สุดอนาถา! ลุงทิ้งศพเมียลงแม่น้ำเจ้าพระยา อ้างไม่มีเงินทำศพ วัดไม่เผาเพราะไม่มีเอกสาร

สุดอนาถา! ลุงทิ้งศพเมียลงแม่น้ำเจ้าพระยา อ้างไม่มีเงินทำศพ วัดไม่เผาเพราะไม่มีเอกสาร

สุดอนาถา! ลุงทิ้งศพเมียลงแม่น้ำเจ้าพระยา อ้างไม่มีเงินทำศพ วัดไม่เผาเพราะไม่มีเอกสาร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศพหญิงปริศนาลอยแม่น้ำเจ้าพระยา สืบจนเจอว่าสามีนำมาทิ้ง เพราะไม่มีเงินทำศพและไม่มีเอกสาร ศพเน่าคาบ้านไม่รู้จะทำยังไง

(9 ก.ย.63) จากกรณีเมื่อวันที่ 1 ก.ย.63 ที่ผ่านมา ตำรวจ สน.ปากคลองสาน ได้รับแจ้งเหตุพบศพปริศนา ที่บริเวณท่าน้ำท่าดินแดง ก่อนที่ตำรวจจะรีบลงพื้นที่ไปตรวจสอบศพผู้เสียชีวิตดังกล่าว และพบว่าเป็น เพศหญิง อายุประมาณ 20-40 ปี ผิวขาว สภาพเปลือยกาย ไม่มีเสื้อผ้าและเอกสารติดตัว สภาพศพถูกถุงพลาสติกสีชมพูคลุมร่างตั้งแต่ช่วงศีรษะถึงบั้นเอวก่อน 1 ใบ และมีถุงพลาสติกสีเขียวคลุมทับอีก 1 ใบ ที่ข้อมือซ้ายพบกำไลโลหะฝังวัสดุคล้ายเพชรสีขาวสวมอยู่ 1 วง สภาพศพขึ้นอืดเน่าเปื่อย

เมื่อตรวจสอบพบบาดแผลฉกรรจ์ที่บั้นเอวขวาและบั้นเอวด้านหลัง ผมและเล็บหลุดร่อน แพทย์สันนิษฐานเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 72 ชั่วโมง ศพดังกล่าวได้ลอยมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา มาขึ้นที่ท่าเทียบเรือท่าดินแดง
 ตำรวจชุดสืบสวนได้ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามท่าน้ำในละแวกที่พบศพกว่า 100 ตัว จนกระทั่ง พบเบาะแสสำคัญ

ตำรวจพบภาพผู้ต้องสงสัย ในช่วงเวลากลางดึกของคืนวันที่ 30 ส.ค.63 ต่อเนื่องมาที่เช้ามืดวันที่ 1 ก.ย.63 กำลังนำถุงพลาสติกใบใหญ่ห่อหุ้มวัตถุคล้ายร่างมนุษย์ ทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ไปทิ้งลงแม่น้ำใต้สะพานพุทธใกล้วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เมื่อไล่กล้องวงจรปิดไปเรื่อยๆ ก็พบว่า ผู้ต้องสงสัยใช้รถจักรยานยนต์นำถุงพลาสติกดังกล่าว ตั้งตรงช่องที่พักเท้าด้านหน้าและใช้หว่างขาหนีบออกมาจากบ้านเช่าในซอยท่าดินแดง 15 โดยขี่จักรยานยนต์ลัดเลาะมา ใช้ระยะทางราว 1.5 กิโลเมตร เพื่อนำถุงดังกล่าวมาทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา

กระทั่งเช้าวันที่ 1 ก.ย.63 พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งว่าพบศพที่ท่าน้ำท่าดินแดง ห่างจากบ้านเช่าของผู้ต้องสงสัยเพียงไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น

ด้าน พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 เปิดเผยว่า เมื่อได้หลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 7 ก.ย.63 ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ปากคลองสาน พร้อมหมายค้นศาลอาญาธนบุรี ก็ได้เข้าตรวจสอบบ้านเช่าของผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าว ก่อนพบ นายอัณณพ อายุ 62 ปี เป็นผู้เช่าบ้าน ซึ่งนายอัณณพ ได้ยอมรับว่า ศพหญิงปริศนาที่พบ คือ นางวาสนา อายุ 59 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นภรรยาของตนเอง

นายอัณณพ เล่าด้วยความรันทดว่า ตนมีอาชีพสานตะกร้อครอบปากสุนัขขาย แต่รายได้ไม่ค่อยดีต้องอดมื้อกินมื้อ ก่อนหน้านี้หลายปีเคยเลิกรากับผู้ตายไปแล้ว จนเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ทราบข่าวว่าผู้ตายป่วยเป็นมะเร็ง ลุกลามไปทั่วร่างกายจนไม่สามารถลุกเดินไปไหนได้ ต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงและไม่มีใครดูแล จึงเดินทางไปรับตัวมาจาก จ.เชียงใหม่ เพื่อนำมาดูแลที่บ้านเช่า เนื่องจากเห็นว่าเคยเป็นสามีภรรยากัน

จนกระทั่งวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนกลับมาถึงบ้าน ก็พบว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว ด้วยความที่ไม่มีเงินทำศพและไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร พยายามติดต่อหาวัดเพื่อเผาศพภรรยา แต่ทุกแห่งยืนยันว่าต้องใช้เอกสารมรณบัตร แต่ตนไม่มี เมื่อหาทางออกไม่ได้ ศพจึงถูกทิ้งไว้ในห้องนาน 3 คืน จนเริ่มขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็น จากนั้น ตนจึงตัดสินใจนำร่างเปลือยเปล่าของภรรยาคลุมด้วยถุงพลาสติกใบใหญ่ทั้งท่อนบนและท่อนล่าง ก่อนนำขึ้นรถจักรยานยนต์ เพื่อไปทิ้งที่ท่าน้ำใต้สะพานพุทธยอดฟ้า จนกระทั่งศพภรรยาลอยขึ้นมาตรงท่าน้ำไม่ไกลจากบ้านเช่าของตน และตำรวจบุกมาจับกุมตัวในที่สุด

ด้าน พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ผบก.น.8 กล่าวอีกว่า เมื่อผู้ต้องหายอมรับว่า ทำไปเพราะไม่มีทางออก หาเงินทำศพภรรยาไม่ได้ ก็ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา ผู้ใดไม่มีเหตุอันสมควร ทำให้เสียหาย เคลื่อนย้าย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งศพ ส่วนของศพ อัฐิหรือเถ้าของศพ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ก่อนควบคุมตัวนายอัณณพ ส่งศาลแขวงธนบุรีเอาไว้ก่อน หลังจากนี้ต้องรอผลยืนยันจากแพทย์ว่า นางวาสนา เสียชีวิตเพราะเหตุใดกันแน่ หากพบว่าสาเหตุไม่ตรงกับคำให้การของ นายอัณณพ ก็สามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้

และอยากฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนว่า ช่วงนี้วิกฤตเกิดขึ้นทั่วประเทศ หากครอบครัวใดต้องประสบปัญหาในลักษณะนี้ อย่าได้ด่วนตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยวิธีผิดๆ ขอให้ท่านไตร่ตรองและลองมองหาผู้ช่วยคิดก่อน อย่างน้อยโทรศัพท์ปรึกษาตำรวจที่เบอร์ 191 เพื่อให้ตำรวจท้องที่เข้าช่วยเหลือได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook