ดวงไฟปริศนามาตามนัด! หลังทีมพิสูจน์กระสือนำลาบเลือดมาล่อ

ชาวบ้านแห่พิสูจน์ดวงไฟปริศนา นำลาบเลือดไปเซ่นไหว้จอมปลวกใต้ห้องน้ำร้างจุดที่ลูกไฟตก พร้อมปิดไฟแอบซุ่มดูในป่าอ้อย ปรากฏว่ามาตามนัด ขณะที่คนที่เห็นตกตะลึงจนตัวชาและจุกในอก ต้องปฐมพยาบาลกันพักใหญ่

จากกรณีที่มีผู้พบเห็นดวงไฟประหลาด 2 ดวง โผล่เหนือต้นไม้หลังกระท่อมกลางนา ในพื้นที่หมู่ 17 บ้านเขาน้อย ต.ท่าโรง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ในช่วงวันโกนและวันพระ ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ส.ค. ที่ผ่านมาถึง 2-3 ครั้ง พร้อมทั้งได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพบันทึกเป็นคลิปวิดีโอโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก

รวมทั้งที่ผ่านมาเคยมีผู้เฒ่าผู้แก่และชาวบ้านที่ออกไปดักหนู เคยพบเห็นดวงไฟประหลาดเช่นกัน จนเป็นเรื่องโจษขานกันมานานหลายปี แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่า ดวงไฟปริศนาเป็นดวงไฟหรือแสงไฟจากอะไรกันแน่

แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นผีกระสือ ที่ออกหากินในเวลากลางคืน สร้างความหวาดผวาไปทั้งหมู่บ้าน จนชาวบ้านหลายคนต้องรีบปิดบ้านตั้งแต่หัวค่ำ ในขณะที่ชาวบ้านบางคนได้หาพระเครื่องมาห้อยติดตัว เพื่อป้องกันผีกระสือและภูตผีปีศาจกันเลยทีเดียว

แต่ในขณะเดียวกัน นายประทวน หรือ แมน สายอยู่ อายุ 30 ปี ลูกชายนางมาลัยทอง สายอยู่ อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 17 บ้านเขาน้อย ซึ่งไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์และสิ่งเร้นลับ โดยเฉพาะเรื่องดวงไฟประหลาดและผีกระสือ แต่กลับได้พบเจอเข้ากับตัวเองในขณะกลับบ้านกลางดึก 

จนเมื่อค่ำวันที่ 4 ก.ย. ที่ผ่านมา นายประทวน หรือ แมน สายอยู่ และชาวบ้านได้เข้าไปในพื้นที่จุดที่ดวงไฟตก เพื่อพิสูจน์หาความจริง แต่ปรากฏว่าขณะที่นายพิทยา ขุนนิทักษ์ อายุ 65 ปี เจ้าของที่ดิน กำลังจุดธูปเทียนบอกกล่าวจอมปลวกที่อยู่ใต้ห้องน้ำร้างอยู่นั้น จู่ๆ ก็เกิดอาการสะอึกสะอื้นร้องไห้ออกมาแบบไม่ทราบสาเหตุ จนทำให้ทุกคนเกิดความกลัวและรีบเผ่นแนบออกจากพื้นที่ทันที โดยไม่มีใครรอพิสูจน์

ต่อมาในวันที่ 5 ก.ย. ชาวบ้านเตรียมจะเข้าพื้นที่เพื่อพิสูจน์ดวงไฟอีกครั้ง แต่ขณะกำลังจะเดินทาง จู่ๆ ก็มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ไม่สามารถเข้าไปพิสูจน์ได้

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวานนี้ (6 ก.ย.) เมื่อ 19.00 น. นางมาลัยทอง สายอยู่ ผู้ใหญ่บ้านเขาน้อย พร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ได้เข้าพื้นที่อีกครั้ง โดยนำเครื่องเซ่นไหว้ อาทิ ลาบเนื้อ และอาหาร พร้อมดอกไม้ธูปเทียนไปถวาย

จากนั้นได้ให้นายประทวน หรือ แมน สายอยู่ ผู้ที่ไม่เคยเชื่อเรื่องลูกไฟประหลาดและผีกระสือ กระทั่งพบเจอด้วยตนเอง เป็นผู้จุดธูปเทียนบอกกล่าวขอขมาที่ลบหลู่ พร้อมทั้งบอกกล่าวว่า หากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวประสงค์สิ่งใด ก็ขอให้มาดลบันดาลใจหรือเข้าฝัน เพื่อที่จะได้ทำให้ถูกต้องต่อไป จากนั้นทีมงานและชาวบ้านทั้งหมด ได้ทำการปิดไฟถอยไปแอบซุ่มดูเหตุการณ์ที่ป่าอ้อยข้างทาง 

กระทั่งเวลาประมาณ 20.30 น. นายสุข พวงมาลา อายุ 61 ปี ชาวบ้านที่มาเฝ้าพิสูจน์ได้ตะโกนขึ้นมาว่า “มาแล้วๆ” พร้อมกับชี้ให้ทุกคนดูที่ตามยอดต้นอ้อยข้างทาง แต่ปรากฏว่าไม่มีใครมองทัน และไม่สามารถถ่ายภาพไว้ทัน

มีเพียงคนที่ยืนอยู่กับนายสุข 2-3 คน ที่มองเห็น โดยนายสุข กล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า ดวงไฟที่เห็นสีส้มขนาดฝ่ามือ ได้ลอยเรี่ยกับยอดป่าอ้อย แล้วหายไปอย่างรวดเร็ว ไม่ลอยช้าๆเหมือนที่เห็นในคลิป ทำให้ตนรู้สึกตกตะลึงตัวชาและรู้สึกจุกในอกไปสักพัก

นายประทวน สายอยู่ หรือ แมน เปิดเผยว่า ขณะที่นายสุขเจอดวงไฟ ตนกำลังเดินไปเฝ้าสังเกตอีกจุด เมื่อนายสุขตะโกน ตนจึงมองหาแต่ก็ไม่เจอ และจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับตนตนเชื่อว่า บริเวณดังกล่าวน่าจะมีผู้ที่เล่นของเล่นไสยศาสตร์นำมาปล่อย

จากที่ตนไม่เคนเชื่อเลยปัจจุบันเชื่อเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ และคืนนี้คงเป็นคืนสุดท้ายที่จะมาพิสูจน์ เพราะได้บอกกล่าวสิงศักดิ์สิทธิ์แล้วว่า หากต้องการสิ่งใดให้ไปดลจิตดลใจหรือเข้าฝัน เพื่อจะได้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้องจากนั้นก็ได้เดินทางกลับบ้านกัน