ฟังกันหรือยัง ผู้ว่าฯพิษณุโลกทำเก๋ จับไมค์ปล่อยซิงเกิล ก่อนอำลาเกษียณอายุราชการ
วานนี้(2 ก.ย.) นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัว เผยแพร่ซิงเกิ้ลพร้อมมิวสิควีดีโอ เพลงวิถีผู้ว่า(ราชการจังหวัด) และได้เขียนข้อความเอาไว้ว่า
"กราบอำลาชีวิตผู้ว่าราชการจังหวัดตลอดระยะเวลา 5 ปีครับ เนื่องจากเกษียณอายุราชการ ด้วยเสียงเพลงที่แต่งและขับร้องเองจากใจของผมฝากไว้ในแผ่นดินครับ"
นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2563 หลังจากได้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นระยะเวลา 5 ปี ใน 4 จังหวัด คือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ สุโขทัย จังหวัดละ 1 ปี จังหวัดพิษณุโลกบ้านเกิด 2 ปี และได้ทำงานทดแทนคุณแผ่นดินในแต่ละจังหวัดด้วยความวิริยะอุตสาหะ โดยเฉพาะด้าน การศึกษา ได้พัฒนาศักยภาพทางการศึกษาและได้จัดตั้งมูลนิธิส่งเด็กด้อยโอกาสได้มีโอกาสได้เรียนต่อในระดับปริญญาตรีกว่า 120 คน ด้านการศาสนาได้บูรณะวัดพระธาตุปางหมู และสร้างพระพุทธสุริยเมตตรัยขนาดความสูง 12 เมตร ให้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ คู่กับวัดพระธาตุดอยกองมู จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว
ปฏิรูปการเบิกจ่ายงบประมาณ การรณรงค์แก้ไขหมอกควันไฟป่าที่แม่ฮ่องสอนลดลงถึง 50% การปราบปรามยาเสพติด การบริหารจัดการขยะ การแก้ไขปัญหาความยากจน การส่งเสริมการปลูกพืชอินทรีย์ การสร้างโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยที่ พรหมพิราม พิษณุโลก ให้เป็นโรงพยาบาลที่เปิดการรักษาด้านหัตการทางการแพทย์ทางเลือก ในระดับประเทศ การรณรงค์ทำหมันสุนัขแมวจรจัด ในวัดวาอาราม การป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดโควิด19 ฯลฯ และการถวายความจงรักภักดีในการดำเนินงานพิธีบรมราชาภิเษกในหลวงรัชกาลที่ 10 รวมทั้งงานตามโครงการในพระราชดำริ ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกคนได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งและปฏิบัติราชการต่างพระเนตรพระกรรณในทุกจังหวัด เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก้ไขปัญหาต่างๆของราษฎรในแต่ละจังหวัด นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก จึงขอเป็นตัวแทนของผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกษียณอายุราชการกราบลาประชาชนทุกคนและพวกเราทุกคนจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ตลอดชีวิต ขอกราบลาด้วยเพลงและมิวสิควีดีโอนี้
และชีวิตหลังเกษียณอายุราชการ นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมืองแต่จะขอทำงานด้านมูลนิธิเพื่อการศึกษาต่อ คือ มูลนิธิพิพัฒน์แม่ฮ่องสอน มูลนิธิพิพัฒน์พิษณุโลก และมูลนิธิพิพัฒน์การศึกษาสุโขทัย เพื่อขับเคลื่อนการศึกษา จะตั้งสถาบันติวให้นักเรียน และจะร่วมกับจังหวัดเพื่อขับเคลื่อนสร้างแรงบันดาลใจทางด้านการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียน ได้รักสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ด้วยเงินของมูลนิธิร่วมกับทางจังหวัดต่อไป
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ให้ความสนใจและขับเคลื่อนเรื่องทุนการศึกษา ให้โอกาสเด็กนักเรียนที่ยากไร้ ก็เพราะว่า ในอดีตตนเองก็ได้รับทุนการศึกษามาตั้งแต่เด็ก เพราะตนเองฐานะทางบ้านไม่ดี แต่ตั้งใจเรียนดี ผลการเรียนดี จึงทำให้ได้รับโอกาสด้วยทุนการศึกษาจนจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี และสุดท้ายในเมื่อตนเองได้มีโอกาส มีความสามารถที่จะช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่ยากไร้ จึงตั้งใจดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน และทดแทนบุญคุณคนที่ส่งตนเองเรียนจนจบการศึกษาด้วย