ด.ญ.โชคดีหลินปิ่งส่อวืดไปเฉิงตูเหตุไร้สัญชาติ

ด.ญ.โชคดีหลินปิ่งส่อวืดไปเฉิงตูเหตุไร้สัญชาติ

ด.ญ.โชคดีหลินปิ่งส่อวืดไปเฉิงตูเหตุไร้สัญชาติ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวน้อยวัย 14 ปี หนึ่งในผู้โชคดีจากการประกวดตั้งชื่อ "หลินปิง" ได้เงินรางวัล 1 แสนบาท และได้ไปดูแพนด้าที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน แต่ไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ เนื่องจากเป็นบุคคลไร้สัญชาติ

กรณีเด็กไทยไร้สัญชาติ ทำให้ไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ ปรากฏขึ้นอีกราย เมื่อ ด.ญ.นารวย จะเติง อายุ 14 ปี นักเรียนโรงเรียนบ้านท่าตอน อ.แม่อาจ จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยบิดา และนายนพรุจ แปงยวง ครูประจำชั้น ไปออกรายการ "บุษบาบานเช้า" ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 เมื่อเช้าวันที่ 10 กันยายน

ด.ญ.นารวย เป็นหนึ่งในผู้โชคดีจากโครงการไปรษณียบัตรตั้งชื่อแพนด้าน้อย ซึ่งได้รับรางวัลที่ 3 เป็นเงินสด 1 แสนบาท และยังจะได้เดินทางไปเยี่ยมชมแพนด้าที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน แต่ ด.ญ.นารวยไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศไทยได้ เนื่องจากเป็นบุคคลไร้สัญชาติ ทั้งๆ ที่เกิดในประเทศไทยและมีพ่อแม่สัญชาติไทย แต่เชื้อชาติลาหู่

นายนพรุจ กล่าวว่า ปัญหาไร้สัญชาติที่เกิดกับ ด.ญ.นารวย นั้น เนื่องจากผู้ปกครองไม่ได้ไปแจ้งเกิดหลังจากคลอดบุตร รวมถึงน้องอีก 2 คน ก็เป็นบุคคลไร้สัญชาติเช่นเดียวกัน ที่ผ่านมาการทำเรื่องขอสัญชาติไทยต้องใช้เวลาพิสูจน์นานมาก เป็นปี หาก ด.ญ.นารวย ดำเนินการตามขั้นตอนที่ว่ามาเรื่องคงจะเสร็จไม่ทันกำหนดการเดินทางไปเมืองเฉิงตูแน่ จึงอยากจะขอร้องให้หน่วยงานต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ

ด้าน ด.ญ.นารวย กล่าวว่า ดีใจมากหลังทราบว่าเป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่ได้รับเงินรางวัล 1 แสนบาท และยังได้เดินทางไปเยี่ยมชมแพนด้าที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน อีกด้วย เมื่อวันที่ 7 กันยายน เดินทางมารับเงินรางวัลที่กรุงเทพฯ ก็ต้องทำหนังสือขออนุญาตเดินทางออกนอกพื้นที่ ซึ่งได้รับการอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี แต่ติดปัญหาที่ไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศไทย เพราะไร้สัญชาติไทย

ด้าน นายมนัส สุริยะ ปลัดอาวุโสอำเภอแม่อาย จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า อำเภอรับทราบถึงปัญหาเบื้องต้นที่เกิดขึ้นแล้ว กรณีของ ด.ญ.นารวยนั้น ไม่เหมือนกับกรณีของ ด.ช.หม่อง ทองดี ผู้ชนะการแข่งขันเครื่องบินกระดาษพับ เนื่องจากพ่อและแม่ของน้องหม่องเป็นชาวพม่า กรณีของ ด.ญ.นารวย เท่าที่ทราบจากข้อมูลเบื้องต้น พ่อและแม่มีสัญชาติไทย แต่เชื้อชาติลาหู่ เพียงแต่ไม่ได้ไปแจ้งเกิดให้แก่ลูกสาว จึงทำให้เด็กกลายเป็นบุคคลไร้สัญชาติ

"ทราบว่าหมอตำแยที่ทำคลอด ด.ญ.นารวย ขณะนี้ยังมีชีวิตอยู่ ก็ให้นำมาเป็นพยานร่วมกับให้ผู้ใหญ่บ้านช่วยยืนยัน จากนั้นนำเรื่องมายื่นตามขั้นตอนให้นายอำเภอพิจารณาอนุมัติให้ได้สัญชาติไทย มีชื่อในทะเบียนบ้าน ก็สามารถจะทำหนังสือเดินทางไปต่างประเทศได้ หากตรวจสอบหลักฐานการรับรองจากส่วนต่างๆ แล้ว คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด" นายมนัสกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook