไม่ฟ้อง

โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ส่วนคดีที่รัฐบาลออกนโยบายให้อัยการถอนฟ้องในอดีต มีตัวอย่างเกิดขึ้น ในสมัยรัฐบาล ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี เคยมีนโยบายให้ถอนฟ้องชาวบ้านกว่าร้อยคนทำผิดฐานบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติทางภาคเหนือ ชาวบ้านทำไปเพราะไม่มีที่ทำกินต่อมาถูกดำเนินคดี ซึ่งอัยการสั่งฟ้องเพราะบุกรุกผิดกฎหมายจริง แต่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ เห็นว่าการฟ้องชาวบ้านซึ่งไร้ที่ทำกินไม่เกิดประโยชน์ เพราะชาวบ้านทำผิดโดยจำเป็นเนื่องจากยากจนและการดำเนินคดีไม่ใช่ทางแก้ปัญหา รัฐบาล ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ จึงมีนโยบายถอนฟ้องและใช้แนวทางบริหารเข้าไปจัดการด้วยการหาที่ทำกินให้ใหม่แล้วให้ชาวบ้านออกจากสถานที่ที่บุกรุกเข้าไปอยู่อาศัย เรื่องนี้จึงจบลงด้วยความสงบสุข นอกจากนี้สมัยนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรีเคยมีนโยบายถอนฟ้องชาวเวียดนามจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีความผิดฐานหลบหนีเข้าเมืองด้วยการลงเรือเข้ามาทางจังหวัดชลบุรี ขณะนั้นเรียกกันว่า คดีเรือมนุษย์ ช่วงนั้นรัฐบาลนายอานันท์กำลังมีนโยบายเปิดประเทศสร้างสัมพันธไมตรีกับประเทศเวียดนาม จึงมีนโยบายสั่งให้อัยการถอนฟ้องคดีชาวเวียดนามที่หลบหนีเข้าเมือง เพื่อไม่ให้กระทบสัมพันธไมตรี การถอนฟ้องจึงเป็นประโยชน์กับประเทศมากกว่า

โฆษกมาร์ค ปัดนายกฯเจรจา แม้ว ตีกรรเชียงอยู่ต่างแดนอ้างกลัวผิดกม.

ที่รัฐสภา นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงตอบโต้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จัดการรายวิทยุโจมตีรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีในหลายประเด็นว่า รัฐบาลไม่เคยหนีความจริง โดยไม่ยอมให้พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อรัฐบาลพร้อมเผชิญความจริงตลอด แต่ตัวพ.ต.ท.ทักษิณเองกลับตีกรรเชียงอยู่ต่างประเทศ และไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นนักโทษที่ใช้เทคโนโลยีทางการสื่อสาร สร้างความเสียหายให้รัฐบาลและประเทศ ซึ่งมีความก้าวหน้ากว่ากฎหมายไทย จึงไม่สามารถเอาผิดตามกฎหมายได้ แต่ในอนาคตคงต้องสะสางกฎหมายให้เอาผิดกับผู้ไม่หวังดีใช้เทคโนโลยีสื่อสารสร้างความเสียหายให้กับชาติ รวมถึงการสร้างภาพว่าพยายามจะสร้างสมานฉันท์อ้อนว่าอยากคุยกับนายกฯนั้น ยืนยันว่านายกฯพร้อมจะไปคุยกับผู้ต้องหาที่กลับมารับผลตามคำพิพากษาเข้าไปอยู่ในคุก หากไปคุยตอนนี้นายกฯอาจทำผิดกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานะละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ไม่ดำเนินคดีกับนักโทษ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook