Sanook คลุกข่าวเช้า 10 ก.ย. 63 หัวหน้าก้าวไกลอัดรัฐบาลล้มเหลว-รัศมีแขลุยเอาผิดไฮโซหนุ่มเขวี้ยงแก้ว
อรุณสวัสดิ์พบกับ Sanook คลุกข่าวเช้าประจำวันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน 2563 เช้านี้เรามีประเด็นร้อนมาอัปเดตให้ทุกคนกันอีกเช่นเคย ซึ่งเมื่อวานนี้เป็นวันแรกที่มีการประชุมสภาเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเรื่องวิกฤตทางเศรษฐกิจและวิกฤตทางการเมือง โดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 แน่นอนว่า แกนนำพรรคฝ่ายค้านต่างเตรียมประเด็นมาคอมเมนต์การบริหารจัดการของรัฐบาลกันมากมาย โดยเฉพาะ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล อัดนายกรัฐมนตรีว่าขาดภาวะผู้นำ แก้วิกฤตไม่ได้
รวมถึงประเด็นที่ รัศมีแข ตั้งโต๊ะแถลงหลังถูกไฮโซเขวี้ยงแก้วใส่หน้าจนเลือดกำเดาไหล จนเป็นเหตุให้เจ้าตัวแจ้งความดำเนินคดีเหตุทำร้ายร่างกาย เอาล่ะถ้าพร้อมแล้วไปกดปุ่มลำโพงอัปเดตกันได้เลย
เมื่อวานนี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเรื่องวิกฤตทางเศรษฐกิจและวิกฤตทางการเมือง โดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขาดภาวะผู้นำ และอยู่ภายใต้กติกา คือ รัฐธรรมนูญที่บิดเบี้ยว ซึ่งยกร่างเพื่อทำหน้าที่เฉพาะกิจ คือ สืบทอดอำนาจ แทนการแก้ไขปัญหา แม้ว่าจะบริหารประเทศมา 2 สมัย ถือว่าอยู่ในอำนาจที่มากกว่าผู้นำในระบอบประชาธิปไตยคนอื่น โดยระยะ 5 ปีแรก ไม่มีแรงเสียดทานและตรวจสอบจากฝ่ายค้าน รวมถึงมีงบประมาณล้นมือถึง 20 ล้านล้านบาท แต่อภิสิทธิ์ที่ได้นั้นไม่สามารถวางรากฐานที่ดีให้กับประเทศทั้งระบบเศรษฐกิจ การต่อสู้ภัยความมั่งคง รวมถึงการระบาดของไวรัสโควิด-19 และฝุ่น PM 2.5
นอกจากนี้ นายพิธา ยังกล่าวอีกว่าหากรัฐบาลไม่สามารถปรับปรุงและแก้ไขเศรษฐกิจได้จะมีแรงกดดันเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ ประชาชนจะหมดความอดทน และหมดความมั่นใจของรัฐบาล รวมถึงยังย้ำว่าทุกวันนี้คนไทยได้นายกรัฐมนตรีที่แย่ที่สุด โดยความวุ่นวาย ความสิ้นหวัง ล้าหลังในประเทศวันนี้เกิดจากใจกลางความล้มเหลวอยู่ที่นายกรัฐมนตรี เมื่อแก้ปัญหาบ้านเมืองไม่ได้ ควรหลีกทางลงจากอำนาจคืนอนาคตให้ชาติก่อนที่ประเทศจะย่อยยับ
หื้ม! แค่ประชุมสภาวันแรกก็ดุเดือดเผ็ดมันกันจริงๆ เอาล่ะพักเรื่องเครียดแล้วมาฟังข่าวดีกันบ้าง สำหรับผู้ปกครองที่มีสิทธิ์ได้รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดเตรียมเช็กเงินในบัญชีได้เลย เพราะล่าสุด นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า วันที่ 10 กันยายน 2563 กรมบัญชีกลางจะทำการจ่ายเงินให้กับผู้ปกครองที่มีสิทธิ์รายละ 600 บาทต่อเดือน จำนวน 1,763,797 ราย เป็นจำนวนเงิน 1,899,370,800 ล้านบาท โดยสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ หรือระบบตรวจสอบสถานะสิทธิ์โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด แค่กรอกเลขประจำตัวประชาชนผู้ลงทะเบียน ตามด้วยหมายเลขประจำตัวประชาชนเด็กแรกเกิด พร้อมกับรหัสยืนยันรูปภาพ จากนั้นก็ค้นหาข้อมูล เพียงเท่านี้ก็รู้แล้วว่าได้รับสิทธิ์หรือไม่
ปิดท้ายด้วยข่าวของรัศมีแข ที่เจ้าตัวแจ้งความเอาผิดไฮโซหนุ่มที่เขวี้ยงแก้วให้หน้าจนทำให้เลือดกำเดาไหล โดยเจ้าตัวพร้อมด้วยต้นหอม ศกุนตลา และทนายความ ได้ตั้งโต๊ะข่าวแถลง ซึ่งรัศมีแขเล่าถึงเหตุการณ์วันนั้นว่าไปเที่ยวพัทยาและบัญเอิญเจอดาราหญิงที่รู้จักจึงเข้าไปพูดคุย ไม่นานมีคนเขวี้ยงแก้วใส่หน้าตนส่งผลให้เลือดกำเดาออกจนเป็นเหตุให้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพื่อให้หมอตรวจอาการว่าจมูกหักหรือไม่ โดยก่อนหน้านี้ดาราหญิงคนดังกล่าวได้บอกกับรัศมีแขว่าแฟนของเธอเป็นคนขี้หึง อีกทั้งพยายามให้เจ้าตัวคุยกับคู่กรณีแล้วแต่รัศมีแขขอปฏิเสธเนื่องจากอยู่ในภาวะความกลัว
นอกจากนี้ รัศมีแขได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา ในข้อหาทำร้ายร่างกาย ตามคำแนะนำของเพื่อนๆ ในวงการโดยระบุว่าต้องการทำทุกอย่างให้ถูกต้องแม้ว่าคู่กรณีจะโพสต์ข้อความขอโทษผ่านทางไอจียอมรับผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่เพียงผู้เดียว
เป็นอย่างไรบ้าง ข่าวสารเช้าวันนี้พอหอมปากหอมคอกันแล้วใช่มั้ย? แล้วพบกันใหม่ในวันพรุ่งนี้สำหรับวันนี้สวัสดีค่า