ไม่หมดหวัง! มูลนิธิกระจกเงา พาสาวร้องผู้การกองทะเบียนฯ ตามหาแม่ที่หายไป 6 ปี

ไม่หมดหวัง! มูลนิธิกระจกเงา พาสาวร้องผู้การกองทะเบียนฯ ตามหาแม่ที่หายไป 6 ปี

ไม่หมดหวัง! มูลนิธิกระจกเงา พาสาวร้องผู้การกองทะเบียนฯ ตามหาแม่ที่หายไป 6 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 7 ก.ย.63 ที่ สภ.เมืองหนองคาย พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บังคับการกองทะเบียนประวัติอาชญากร (ผบก.ทว.) เลขานุการคณะกรรมการบริหารจัดการคนหายและศพนิรนาม (คบ.คนตร.) พร้อมด้วย น.ส.วรรณภา อาสนา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา ได้ติดตามการค้นหานางแพรพรรณ อาสนา ซึ่งสูญหายไประหว่างเดินทางจาก อ.โพนพิสัย มายัง อ.เมืองหนองคาย เมื่อวันที่ 8 ส.ค.2557 โดยนางแพรพรรณ มีอาการป่วยทางจิต ที่ผ่านมาครอบครัวได้ตระเวนตามหาหลายพื้นที่ จนมีผู้พบโครงกระดูกมนุษย์ในป่าละเมาะ ช่วงบ้านดงเจริญ ต.หินโงม อ.เมืองหนองคาย แต่เมื่อนำไปตรวจดีเอ็นเอเทียบกับลูกสาวแล้ว ปรากฏว่าดีเอ็นเอไม่ตรงกัน

พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบก.ทว. ได้ประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย, พ.ต.อ.ภูวิศ ศิริพานิช ผกก.สภ.โพนพิสัย และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ถึงแนวทางการติดตามค้นหาผู้สูญหาย โดยมีการเปรียบเทียบข้อมูล รวบรวมพยานแวดล้อมต่าง ๆ และรายงานให้ พล.ต.ต.สุรชัย สังขพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคายทราบ

พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบก.ทว. กล่าวว่า ในเรื่องนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ให้ความสำคัญและมีคำสั่งให้ สภ.เมืองหนองคาย และ สภ.โพนพิสัย พื้นที่เจ้าของคดี ซึ่ง ผบก.ภ.จ.หนองคาย ยังได้ให้ชุดสืบสวน ภ.จว.หนองคาย มาร่วมทำคดีนี้ด้วย เดิมตำรวจได้สืบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีครบถ้วนแล้ว แต่ตนเห็นว่ายังมีบางประเด็นที่ต้องทำให้กระจ่างว่าเกี่ยวข้องกับผู้สูญหายหรือไม่ โดยได้ตั้งสมมติฐานการสูญหายไว้ 3 ประเด็น คือ ผู้สูญหายเป็นผู้ป่วยทางจิต อาจหลงลืมแล้วหายตัวไปเอง และมีชีวิตอยู่ ซึ่งได้จัดทำภาพเปรียบเทียบ เนื่องจากขณะสูญหายมีอายุ 54 ปี เวลาผ่านไป 6 ปี ภาพอาจเปลี่ยนไปบ้าง จึงทำภาพให้คล้ายภาพในปัจจุบัน แจกจ่ายประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่พบเห็นช่วยแจ้งเบาะแสเข้ามาที่ตำรวจ ญาติ หรือมูลนิธิกระจกเงาก็ได้ , กรณีที่สอง ผู้สูญหายอาจประสบเหตุเสียชีวิต จะมีการตรวจสอบศพนิรนามและขยายพื้นที่ให้กว้างขึ้น โดยประสานให้ผู้บังคับการตำรววจภูธรจังหวัดหนองคายออกคำสั่งให้มีการตรวจศพนิรนาม ตรวจดีเอ็นเอว่าตรงกับผู้สูญหายหรือไม่ และประเด็นที่สามคือการถูกบังคับให้สูญหาย อาจมีการก่ออาชญากรรม โดยได้สั่งการให้ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย และ สภ.โพนพิสัยให้ดำเนินการตามประเด็นต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว

ด้าน น.ส.วรรณภา อาสนา กล่าวว่า ทางตำรวจได้ทำการสอบปากคำเพิ่มเติมคนขับรถสามล้อซึ่งอยู่กับแม่เป็นคนสุดท้ายพาแม่ขึ้นถจาก อ.โพนพิสัย มาส่งที่ บขส.จ.หนองคาย และประเด็นที่โทรศัพท์ของแม่มีผู้นำไปใช้หลังจากแม่หายไป 5 วัน มีการเปิดใช้และพูดคุยนาน 5 นาที ซึ่งทั้งสองประเด็นนี้ยังเป็นที่ข้องใจอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น อาจเป็นส่วนสำคัญที่จะได้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่บ้าง หาย พลัดหลง หรือเสียชีวิต จนถึงขณะนี้ก็ยังหวังว่าแม่จะมีชีวิตอยู่ ผู้ใดพบเห็นขอให้ช่วยแจ้งเบาะแสเข้ามาด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook