ตามล่า "หมีควาย" ทำร้ายชาวบ้าน ระดมกำลัง 300 นาย พร้อมบินโดรน-พารามอเตอร์

ความคืบหน้ากรณีมีประชาชนในพื้นที่ บ้านเทพประธาน ต.บริบูรณ์ อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น พบ "หมีควาย" ลงมาหาอาหารในหมู่บ้านและทำร้ายประชาชน นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า วันนี้ (9 ก.ย. 63) เมื่อเวลา 07.30 น. เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูเวียง , เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสีชมพู , เจ้าหน้าที่จาก สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น สาขาอำเภอชุมแพ (พื้นที่รับผิดชอบ) , กำลังอาสาสมัครกู้ภัย , ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) , โดยมี ผู้อำนวยการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 (ขอนแก่น) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นประธานการประชุมวางแผน (ผู้บัญชาการเหตุการณ์) ร่วมกันประชุมวางแผนจัดวางกำลังร่วม 300 คน เดินเท้าตีวงตามหาหมีควาย

พร้อมใช้อากาศยานไร้คนขับโดรนขึ้นบิน 6 ตัว พารามอเตอร์ เพื่อบินสำรวจในมุมสูง หน่วยยิงยาสลบ และได้มีการปิดกั้นพื้นที่จุดที่พบหมีควาย เป็นเขตอันตราย ห้ามไม่ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่โดยเด็ดขาด เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย ซึ่งที่ผ่านมา มีผู้ได้รับอันตรายถูกหมีควายทำร้ายบาดเจ็บแล้ว 4 ราย เป็นกำนันตำบลบริบูรณ์ 1 ราย , อบต. 1 ราย ถูกหมีตะปบแขนหัก รับการผ่าตัดที่ รพ.ศูนย์ขอนแก่น ส่วนอีก 2 รายเป็นหญิงได้รับบาดเจ็บถูกตะปกที่โคนขา และรายสุดท้ายเป็นหญิงมีครรภ์ ตื่นตะหนก สะดุดล้ม ซึ่งได้รับการยืนยันจากคุณหมอว่าปลอดภัยดี

ทางด้าน นายอนันต์ ปิ่นน้อย ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 ได้สั่งการให้ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า พร้อมด้วยนายสัตวแพทย์ชำนาญการ และเจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า ได้เข้าตรวจสอบหลังได้รับแจ้งมีการพบหมีควายออกมาทำร้ายชาวบ้าน บริเวณบ้านเทพประทาน หมู่ 10 ต.บริบูรณ์ อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น เพื่อยิงยาสลบแล้วจะได้นำไปดูแลเพื่อตรวจสอบว่าเป็นหมีควายมาจากแหล่งใด แต่เนื่องจากบริเวณพื้นที่ดังกล่าวเป็นไร่อ้อยจำนวนมากและประกอบกับสลับเป็นที่โล่งกว้าง ทำให้หมีควายสามารถวิ่งหลบเข้าไปซ่อนตัวในไร่อ้อยได้อย่างมิดชิด จึงยังไม่สามารถยิงยาสลบและจับหมีควายได้แต่อย่างใด

โดยได้ประสานการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมทั้งสั่งการให้หน่วยงานของ กรมอุทยานแห่งชาติฯ ในพื้นที่ใกล้เคียง ประกอบด้วย หน่วยงานอุทยานแห่งชาติ หน่วยงานด้านสัตว์ป่า หน่วยงานไฟป่า และ หน่วยงานด้านการป้องกันและปราบปราม ได้นำกำลังพลเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญร่วมปฏิบัติงาน จำนวนกว่า 100 นาย โดยจัดแบ่งกำลังพลเข้าควบคุมสถานการณ์และรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ได้วางแผนนำกำลังเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าระวังจุดต่างๆ เพื่อคุ้มครองประชาชนในจุดเสี่ยงต่างๆ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้ทีมสัตวแพทย์ พร้อมทีมช่วยเหลือด้านสัตว์ป่า ได้เข้าทำงานโดยการยิงยาสลบ เพื่อให้สามารถควบคุมหมีควาย ดังกล่าวได้

ส่วนสาเหตุที่พบหมีควายหลงมาในพื้นที่เกษตรกรรมของประชาชนยังไม่สรุปว่ามาจากที่ไหนแน่ แต่เชื่อว่าด้วยความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่มีมากขึ้น หมีน่าจะเดินหากินมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะหน่อไม้ กระทั่งหลงเข้ามาในพื้นที่เกษตรกรรมป่าอ้อยของชาวบ้าน อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการติดตามหมีควายตัวนี้ ต้องดำเนินไปด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้ามทำร้ายเป็นอันขาด