“ยุทธพงศ์” ยันบริสุทธิ์ใจ เปิดปมเรือดำน้ำ เตรียมอภิปรายอีกครั้ง

“ยุทธพงศ์” ยันบริสุทธิ์ใจ เปิดปมเรือดำน้ำ เตรียมอภิปรายอีกครั้ง

“ยุทธพงศ์” ยันบริสุทธิ์ใจ เปิดปมเรือดำน้ำ เตรียมอภิปรายอีกครั้ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ยุทธพงศ์" ยืนยัน เผยข้อมูลจัดซื้อเรือดำน้ำทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ ย้ำ ขอเอกสารมอบอำนาจจาก ทร. แล้ว 5 ครั้งแต่ไม่เคยได้  

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวกรณีที่กองทัพเรือแจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาทกับตนเองกรณีให้ข่าวเกี่ยวกับการจัดซื้อเรือดำน้ำทำให้กองทัพเรือเสียชื่อเสียง ว่า ตนเชื่อว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำทางกองทัพเรือไม่มีใครเห็นด้วยทั้งหมด โดยในเอกสารซื้อเรือดำน้ำ เป็นชื่อของ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กับ บริษัท ไชน่าชิป บิลดิ้ง แอนด์ ออฟชอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งไม่ใช่เป็นแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล(จีทูจี) อย่างที่กองทัพเรือกล่าว อ้าง เพราะเรื่องจีทูจี เคยร้องเรียนการจัดซื้อรถดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร จนกระทั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีคำพิพากษาในคดีดังกล่าว ซึ่งถือเป็นบรรทัดฐานของการจัดซื้อแบบจีทูจี ว่าการจะเป็นจีทูจีต้องดำเนินการแบบรัฐต่อรัฐในทุกขั้นตอนการจัดซื้อ ไม่ใช่เป็นจีทูจีเฉพาะตอนเริ่มต้น แต่กรณีการจัดซื้อเรือดำน้ำ ของรัฐบาลไม่ได้เป็นอย่างที่คำพิพากษาศาลฎีการะบุไว้ไม่ต้องมาเถียงกันว่าใครเป็นของจริงใครเป็นของเก๊ ใครทำผิดไปจากคำพิพากษาก็ถือว่าติดคุกทั้งหมด

พร้อมกันนี้ ยืนยันว่าเจตนาที่ทำไปเพื่อความบริสุทธิ์ใจในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน ซึ่งเรื่องนี้ตนเองเรียกร้องขอเอกสารมอบอำนาจฉบับเต็มจากกองทัพเรือ (Full Powers) มาแล้ว 5 ครั้ง แต่จนถึงขณะนี้ทางกองทัพเรือก็ไม่ได้มีการนำเอกสารดังกล่าวมาแสดง กลับมาจากแจ้งความดำเนินคดีกับตนเอง

“ยุทธพงศ์”จ่อนำหลักฐานจัดซื้อเรือดำน้ำอภิปราย 9 กย.นี้

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการจัดซื้อเรือดำน้ำของทัพเรือที่อ้างว่าเป็นการซื้อแบบรัฐต่อรัฐ ว่า เรื่องดังกล่าวอาจเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 75 ที่ว่าด้วยหลักการรัฐต้องทำให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข และ มาตรา 62 รัฐจะต้องจัดทำงบประมาณให้เกิดความเป็นธรรม แต่เรือดำน้ำทำให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุขท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิค-19 ได้หรือไม่ ผู้บัญชาการทหารเรือ อย่าหลบอยู่ข้างหลัง ให้ออกมาข้างหน้า ซึ่งเดิมคิดว่าเรื่องนี้จะจบ
หลังจากที่กองทัพเรือชะลอการจัดซื้อเรือดำน้ำออกไป แต่กองทัพเรือก็มาแจ้งความดำเนินคดีกับตนเองจึงต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ ถ้ากองทัพเรือไม่เลิกตนก็ไม่เลิก ต้องต่อสู้กันด้วยการพิสูจน์ว่าใครของจริงใครของปลอม

ขณะเดียวกัน ในการอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 152 ในวันที่ 9 กันยายนนี้ ตนเองจะนำหลักฐานเด็ดเรื่องเรือดำน้ำที่พิสูจน์ให้เห็นว่า การจัดซื้อเรือดำน้ำไม่ใช่เป็นสัญญาแบบรัฐต่อรัฐมาแสดงให้เห็นกลางสภา และหลังจากนั้นจะไปร้องทุกข์กล่าวโทษพลเรือเอกลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในขณะนั้น กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ตรวจสอบว่าการจัดซื้อครั้งนี้เป็นการจัดซื้อระหว่างรัฐต่อรัฐจริงหรือไม่ ซึ่งรับรองว่าหลักฐานที่เปิดออกมานี้อาจจะส่งผลทำให้การจัดซื้อเรือดำน้ำลำแรกต้องล้มเลิกไปด้วย

ทั้งนี้ หาก  พล.ร.อ.ลือชัย มั่นใจว่าเป็นจีทูจี จริงก็ให้มาดีเบตกับตนเองออกโทรทัศน์ด้วย พร้อมทั้งขอฝากถึง พล.ร.อ.ลือชัย พล.อ.ประวิตร และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้มาฟังการอภิปรายในวันที่ 9 กันยายน นี้ ด้วยอย่าหนีไปไหน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook