"ไทยภักดี" สะกิด กลุ่มเรียกร้องแก้รัฐธรรมนูญ ถามความเห็นประชาชนส่วนใหญ่หรือยัง

"ไทยภักดี" กร้าวคิดแก้รัฐธรรมนูญ ถามประชาชนหรือยัง เตรียมจัดเวทีค้านทั่วประเทศ "หมอวรงค์" ยันเน้นใช้ความจริงสู้ความเท็จ ไม่มีม็อบชนม็อบ

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม และหฤทัย ม่วงบุญศรี แกนนำกลุ่มไทยภักดี แถลงข่าว "ไทยภักดีคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญ" ภายใต้แฮชแท็ก #ถามประชาชนหรือยัง ที่ the Street รัชดา

นพ.วรงค์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญไม่ใช่ปัญหา แต่นักการเมืองเป็นปัญหาของสังคม ดังนั้น กลุ่มไทยภักดี จึงเป็นองค์กรกลางในการรวบรวมประชาชนที่มีแนวคิดคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยมีหลักยึด 5 ข้อ คือ

1.รัฐธรรมนูญปี 2560 ผ่านประชามติด้วยคะแนนถึง 16.8 ล้านเสียง ส่วนประชาชนที่คัดค้าน 10.5 ล้านเสียงเท่านั้น จึงอยากถามนักการเมืองที่บอกว่าเป็นนักประชาธิปไตยว่า ตามหลักการต้องฟังเสียงประชาชน แต่วันนี้จะแก้ไขได้ถามประชาชนหรือยัง

2.ประชาชนยังอดอยาก ซึ่งกรณีกองทัพเรือจะซื้อเรือแบบผ่อนส่ง เพื่อดูแลผลประโยชน์ทางทะเล ฝ่ายการเมืองยังปฏิเสธโดยอ้างเรื่องนี้ แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องใช้งบประมาณกว่า 15,000 ล้านบาท

3.การที่ ส.ว.มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นผลพวงจากประชามติเช่นกัน และทางกลุ่มถือว่า "เป็นความไร้เดียงสาของกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญปี 60" เพราะตนเชื่อว่า ยังไง ส.ว.ก็ต้องลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีมาจากพรรคการเมืองที่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ และไม่มี ส.ว. คนไหนที่จะฝืนมติของประชาชนและอีก 3 ปีก็จะหมดวาระ ก่อนจะมี ส.ว.ชุดใหม่ที่มาจากกลุ่มอาชีพ

4.กลุ่มไทยภักดี กังวลว่าจะมีนักการเมืองบางกลุ่มอภิปรายในสภาฯ แบบยั่วยุและถือโอกาสนี้ใช้เวทีสภาในการปลุกระดมประชาชน ในการที่จะอภิปรายนำสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 1 ว่าด้วยความเป็นรัฐเดี่ยว "เพราะพวกนี้มีแนวคิดในการแบ่งแยกประเทศไทย" รวมถึง หมวด 2 คือหมวดสถาบันพระมหากษัตริย์ เชื่อว่า มีพรรคการเมืองที่มีแนวคิดในการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เบื้องหลัง

5.แนวคิดของพรรคการเมืองต่างๆ ที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ไม่มีสิ่งใดเป็นประโยชน์ต่อประชาชน แต่เป็นประโยชน์ของนักการเมืองเท่านั้น

โดยกลุ่มไทยภักดี เตรียมรวบรวมรายชื่อประชาชนให้มากกว่า 50,000 รายชื่อ เพื่อส่งประธานวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร ให้เห็นว่าประชาชนไม่เห็นด้วยและถามประชาชนหรือยังถ้าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมแสดงแพลตฟอร์มในการรวบรวมรายชื่อคัดค้านรัฐธรรมนูญของทางกลุ่ม ซึ่งลงชื่อได้ผ่าน QR Code แชร์ผ่านไลน์, ทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊กได้ รวมถึงลิงค์ใน Google forms และเปิดคลิปเชิญชวนประชาชนร่วมลงชื่อ โดย นพ.วรงค์เป็นผู้ลงชื่อเป็นคนแรก

นพ.วรงค์ ยืนยันว่า กระแสคัดค้านแรง ทางกลุ่มจะทำให้เร็วที่สุด ไม่น่าจะเกิน 1 เดือน โดยตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. เป็นต้นไปจะรณรงค์ทั่วประเทศ เริ่มจากจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยจะจัดเสวนาในห้องประชุมหรือสถานที่ผิดและถ่ายทอดสดทาง โซเชียลมีเดีย พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีการจัดม็อบชนม็อบแน่นอนเพราะทางกลุ่มเน้นใช้ Fact สู้กับ Fake หรือใช้ความจริงสู้กับความเท็จ และยึดถือกรอบของกฎหมาย