อภิสิทธิ์ ยัน พัชรวาท ลาออกยังไม่มีผล

อภิสิทธิ์ ยัน พัชรวาท ลาออกยังไม่มีผล

อภิสิทธิ์ ยัน พัชรวาท ลาออกยังไม่มีผล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกฯ อภิสิทธิ์ อ้างไม่เห็นใบลาของ พัชรวาท ระบุ ลาออกไม่มีผลถ้าผู้บังคับบัญชายังไม่อนุมัติ ระบุ ไม่ขัดเเย้งกับ ประวิตร อ้าง ธานี เหมาะสมกับสถานการณ์เดือนนี้เเละเข้าประชุมกตช.ได้

(10ก.ย.) เวลา 11.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงการลาออกของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญ ชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร.) ว่า ถึงเวลานี้ตนยังไม่ได้รับใบลาออกของพล.ต.อ.พัชรวาท เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ตนไม่อยู่ไปเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและไปเปิดงานกีฬาแห่งชาติที่ จ.ตรัง เเละเช้าวันนี้ ตนเข้าไปที่ทำเนียบรัฐบาลก็ยังไม่เห็น ที่ทราบก็ทราบจากการเป็นข่าวยังไม่มีใครรายงานตนเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น

เมื่อ ถามว่าการออกมาประกาศลาออกเช่นนี้ของพล.ต.อ.พัชรวาทมีผลเลยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่มี เพราะการลาออกในระบบราชการการลาออกจะมีผลก็ต่อเมื่อได้รับการอนุมัติ ในกรณีนี้เข้าใจว่าผู้บังคับบัญชาที่จะอนุมัติคือตน การจะอนุมัติหรือไม่อย่างไรนั้น มีกฎระเบียบอยู่ และเมื่อเป็นข้าราชการตำรวจก็จะมีระเบียบ และขั้นตอนต่างๆของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)อยู่ ปกติแล้วข้าราช การจะลาออก จะต้องบอกล่วงหน้า 30 วันยกเว้นกรณีพิเศษ ก็ต้องไปดูที่ใบลาของผบ.ตร.อีกครั้ง แต่ไม่ว่าจะเป็นกรณีไหนก็ตาม ก่อนที่ผู้บัง คับบัญชาจะอนุมัติต้องมีหน้าที่ในการตรวจสอบ

"ประเด็นที่จะต้องตรวจสอบสำหรับทุกกรณีก็จะเป็นเรื่อง ภาระผูกพันอะไรที่มีอยู่หรือไม่ รวมไปถึงการดำเนินการที่เกี่ยวพันเรื่องวินัย ซึ่งจะมีขั้นตอนตรงนี้เพราะฉะนั้นก็ต้องดูตามขั้นตอนและกฎระเบียบตรงนี้ ใบลามันยังมาไม่ถึงแต่ปกติเมื่อมา ก่อนจะอนุมัติได้ก็ต้องมีการไปตรวจสอบตามกฎระเบียบของทางราชการก่อนเท่านั้น เอง " นายกฯกล่าว

เมื่อ ถามว่า ผบ.ตร.จะต้องไปรายงานตัวตามคำสั่งต่อสำนักนายกรัฐมนตรีที่ให้มาช่วยราชการหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ในขณะนี้ถือว่า ผบ.ตร.ยัง ไม่ได้ลาออก จนกว่าจะมีการอนุมัติ ส่วนความผิดที่ป.ป.ช.ชี้มูลกรณี 7 ต.ค.2551ไปนั้น คงไม่ได้รับผลกระทบ อย่างกรณีก่อนหน้านี้ที่มีอดีตปลัดกระทรวงหรือเลขานุการก.พ.หลายคนที่เกษียณ ราชการไปแล้ว แม้เกษียณไปแล้ว แต่ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดภายหลัง ก็มีการดำ เนินกานทางวินัยจนครบถ้วนและมีผลย้อนหลังกลับไป ดังนั้นตรงนี้คงไม่ได้รับผลกระทบ แต่การอนุมัติการลาออกก็ต้องเป็นไปตามระเบียบ ตนก็ต้องทำตามกฎระเบียบ ส่วนจะมองว่าเป็นการหนีความรับผิดชอบหรือไม่นั้น ตนไม่คิดว่าจะได้รับผลกระทบเพียงแต่มีขั้นตอน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมในกฎของก.ตร.จะต้องให้มีการไปตรวจสอบว่ามีเรื่องที่ เกี่ยวข้องกับการดำเนินการทางวินัยที่ไหนบ้าง ซึ่งจะมีขั้นตอนตรงนั้นด้วยส่วนหนึ่ง

เมื่อ ถามต่อว่า นายกฯจะใช้เวลานานหรือไม่ในการเข้าไปตรวจสอบก่อนที่จะมีการลงโทษทางวินัย นายกฯกล่าวว่า ตนคงไม่ได้เข้าไปตรวจสอบเอง ตรงนี้เป็นหน้าที่ของฝ่ายกำลังพลแต่เมื่อเรื่องมาถึงตน ตนก็ต้องมาดูว่า ตรวจสอบมาเรียบร้อยหรือไม่ และจะต้องมีการแจ้งไปยังหน่วยงานไหนอย่างไรบ้าง เช่นหากมีเรื่องทางวินัยค้างอยู่กฎก็เขียนชัดเลยว่า ก่อนที่จะอนุมัติให้ลาออก ต้องแจ้งเรื่องกลับไปให้หน่วยงานต่างๆทราบก่อน ส่วนจำเป็นจะต้องลงโทษทางวินัยก่อนที่จะมีการอนุมัติให้ลาออกก่อน ก็คงไม่เป็นเช่นนั้น เพราะตามกฎต้องแจ้งให้หน่วยงานที่ดำเนินการในเรื่องนั้นทราบ ทางนั้นคงจะต้องมีความมั่นใจว่าไม่มีได้มีปัญหาหรือไม่ได้มีผลกระทบอะไร

เมื่อถามว่ามีกระเเสข่าวว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ไม่พอใจจนมีข่าวจะลาออก นายกฯ กล่าวว่า ไม่เคยได้ยิน เพราะเรื่องนี้ที่ผ่านมารมว.กลาโหมบอกว่า มีอะไรให้ตนคุยกับ ผบ.ตร.เอง และเมื่อวันที่ 9 ก ย.ก่อนที่ตนจะเซ็นคำสั่ง ตนก็โทรคุยกับผบ.ตร. และ การที่ผบ.ตร.ชิงลาออกก่อนนั้น ก็เป็นสิทธิของผบ.ตร. แต่การอนุมัติตนต้องทำตามระเบียบ และหากตนยังไม่อนุมัติก็หมายความว่ายังไม่ได้ลาออก ส่วนจะมีการทบทวนใบลาออกนั้นคงไม่มี เพราะผบ.ตร.เสนอ มาแล้วตามระเบียบตนต้องดูว่ายับยั้งหรือไม่ แต่การยับยั้งจะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ทางราชการ ถ้าจะไม่ยับยั้งหรืออนุมัติก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอน

ส่วนกรณีที่ปปช.บางคนระบุกว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับพ.ร.บ.ป.ป.ช. ที่กำหนดบทลงโทษว่าจะต้องปลดออกหรือให้ออกเท่านั้น นายกฯกล่าวว่า อันนั้นหมายความว่า เมื่อเรื่องมีมติชี้มูลมาถึงตน ตนต้องตัดสินใจว่าไล่ออกหรือปลดออก ตรงนั้นเป็นไปตามกฎหมายป.ป.ช.ไม่ได้รับผลกระทบเพราะมติมาถึงเมื่อไรตนก็ต้อง ดำเนินการตามนั้น เมื่อถามว่าเมื่อเกิดเหตุเช่นนี้เกิดขึ้นจะมีผลต่อการประชุมคณะกรรมการนโย บายตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.)เพื่อเลือก ผบ.ตร.คน ใหม่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เรื่องก.ต.ช.ไม่เกี่ยวเรื่องนี้ทั้งหมดและวันประชุมยังหาไม่ได้ เสียงที่จะโหวตถ้ามีผู้ปฏิบัติราชการแทนก็คงไม่หาย เมื่อถามต่อว่าหากพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร.รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เข้าประชุมก.ต.ช.แทนผบ.ตร.จะ มีสิทธิออกเสียงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าไม่มีส่วนได้เสียก็ได้ และ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจให้ตรงกัน เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องของการมาหยั่งเสียง หรือมาล็อบบี้ ไม่ควรจะเป็นอย่างนั้นเป็นเรื่องที่จะต้องมาทำความเข้าใจให้ตรงกัน ตอนนี้ก็กำลังทำกัน ส่วนจะมีเสียงที่ไม่ตรงกับตนมากน้อยแแค่ไหนตนก็ไม่เคยนับ

เมื่อ ถามว่าหลังจากที่ป.ป.ช.มีมติออกมาเเบบนี้ตำรวจได้ปฎิกิริยาต่อเนื่องออกมา อาจจะไม่มีใจในการทำงาน นายกฯกล่าวว่า ตนคิดว่าต้องดูรายละเอียดของมติปปช. และตรงนี้ก็เป็นประเด็นหนึ่งที่เราได้พูดกันในช่วงเดือนเมษายนมาแล้ว และเป็นเหตุผลหนึ่งว่าทำไมบางครั้งการมีพ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือการใช้พ.ร.บ.ความ มั่นคง มันจะช่วยคุ้มครองผู้ปฎิบัติได้ชั้นหนึ่ง ตนยืนยันว่าข้าราชการคนใดที่ปฎิบัติตามคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นคนที่สุจริตและได้รับความคุ้มครองแน่นอน

เมื่อถามว่า อาจมีการนำเอามติป.ป.ช.มาอ้างทางที่ผิดในการปฏิบัติหน้าที่ นายกฯกล่าว ว่า เวลานี้ยังไม่มีใครเห็นมติป.ป.ช.เลย ตน ก็จะคุยกับพล.ต.อ.ธานี ว่า เรื่องนี้จำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจ และการที่ตั้งพล.ต.อ.ธานีเป็นรักษาการแทนผบ.ตร.นั้น เพราะเห็นว่าเป็นบุค คลที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในช่วงนี้มากกว่า เพราะเรารู้กันอยู่ว่า เป็นเดือนนี้เป็นเดือนที่ตำรวจจะต้องมีบทบาทสำคัญและที่กล่าวว่าอาจจะมีการ ชุมนุมที่สำคัญๆในช่วงนี้ตรงนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ตำรวจต้องมีบทบาท และเราต้องดูแลว่าตำรวจสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ตนเองในช่วงเดือนเมษายนนี้ตนก็ให้ความมั่นใจต่อผู้ปฎิบัติหน้าที่ได้ว่า รัฐบาลนี้ ออกคำสั่งอะไรไป เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ถ้าใครปฏิบัติตามคำสั่งโดยสุจริตก็จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย

เมื่อถามว่าหลังเกิดเหตุเดือนเมษายน รัฐบาลพยายามที่จะผลักดันร่างพ.ร.บ.ควบคุมการชุมนุมในที่สาธารณะมันหายไปไหน นายกฯกล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับไปที่จะไปจัดทำเอง แต่เมื่อมันมีความละเอียดอ่อน เพราะว่าเมื่อมีกฎหมายในลักษณะนี้ ก็ต้องระวังไม่ให้กระทบสิทธิพื้นฐาน แต่กฎหมายที่เราใช้ตอนประกาศพื้นที่ความมั่นคงก็ด้วยเหตุผลนี้เพื่อการ ปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น เมื่อถามว่า พล.ต.อ.ธานีมีความเหมาะสมเเละไม่มีส่วนได้เสียในการเข้าประชุมกตช.เพื่อ เรียกผบ.ตร.นายกฯตอบว่า เหมาะสมในเรื่องสถานการณ์เเละมีความรู้ความสามารถ

เมื่อถามว่า ทำไมไม่ตั้งพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษาสบ.10สตช.มาทำหน้าที่รักษาการผบ.ตร.เหมือนที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ยิ้มเเละไม่ตอบคำถามนี้

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook