ฟ้าหลังฝน ถนนหน้าบ้านลุงพล-ป้าแต๋น คึกคัก ชาวบ้านกกกอกตั้งแผงขายของ
ชาวบ้านกกกอกเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส ตั้งแผงลอยขายสินค้าต่างๆ บริเวณริมถนนสองฝั่งหน้าบ้านลุงพล-ป้าแต๋น ต่างจาก 2 เดือนแรกหลังเกิดเหตุการณ์น้องชมพู่
จากกรณี น้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ ที่เสียชีวิตปริศนาหลังหายตัวออกจากบ้านพัก หมู่ 2 บ้านกกกอก ตำบลกกตูม อำเภอดงหวง จังหวัดมุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.63 จนมาพบเป็นศพอยู่บริเวณภูเหล็กไฟ เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา จนมาถึงปัจจุบันเป็นเวลา 4 เดือน และตำรวจยังไม่สามารถจับตัวผู้ต้องหาได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
(12 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพงษ์สุดา อายุ 51 ปี เล่าว่า 2 เดือนแรกชาวบ้านยังผวา กลัวเป็นผู้ต้องสงสัย กลัวเป็นผู้ร้าย เราไม่ได้ทำ กลัวจับแพะ แต่ละคนแต่ละบ้านทุกคนกลัวชาวบ้านก็ไม่ได้ออกไปทำมาหากินไมมีรายได้อะไรเลย ต่อมาเดือนที่ 3 ก็ผ่อนคลายลงบ้าง ชาวบ้านก็เริ่มออกไปป่าได้
และมาเดือนนี้ชาวบ้านก็ได้มาขายของป่าที่หน้าบ้าน นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล และ นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น ลุงและป้าของน้องชมพู่ กลายเป็นตลาดสร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน มีคนรู้จักมากขึ้น ก็อยากชักชวนให้มาท่องเที่ยวบ้านกกกอก เพื่อให้ชาวบ้านมีรายได้ ช่วง 2 เดือนก่อนหน้านี้ชาวบ้านผวากับเหตุการณ์ ปัจจุบันนี้ก็ผ่อนคลาย
นางพงษ์สุดา กล่าวต่ออีกว่า อยากให้พ่อแม่พี่น้องทั่วประเทศ มาเที่ยวบ้านกกกอก ถ้ามาสกลนคร มาเต่างอย ก็แวะมาที่กกกอก มาซื้อของฝาก ผลไม้ป่า อาหารป่าตามธรรมชาติ เพื่อให้ชาวบ้านมีรายได้ ที่ผ่านมาชาวบ้านไม่มีรายได้เลย
จาการสอบถาม นางสาวอนุกร อายุ 29 ปี เล่าว่า เดือน 2 เดือนแรกก็ลำบากนิดหน่อย เพิ่งได้มาขายของ เดือนที่ผ่านมาไม่กล้าทำอะไร รอแต่ตำรวจมาเรียกไปสอบ มาตอนนี้ก็ดีได้ขายของมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในหมู่บ้าน มีรายได้เพิ่มจากกรีดยาง และในวันเสาร์-อาทิตย์ คนมาที่บ้านกกกอกเยอะ
ขณะที่ นางบรรทม อายุ 47 ปี เล่าว่า วันสองวันที่ผ่านมาขายของไม่ดี เพราะว่าลุงพลไม่อยู่ มาขายของหน้าบ้านลุงพลก็ดี ชาวบ้านมีอาชีพทำมาหากิน นอกจากกรีดยาง ปลูกมัน มาขายของมีรายได้เพิ่ม วันหนึ่งขายได้กำไร 300-400 บาท ดีกว่าทำไร่ ทำนาอย่างเดียว
ด้าน นางจำลอง หรือ ยายลอง อายุ 55 ปี ชาวบ้านกกกอง บอกว่า ตั้งแต่เกิดคดีขึ้นมา ปัจจุบันก็ 4 เดือนแล้ว แรกก็ไม่ดีมาในช่วงนี้ดีขึ้น มีชาวบ้านไปทำมาหากิน ไปขายของหน้าบ้านลุงพลจำนวนมาก รายได้ส่วนนั้นก็ได้ด้วย ยายก็ได้ด้วย ช่วงที่ไม่ดีมันวุ่นวายเรื่องคดี จับผู้ร้ายยังไม่ได้ก็เลยวุ่นวาย ไม่กล้าไปไหน
แต่ตอนนี้ชาวบ้านบางส่วนไปเก็บเห็ด เก็บหอย เก็บผักหวาน อะไรมาขาย หาหน่อไม้มาขายก็ดีขึ้นนิดหนึ่ง เอาสินค้ามาวางขาย ส่วนมากมีชาวบ้านกกกอก และหมู่บ้านใกล้เคียง ส่วนชาวบ้านมีความเข้าใจกันมากขึ้น ดีขึ้น มันไม่เหมือนเมื่อก่อน เมื่อก่อนหันหลังชนกัน ช่วงนี้ตอนนี้ก็ดีขึ้น
ส่วน นางนลิน หรือ ป้าถอน ชาวบ้านกกกอก กล่าวว่า เริ่มแรกรู้สึกเสียใจแต่ตอนนี้ดีขึ้น ดีขึ้นทุกอย่าง อาชีพก็มีเสริม มีนักท่องเที่ยวก็เข้ามาเยอะ ความแตกแยกของชาวบ้านก็ไม่มี ปัจจุบันก็มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนใสให้กำลังใจลุงพล และซื้อของชาวบ้านที่มาวางขาย ชาวบ้านก็มีรายได้เพิ่ม เรื่องผลกระทบก็ไม่มี ชาวบ้านก็เข้าใจกันดี
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ