ไฟไหม้มัสยิดกรือเซะ-ชาวบ้านช่วยกันดับไว้ทัน

ไฟไหม้มัสยิดกรือเซะ-ชาวบ้านช่วยกันดับไว้ทัน

ไฟไหม้มัสยิดกรือเซะ-ชาวบ้านช่วยกันดับไว้ทัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชาวบ้านระดม ดับเพลิงไว้ได้ พบต้นเพลิงมาจากห้องเก็บของ เร่งพิสูจน์สาเหตุเกิดจากอะไร

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 ก.ย. พ.ต.อ.มนัส ศิกษมัต ผกก.สภ.เมือง จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุไฟไหม้ มัสยิดกรือเซะ ตั้งอยู่หมู่ 3 บ้านกรือเซะ ต.ตันหยงลุโล๊ะ อ.เมือง จ.ปัตตานี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยมีนายธีรเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายประมุข ลมุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พ.ต.อ.มนัส ศิกษมัต ผกก.สภ.เมืองปัตตานี พบว่าเพลิงได้สงบลงแล้วหลังจากที่ชาวบ้านได้ระดมเอาถังตักน้ำสาดไฟที่กำลังลุกไหม้จนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

สอบสวนทราบว่าในช่วงเกิดเหตุได้มีคนงานตัดหญ้าและทำความสะอาดบริเวณสุสานเจ้าแม่ลิ้มก่อเหนียว ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับมัสยิดพบเห็นควันไฟกำลังลุกไหม้ จึงรีบไปบอกผู้ที่อยู่ในละแวกมัสยิดช่วยกันดับไฟไว้ได้ทัน

ด้านนายโก๊ะ(แบรง) เจะเกษม อายุ68 ปี เป็นผู้ดูแลมัสยิด ได้กล่าวว่าช่วงเกิดเหตุนั้นกำลังหลับภายในมัสยิด กระทั่งได้ยินเสียงชาวบ้านที่เข้ามาช่วยกันดับไฟ จึงรีบขึ้นไปช่วยกันตักน้ำ

ภายหลังเพลิงสงบเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบพบว่าเป็นห้องเก็บของอยู่ด้านซ้ายมือของมัสยิด เพลิงไหม้ในครั้งนี้ทำให้พรมปูละหมาดขนาดเล็กได้รับความเสียหายนับร้อยชิ้น พรมขนาดใหญ่ได้รับความเสียหาย จำนวน 3 ผืน และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียหายจากเหตุการณ์ปะทะเมื่อ 28เมษา 2547ได้ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด นอกจากในส่วนของหลังคาที่ทำด้วยพลาสติกโพลีเมอร์ชนิดใสยังได้รับความเสียหายส่วนหนึ่ง ตรวจสอบพบว่าต้นเพลิงมาจากบริเวณช่องหน้าต่าง ด้านทิศตะวันตก ซึ่งเป็นช่องหน้าต่างที่ไม่มีบานประตู ความแรงของเพลิง จึงทำให้พื้นของมัสยิดเป็นสีดำ ก่อนที่จะลามขึ้นไปด้านบน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุพนักงานทำความสะอาด อบต.ตันหยงลุโล๊ะ ได้ระดมเจ้าหน้าที่กวาดเก็บของที่ถูกไฟไหม้ และนำรถดับเพลิงฉีดทำความสะอาดผนังมัสยิดจากรอยควันไฟ โดยที่ไม่ได้มีการแจ้งชุดวิทยาการหรือคณะนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาเก็บพิสูจน์หลักฐาน จึงทำให้ไม่สามารถระบุได้ถึงสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook