คุณลุงวันเลิด เจ้าของต้นตำรับชาบูนางใน เตรียมขอโทษแทนสาขาต้นดราม่า

คุณลุงวันเลิด เจ้าของต้นตำรับชาบูนางใน เตรียมขอโทษแทนสาขาต้นดราม่า

คุณลุงวันเลิด เจ้าของต้นตำรับชาบูนางใน เตรียมขอโทษแทนสาขาต้นดราม่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คุณลุงวันเลิด ต้นตำรับชาบูนางใน เตรียมเดินทางไปขอโทษลูกค้า แทนสาขาที่เป็นประเด็นดราม่า แม้ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย

จากกรณีโลกโซเชียลติดแฮชแท็ก #saveคุณลุงวันเลิด ต้นตำรับชาบูนางใน และ #saveชาบูนางใน สาขาพระรามเก้า 41 เนื่องจากมีหลายคนเข้าใจผิด คิดว่าเป็นสาขาเดียวกันกับที่เกิดดราม่า เนื่องจากร้านอยู่ใกล้กัน

ล่าสุด (11 ก.ย.) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 ได้เปิดใจ นายวันเลิด พวงพยอม เจ้าของร้านชาบูนางใน สาขาพระรามเก้า 41 และเป็นเจ้าของต้นตำรับชาบูนางใน เปิดเผยว่า ตนเปิดร้านชาบูนางในมาตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งก็ลงมือทำเองทุกอย่าง ไปถามร้านไหนก็ไม่มีใครยอมบอก เลยต้องลองผิดลองถูกปรับปรุงมาตรฐานให้รสชาติอร่อยตามคำแนะนำของลูกค้า จนมีชื่อเสียงถึงปัจจุบัน ในช่วง 2-3 ปี ที่เริ่มทำก็มีลูกค้ารู้สึกชอบ

หลายคนก็มาขอซื้อแฟรนไชส์ ซึ่งตนเองก็ให้สูตรโดยไม่หวง และให้มาเรียนรู้ทุกอย่างโดยที่ไม่คิดเงิน แต่จะขอให้เน้นคุณภาพและการบริการเป็นหลัก และจากนั้นก็มีคนมาขอสูตรเรื่อยๆ ตนก็ไม่เคยคิดเงินเพราะอยากให้ทุกคนได้มีอาชีพซึ่งขณะนี้มีสาขากว่า 60 สาขาแล้ว แต่หลังจากนี้คงจะต้องคิดเงินค่าแฟรนไชส์ เพื่อให้ร้านดูมีคุณค่า และมีการใส่ใจบริการมากยิ่งขึ้น

สำหรับการไปเปิดแฟรนไชส์แต่ละสาขา ราคาก็จะขึ้นอยู่ที่ผู้ที่ไปเปิดเป็นพื้นที่ไหน สภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร เพราะราคาอาจจะขึ้นอยู่กับค่าเช่าที่ซึ่งผู้ทำธุรกิจจะต้องบริหารจัดการ และตั้งราคาขึ้นเอง ดังนั้นแต่ละสาขาการบริหารจัดการ รวมถึงราคาจึงไม่เท่ากัน

ตั้งแต่ทราบเรื่องก็ตกใจ เพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ก็พยายามหาทางแก้ไข และน้อมรับผิดทุกอย่าง เพราะทางร้านดังกล่าวถือว่าผิดเต็มๆ เป็นใครก็ต้องโมโห ตั้งเป็นบุฟเฟ่ต์แต่กลับไปคิดราคาลูกค้าเพิ่ม หากจะทำอย่างนั้นควรตั้งเงื่อนไขไว้แต่แรก โชคดีที่เจอลูกค้าดี หากเจอคนที่อารมณ์ร้อนคงมีการชกต่อยกันแน่

ล่าสุด เจ้าของร้านสาขาดังกล่าวได้โทรศัพท์มาขอโทษแล้ว ซึ่งเขาร้องไห้บอกว่ารู้สึกเสียใจที่ทำให้ทางร้านเดือดร้อนไปด้วย แต่ยังไม่ได้อธิบายว่าสาเหตุเป็นเพราะอะไร ตนก็ให้กำลังใจเขาไป เพราะเรื่องมันเกิดแล้วไม่อยากจะซ้ำเติมเขา แต่ต้องมาคุยและหาวิธีแก้ปัญหากันภายหลัง ซึ่งตนก็บอกเขาว่าอย่าไปโจมตีหรือต่อว่าลูกค้า หรือแก้ตัวอะไร การขอโทษคือสิ่งที่ควรทำมากที่สุด

ทั้งนี้ จะทำการเรียกประชุมทุกสาขาเพื่อหารือแก้ไขและป้องกันปัญหาดังกล่าว ซึ่งตนอยากให้ทุกสาขาบริการลูกค้าอย่างเต็มที่ อย่าคิดเล็กคิดน้อย หรือจับผิดลูกค้า

ส่วนลูกค้าคนดังกล่าวตนจะเดินทางไปขอโทษด้วยตัวเอง และจะขอบคุณที่พูดปกป้องตนและสาขาอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว และจะชดใช้ให้มากินที่สาขาพระรามเก้า 41 ต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook