ดร.ศุภชัย ยันไม่มีใครทาบทามนั่ง รมว.คลัง วอนรัฐดูแลแรงงานนอกระบบ-คนชรา-ผู้พิการ
นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก หรือ WTO และที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติ ปฏิเสธกระแสข่าวนายกรัฐมนตรีทาบทามให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ว่า ไม่ได้มีการทาบทามให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ ส่วนจำเป็นต้องรีบแต่งตั้งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะพิจารณา เพราะโครงการใหญ่ยังสามารถเดินไปได้โดยต้องใช้งบประมาณให้ตรงเป้าหมายมากที่สุด ซึ่งเห็นว่ารัฐบาลใช้จ่ายงบฯ อย่างระมัดระวังมากที่สุดแล้ว ทั้งนี้ เชื่อว่าการใช้งบฯ ที่ตรงเป้าหมายจะช่วยสร้างโอกาสให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วขึ้นและคาดว่าในต้นปีหน้าสถานการณ์จะดีขึ้นไม่เลวร้ายเท่าที่คาดการณ์ไว้ และเชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะพิจารณาอย่างดีที่สุด
โดยนายศุภชัย ระบุถึงแนวทางการฟื้นฟูวิกฤติเศรษฐกิจว่า หลังเกิดสถานการณ์โควิด-19 ไทยถือเป็นประเทศหนึ่งในภูมิภาคเอเชียที่บริหารจัดการได้ดีระดับหนึ่ง และถึงแม้จะมีการกลับมาระบาดอีกรอบ ก็เชื่อว่าจะสามารถควบคุมได้ อีกทั้งยังได้รับความไว้วางใจ มีการขยายตัวด้านความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้บริโภคได้ดีกว่าที่อื่น โดยทุกประเทศต้องร่วมมือกันจึงจะสำเร็จ ในด้านการป้องกันและควบคุมโรครวมไปถึงการผลิตวัคซีนด้วย ซึ่งสถานการณ์ในไทยถือว่าดีกว่าประเทศอื่น เพราะประชาชนให้ความสำคัญกับการป้องกันตัวเอง และทุกฝ่ายให้การสนับสนุน ส่วนตัวมองว่าขณะนี้ยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่เพราะทั่วโลกประสบปัญหา ดังนั้นในระหว่างนี้ต้องหล่อเลี้ยงภาคธุรกิจทั้งรายใหญ่ รายย่อย และประชาชน ให้สามารถเดินหน้าได้ยาวที่สุดเท่าที่จะทำได้
นอกจากนี้ นายศุภชัย กล่าวถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในไตรมาส 3-4 ว่า จะหดตัวน้อยลง และตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสูงกว่าที่ผ่านมา ทำให้เห็นภาพชัดเจนว่าเศรษฐกิจไทยจะเดินหน้าไปด้วยดี แต่จำเป็นต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง ซึ่งต้องเป็นการทำงานที่ไม่ได้รอวัคซีนเท่านั้น และวางเป้าหมายหล่อเลี้ยงไม่ให้สูญเสียมากกว่านี้โดยเฉพาะการดูแลผู้ที่อยู่นอกระบบ เช่น แรงงาน คนชรา และผู้พิการที่ไม่ได้จดทะเบียนไว้ กว่า 10 ล้านคน
ทั้งนี้ การชุมนุมจะกระทบภาคเศรษฐกิจหรือไม่นั้น นายศุภชัยมองว่า สถานการณ์ขณะนี้ไม่มีที่ใดในโลกที่ไม่มีการประท้วงโดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งการประท้วงถือเป็นธรรมชาติที่ผู้เดือดร้อนต้องการแสดงออกและมีข้อเรียกร้องต่างๆ รวมถึงทางออกคือต้องเปิดโอกาสให้มีการแสดงออกอย่างเต็มที่ แต่ขอให้เป็นรูปแบบที่สร้างสรรค์ ซึ่งตนมองว่าการโจมตีกันเป็นเรื่องง่าย แต่จะให้ดีขึ้นต้องหาแนวทางแก้ไขร่วมกันจะดีกว่า เพราะในเวลานี้ทุกคนถูกกดดันกันหมด