"อรชร เชิญยิ้ม" เปิดชีวิตเคยกินยาฆ่าตัวตายเพราะผู้หญิง ยอมรับหัวใจเป็นสาวตอนแก่
ชีวิตจริงยิ่งกว่าละครของ อรชร เชิญยิ้ม เคยมีเมียมาแล้ว 2 คน มีลูกด้วยกันหนึ่งคน ก่อนเปิดตัวว่าเป็นสาวประเภทสองผ่านทาง รายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง one31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ ซินแสเป็นหนึ่ง เป็นพิธีกร พร้อมเผยเรื่องราวในวันวานที่เคยคิดสั้นเพราะผู้หญิง แล้วสาเหตุอะไรทำไมเปลี่ยนมาเป็นสาวเต็มตัว แล้วลูกรับได้หรือเปล่า โดนล้อว่าพ่อเป็นตุ๊ดหรือเปล่า
สมัยก่อนเข้าวงการพี่ชรลำบากมาก?
อรชร : "ใช่ค่ะ ลำบากแบบต้องรับจ้างแบกปุ๋ย แล้วหาบข้าวบ้าง ได้เงินวันละ 100 น้ำยาย้อมผมอินทรีย์ไปนั่งกอกมือพองหมด ก็ทำจนไม่ไหวแล้ว ก็มีสมัครลิเกงานเบาด้วยก็เลยไปสมัคร 3 คนพี่น้อง เขาให้เป็นพระเอก 2-3 ปี แล้วมาเจอน้านง เชิญยิ้ม เขาเป็นหัวหน้าคณะ โชเล่ย์ ดาวร้าย เขาก็เอาไปเล่นในคณะเขา พอเล่นไป เล่นมา โจ๊กไม่มีแล้วในคณะเขา บังคับเลย เราก็แบบ อะไรน้านง เราเป็นพระเอก เขาบอกเป็นตลกดีแล้ว เป็นพระเอกอะไรจมูกใหญ่ ตัวก็เตี้ย มันไม่ได้ เราก็เลยคิดในใจว่าฝากไว้ก่อนละกัน กลับไปถึงบ้านนั่งส่องกระจก ร้องไห้ไป ดูถูกกูมากเลย แตก็จริงอย่างที่เขาพูด เช้าขึ้นมาก็บอกว่าน้านงเป็นก็ได้ ก็ตั้งแต่นั้นมาก็เป็นโจ๊กเลย"
จากการเป็นตลก ได้เข้าสู่วงการบันเทิงเล่นละคร เป็นยังไง?
อรชร : "ก็น้ากล้วยเป็นคนนำทาง ชี้ทาง ตัดผม จากเมื่อก่อนชรผมยาว แล้วชื่อน้ากล้วยเป็นคนเปลี่ยนให้ เมื่อก่อนทับทิมทอง แล้วน้ากล้วยถามมึงเป็นหรือเปล่า ก็บอกว่าก้ำกึ่ง เขาบอกถ้างั้นมึงชื่ออรชรดีกว่า"
ตอนนั้นที่อยู่ดีๆ พี่ชรหันหลังให้วงการ เกิดอะไรขึ้น?
อรชร : "ก็คือแต่งงานกับผู้หญิง"
ตอนนั้นเราชอบผู้หญิง?
อรชร : "ก่อนจะเข้าวงการเคยชอบผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง โดยที่ว่าพ่ออยากให้มีครอบครัว อยากให้มีเมีย เราก็อยากทำให้พ่อสมหวัง โดยที่ว่าเพื่อนพ่อมีลูกเหมือนกัน แต่ลูกเขาเป็นผู้ชาย ก็ได้ดิบได้ดี อยากให้เราเจริญตามลูกเพื่อนเขา แต่ใจเราตอนนั้น คิด 60/40 จะมีดีไหม แต่หันมาทางแม่ พอพ่อบอกว่าไปขอทางผู้หญิง แต่แม่พูดว่ามึงอยากให้ลูกมึงแต่งหรอ อยากให้ลูกมีเมียหรอ ถ้าอยากให้มีเมีย มึงหาเลี้ยงกุได้ไหม พ่อ กับ แม่ทะเลาะกัน งั้นไม่แต่งแล้วพอบอกไม่แต่งปุ๊บ อีกวันนึงก็เลยกินยาฆ่าตัวตาย"
ตอนนั้นเสียใจกับความรัก?
อรชร : "ถูกต้อง"
เสียใจที่ไม่ได้แต่งกับเขา หรือเสียใจที่ต้องขัดพ่อ ขัดแม่?
อรชร : "เสียใจที่ไม่ได้แต่ง เพราะเราชอบเขาด้วย ทุกเทศกาลเราจะไปยืนอยู่หลังบ้านเขา ส่งของขวัญให้ วันวาเลนไทน์ก็ส่งดอกกุหลาบให้ บ้านเขาจะทำเครื่องเสียง เครื่องขยาย เราก็ไปแบกตู้ลำโพง ยกของ ความรู้สึกของเรา เรารักเขาหรือยังไง ทำไมต้องทำขนาดนี้"
ย้อนกลับไปตัวเราไม่มีความผิดปกติเลย?
อรชร : "ไม่นะ แต่ในกลุ่มเพื่อนจะเป็นกะเทย เพราะกะเทยเป็นเพื่อนกับผู้หญิงที่เราชอบ เราก็เข้าทางนี้ ก็กลายเป็นกลมกลืน"
ผู้หญิงคนนี้เขาดียังไงถึงชอบ?
อรชร : "เขาดี เขาจะคุยกับเรา เล่นกับเรา เป็นคู่พระ คู่นาง เกี้ยวพาราสีกัน แต่ตอนนี้เขามีครอบครัวแล้ว เราจะไม่พูดถึงเขา"
พอพ่อ แม่ บอกไม่ต้องแต่ง วันต่อมากินยาตายเลย?
อรชร : "ก็ล้างท้องทัน แต่ถ้าใครคิดจะฆ่าตัวตาย จะกินยาตาย อย่านะ ขนาดจมูกใหญ่ๆ สายยัดเข้าไปจนเจ็บ อย่าทำเลย แล้วความรู้สึกของเราคิดว่าไม่ควรตายแล้ว ทำยังไงก็ได้ช่วยเหลือทางบ้านดีกว่า ก็ตั้งแต่นั้นมาก็หนีออกจากบ้านเลย เพื่อมาหางานทำในกรุงเทพฯ ก็มีกระเป๋าใบนึง ชุดลิเกเล็กๆ น้อยๆ ก็มาเล่นลิเกในกรุงเทพฯ"
ผู้หญิงรู้ไหม พอพ่อแม่ไม่ให้แต่งเราพยายามฆ่าตัวตาย?
อรชร : "เขาก็รู้ เขาก็ยิ้มๆ เขาก็มายืนอยู่ข้างนอก ก็เห็นแล้วแหลล่ะก็คิดว่าให้เขาไปได้ดีดีกว่า คนที่แต่งกับเขา ตอนนี้อยู่กิน มีลูก มีเต้า ได้ดิบ ได้ดี เราก็คิดว่าถ้าเราฝืนอยู่กับเขา เราก็พาเขาจมแน่ เพราะบ้านเรายากจน แล้วเหมือนเขาผลักดันให้เรามาตรงนี้ด้วย ดีเราไม่ตาย ได้มาเจอน้ากล้วย ได้มาเจอพี่หม่ำ ได้เล่นหนังพี่หม่ำด้วย เราก็ดีขึ้นทุกวันนี้"
ตอนนั้นเรื่องอะไรที่แจ้งเกิด?
อรชร : "วงษ์คำเหลา เล่นเป็นกะเทย โทร.บอกพ่อ พ่อบอกเล่นให้ดีนะ พอได้เงินแล้วกลับบ้านเลย พ่ออยากได้อะไรซื้อให้พ่อ ทำห้องน้ำ เอาไปทุ่มเทตรงนั้น แต่กลับไปบ้านต้องนุ่งผ้าขาวม้านะ เพราะให้พ่อรู้ว่ายังมีลูกชายเหลือ เพราะในบ้านผู้ชายตายหมดเลย พี่ชายคนที่2 ตาย คนที่ 3 ตาย แม้แต่พ่อยังตายเลย ก็คิดว่าถ้าเป็นผู้ชายกูตายแน่ เป็นผู้หญิงดีกว่า"
พี่รู้ตัว 100% ว่าไม่ได้ชอบผู้หญิงตั้งแต่เมื่อไหร่?
อรชร : "ตั้งแต่มาอยู่กับน้ากล้วยนี่แหละ มาอยู่ปุ๊บแล้วได้ออกงาน ยิ่งได้ออกสื่อมากๆ แล้วมีผู้ชายมาชมว่าน่ารัก ผมชอบคุณ ความรู้สึกเราฉันสวยขึ้น แล้วไม่ควรมองผู้หญิงแล้ว มองได้เหมือนกันคือเพื่อนสาว แต่ผู้ชายคือแฟนเลย ปล่อยตัวเป็นอย่างนี้เลย แล้วคำพูดของพ่อคำนึงที่ทำให้เรายืนหยัดอยู่ตรงนี้ได้ เห้ย...อย่าว่าลูกกูเป็นตุ๊ดนะ เพราะทุกบาททุกสตางค์ที่กูมีกิน มีใช้เพราะตุ๊ดนะ"
จากตอนนั้นมีแฟนเป็นผู้ชายบ้างไหม?
อรชร : "แรกๆ มีชอบ โดยที่ว่าเขาก็มีเมียแล้ว เคยซื้อรถกระบะให้เขาไปขี่ ส่วนนางกะเทยไปงานทีนึงนั่งแท็กซี่ นั่งมอเตอร์ไซค์ เขาก็ไปรับผู้หญิงคาราโอเกะมั้ง จนมีคนบอก น้ำมันหมดเราก็เติม ไม่ไหวแล้วเราเอารถคืนดีกว่า เราก็เอารถกลับมา ทีนี้เขาก็ทะเลาะกัน ด่าเราบ้าง แต่เราไม่สนใจ คิดอย่างเดียว ทำงานดีกว่า อย่าเสียเวลากับตรงนั้นเลย เดินหน้าอย่างเดียว เพราะคำพูดของน้ากล้วยด้วย มึงเคยบอกใช่ไหมว่าอยากช่วยเหลือพ่อ แม่ อยากใช้หนี้แทนพ่อ แม่ อยากดูแลครอบครัว มึงพูดใช่ไหม ใช่ค่ะ แล้วมึงไม่คิดอยากเล่นตลกหรอ ไม่อยากเข้าวงการเหรอ อยาก ถ้างั้นมึงกลับมา ค่ะ ก็กลับมาตั้งแต่บัดนั้น"
แต่ตอนที่เป็นผู้ชายที่มีความลังเลอยู่พี่ชรเคยแต่งงานมาแล้ว?
อรชร : "ใช่ค่ะ เจอกันที่งาน ก็ชอบกัน คนเราพอใจเผลอความใกล้ชิด เขาดีกับเรา ตอนนั้นเจอปุ๊บก็แต่งงานเลย"
เขารู้ไหมว่าใจเราครึ่งนึงไม่ชอบผู้หญิง?
อรชร : "เหมือนว่าเขาเคยดูข่าวว่าเราชอบผู้หญิง จนทุกวันนี้เขาก็ยังติดต่อบ้าง แต่ก็ห่างเหินกันไปแล้ว
แต่งงานแล้ว มีลูกไหม?
อรชร : "วันนั้นพลาด มีลูก 1 คน ลูกสาวตอนนี้เรียนอยู่สารพัดช่าง ปี 2 แล้ว ลูกอยู่กับย่า เราก็เทียวไปเทียวมาวันไหนไม่มีงานก็จะไปอยู่บ้าน อยู่กับครอบครัว"
พี่เคยเจอเขาไหม?
อรชร : ก็เจอคนแรกที่เรากินยาตาย เขาก็จะเรียกเราไอ้เฒ่า เราก็เชิดๆ สวยๆ แล้วบอกว่า ว่าไงเพื่อน
มีคนมาบูลลี่เราเยอะไหม?
อรชร : "มันก็เยอะนะ ปัจจุบันก็ยังมีอยู่ บางทีเข้ามาคอมเมนต์ บางคำก็แรง เราก็ส่งรูปหัวใจไป คือไม่สนใจ ถ้าสนใจเราก็เครียด ถือว่าเอาคำที่เขาว่าเราเป็นสะพาน เป็นบันได แล้วเดินไปเรื่อยๆ แล้วทุกคนที่ว่าเรากลับมาคุยกับเราว่าเป็นกันเองเยอะ ดีจังเลย ไม่หยิ่ง"
ที่มันแรงๆ หนักจริงๆ คืออะไร?
อรชร : "จังหวัดระนอง ไปงานมากลางวันเด็กมันมาซื้อของเราก็บอกมีโปรโมชั่นอย่างนู่น อย่างนี้ เด็กมันเห็นเรา เราหันไปพอดี เด็กบอก อุ้ย...เหี้ย เราก็บอกว่าคุณน้อง อุทานหรือด่าพี่ เด็กมันก็ขำแล้วก็วิ่งไป มาอีก มาถ่ายรูปด้วย ชูนิ้วกลาง ถ่ายคู่กับเรา เราก็แบบว่าเหมือนเด็กรัก ก็เล่นกันจนสนิทกับเด็ก"
ลึกๆ มีน้อยใจไหม?
อรชร : "เดี๋ยวนี้ไม่มี จะลึกแค่ไหน ยังไงก็ช่าง"
พี่ชรรับลูกมาเลี้ยง ต้องเลิกกับภรรยาเพราะความไม่เข้าใจกัน?
อรชร : "เราก็อยากช่วยเหลือครอบครัวเรามากกว่า เราไม่ได้เห็นแก่ตัว แต่คือเวลาไม่มีให้กันมากกว่า เพราะเราเลือกครอบครัว เพราะว่า 1. เราจะมามีความสุขคนเดียวไม่ได้ อยากได้อะไรก็ได้ แต่บ้านล่ะ แล้วพี่น้อง ลูกหลานล่ะ ถ้าเราออกมาสักคน ทุกคนลำบากแน่ เพราะก่อนพ่อจะตาย เรารับปากพ่อแล้วว่าเราขอดูแลครอบครัว สัญญากับพ่อไว้แล้ว เราจะเอาตัวเองมาสุขสบาย เห็นแก่ตัวไม่เอา"
เราเข้าวงการเปิดตัวว่าเราสวย เราอธิบายกับลูกว่ายังไง?
อรชร : "ตอนแรกก็ยังไม่กล้าคุย เขามีอะไรเขาจะไม่ค่อยคุยกับเรา เขาจะสื่อสารทางย่า ทางอา จนแบบ...ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว อยากได้อะไรทำไมไม่บอกพ่อ ไม่ต้องไปบอกย่าหรอก จนเขาเรียนสูงขึ้น เพื่อนเขาก็จะถาม วันแม่ เขาไม่มีแม่นิ แล้วพี่สาวก็ไม่ว่าง ไปเองดีกว่า แต่งตัวผู้หญิงเลย คนก็จำเราได้ คือมันโดดเด่น เพราะว่ามนุษย์จริงๆ ก็ไม่กล้าแต่งแบบนี้หรอกค่ะ ไปปุ๊บเขาก็ยิ้มแบบดีใจ จนทุกคนถาม เราก็บอกว่าเนี่ยลูกสาว จนลูกขึ้นปี1 ไปเรียนสารพัดช่าง จนอาจารย์เขาให้ผู้ปกครองมีไลน์คุยกัน แล้วอาจารย์บอกกับลูกสาวจะให้เรียกพ่อ หรือเรียกแม่ดี แล้วลูกสาวก็มาเล่าให้ฟัง เขาก็บอกว่าดีจังมีทั้งพ่อ ทั้งแม่"
เคยสับสนไหม เพราะคนเรียกป้าบ้าง เรียกแม่บ้าง เรียกลุง เรียกน้าบ้าง?
อรชร : "ไม่งงนะ แต่คนในบ้านเนี่ย ลุง ตา พ่อ จะอยู่ในกลุ่มนี้ชิน แล้วลูกพี่ ลูกน้องมีลูก หลาน มาอีก ก็จะเรียกปู่ เราก็ไม่ได้แคร์ ก็เรียกไปเลย เราต้องยอมรับให้ได้"
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 13.40-1430 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
อัลบั้มภาพ 4 ภาพ