ปานเทพ ขอตร.คุมกันบ้านพัก9ป.ป.ช.
ปธ.กรรมการป.ป.ช.ขอกำลังตำรวจคุมกันบ้านพัก 9 กรรมการป.ป.ช. เตือนกรรมการทุกคนให้ระวังตัว หลังเกิดระเบิดบ้านเก่า วิชา สั่งเพิ่มมาตรการดูแลสำนักงาน ด้าน วิชัย บี้ตร.สอบปมบึ้มเกี่ยวคดีสลายม็อบหรือไม่ ขณะที่ วิชา ไม่หวั่นแต่เกรงเพื่อนบ้านเดือดร้อน
(11ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุปาระเบิดที่บ้านนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.ที่ย่านบางพลัด ปรากฎว่า นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานป.ป.ช.ได้ประสานยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ส่งตำรวจสายตรวจไปเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจบ้านพักของกรรมการป.ป.ช. 9 คน ให้มากยิ่งขึ้น ขณะที่บรรยากาศที่ตึกทำงานคณะกรรมการป.ป.ช.ที่ถ.นครปฐม ส่วนใหญ่กรรมการป.ป.ช.มา ปฏิบัติหน้าที่ปกติ และมีการเพิ่มความเข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยนำเครื่องตรวจหาวัตถุระเบิดมาตรวจใต้ ท้องรถทุกคันที่มาติดต่อราชการกับป.ป.ช.และไม่มีใบอนุญาตเข้าสำนักงานป.ป.ช.
น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ตกใจกับเหตุปาระเบิดบ้านนายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช.เท่าที่คุยกับนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานป.ป.ช.ก็ขอให้กรรมการป.ป.ช.ทุกคนระวังตัว ส่วนตัวไม่รู้สึกกลัวหรือกังวลอะไร ที่ผ่านมาไม่เคยถูกข่มขู่จากใคร เหตุที่เกิดขึ้นไม่มีผลต่อการชี้มูลตัดสินคดีของป.ป.ช.ในคดีอื่นๆที่จะตามมา ป.ป.ช.ยังยึดหลักปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเที่ยงธรรม
ด้านนายใจเด็ด พรไชยา กรรมการ ป.ป.ช.กล่าวว่า ไม่เคยถูกข่มขู่คงไม่จำเป็นต้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความปลอดภัยให้ ส่วนที่ ผบ.ตร.จะฟ้อง ป.ป.ช.ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก็ไม่เป็นไร ถือเป็นความเห็นที่แตกต่าง เราระวังเรื่องความรู้สึกของเรามาก
นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ตนไม่เคยถูกข่มขู่อะไร และไม่รู้สึกกลัวกับเหตุที่เกิดขึ้น ไม่จำเป็นต้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยดูแลความปลอดภัย เชื่อว่าคงไม่เกิดอะไรร้ายแรงมากกว่านี้ เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อกำลังใจของกรรมการ ป.ป.ช. 9 คน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การปาระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการชี้มูลคดี 7 ต.ค.หรือไม่ นายวิชัย ตอบว่า ถ้าดูจากหลักฐานขณะนี้ ไม่เพียงพอที่จะชี้ได้ว่า มาจากสาเหตุนี้ แต่ถือเป็นประเด็นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำไปสอบสวน อย่างไรก็ตามทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวนายวิชาได้ขายไปเรียบร้อยแล้ว จึงรู้สึกสงสารเพื่อนบ้านที่ต้องมาบาดเจ็บ
ขณะที่นายวิชา มหาคุณ ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ได้รู้สึกกลัวหรือกังวลอะไร ยอมรับว่าที่ผ่านมาถูกขู่มาตลอด มีเพื่อนบ้านมาเตือนให้ระวัง เพราะมีคนวนเวียนมาหลายรอบ ทั้งนี้รู้สึกเกรงใจเพื่อนบ้าน เพราะบ้านดังกล่าว ตนขายไปตั้งแต่เดือน ก.ค.ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุง
เมื่อถามว่าสงสัยหรือไม่ ว่าสาเหตุมาจากการชี้มูลคดีสลายม็อบ 7 ต.ค.2551 นายวิชา กล่าวว่า ยังไม่ได้ตั้งข้อสงสัยอะไร ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการสอบสวนข้อเท็จจริงดีกว่า
ก่อนหน้านั้น เวลา 05.00 น.วันเดียวกัน (11ก.ย.) ร.ต.ท.บุรัสกร ลาผ่าน ร้อยเวรสน.บางพลัด รับแจ้งเหตุระเบิดภายในบ้านเลขที่ 250 ซ.สิรินธร 2 ถนนสิริธร แขวงและเขตบางพลัด กทม. ซึ่งเป็นบ้านพักหลังเก่าของนายวิชา มหาคุณ กรรม ป.ป.ช.) จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยพล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุรพล พินิจชอบ ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐาน (ผบก.พฐ.) พล.ต.ต.ไพศาล เชื้อรอด ผบก.น.7 พ.ต.อ.อดิศักดิ์ คุณพันธ์ ผกก.สน.บางพลัด และจนท.หน่วยงานเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด
ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน เดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ 85 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิดจาการตรวจภายในบ้านพบกันสาดด้านหน้า ถูกแรงระเบิดเสียหาย โดยบริเวณด้านบนของกันสาดยังพบกระเดื่องระเบิดชนิด M 213 ตกอยู่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนตัวบ้านพบกระจกประตูหน้าและหน้า ต่าง แตกกระจายได้รับความเสียหายเช่นกัน ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่มีคนพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว นอกจากนี้แรงระเบิดยังทำให้กระจักรถยนต์และกระจกหน้าต่างบ้านข้างเคียง ได้รับความเสียหายเช่นกัน
จากการสอบถามนางจุฬารัตน์ อื้อพรรณรังษี อายุ 44 ปี ผจก.ฝ่ายขาย โรงแรมแลนด์มาร์ค เจ้าของบ้านหลังข้างเคียง ให้การว่า บ้านที่เกิดเหตุเป็นของพี่สาวตนคือ ผช.ศ.ดร.ยุวลักษณ์ เวชวิทยาขลัง อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี โดยก่อนเกิดเหตุเวลา 04.00 ตนนอนอยู่บนชั้นสองของบ้าน ซึ่งติดกับบ้านพี่สาวได้ยินเสียงรถยนต์คล้ายรถกระบะขับผ่านมาจากทางด้านซอย จรัญ 67 ขณะที่รถขับผ่านไปนั้นได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด จึงออกมาดูทางหน้าต่าง แต่เห็นเพียงรถกระบะคันดังกล่าวขับหนีไปรวดเร็ว ซึ่งขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเช้ามืดทำให้ไม่เห็นรายละเอียดมากนัก จึงโทรศัพท์หาแม่บ้านที่อยู่ในบ้านพี่สาวอีกหลังติดกับบ้านที่เกิดเหตุว่ามี อะไรเกิดขึ้นแม่บ้านบอกว่ามีระเบิด ตนจึงแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ
ต่อ มาผช.ศ.ดร.ยุวลักษณ์ เวชวิทยาขลัง เจ้าของบ้านเดินทางมาที่เกิดเหตุ ก่อนเปิดเผยว่า เดิมบ้านดังกล่าวเป็นของนายวิชา มหาคุณ แต่ตนเพิ่งซื้อต่อมาในราคา 5 ล้านบาท เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ปกติตนไม่มีเรื่องอะไรกับใคร คาดว่าคนร้ายน่าคิดว่าบ้านหลังดังกล่าวยังเป็นของนายวิชาอยู่ เพราะก่อนหน้าที่ตนจะซื้อนายวิชา เคยมาดูแลต้นไม้ภายในบ้านประจำ ก่อนหน้านี้ตอนที่ตนยังไม่ซื้อบ้านก็ทราบว่าก็เคยถูกคนร้าย ยิงใส่ตัวบ้านมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยหลังจากนี้จะต้องเอาป้ายมาติดไว้ว่าเจ้าของเก่าได้ขายแล้ว เพื่อป้องกันเหตุร้าย
"เมื่อเช้านายวิชาโทรศัพท์มาแสดงความ เสียใจว่ารู้สึกไม่ค่อยดีถ้าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะตัวท่าน ซึ่งไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ดิฉันอยู่ที่นี้มา 30 ปีแล้วไม่เคยมีเรื่องกับใครถ้าเกี่ยวข้องนายวิชา คิดว่าคนร้ายเข้าใจผิด ไม่เช็คข้อมูลให้ดีเสียก่อน การมาทำร้ายใครไม่ใช่อยากทำก็ทำได้ คาดว่าตอนนี้คนร้ายน่าทราบแล้วว่าบ้านหลังนี้ไม่ใช่เป้าหมาย ดิฉันเพิ่งกลับจากอินเดีย ลงเครื่องที่สนามบินเวลา 05.30 น.นี้เอง น้องสาวโทรศัพท์บอกว่าที่บ้านโดนขว้างระเบิดจึงรีบกลับมาบ้าน" ผช.ศ.ดร.ยุวลักษณ์
ด้าน พล.ต.ต.สุเมธ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่แน่ชัดว่ามาจากเรื่องใด อยู่ระหว่างการสอบสวน ที่เกิดเหตุพบกระเดื่องตกอยู่บนกันสาดคาดว่าเป็นระเบิดชนิดขว้าง อย่างไรก็ตามคาดว่าคนร้ายไม่หวังต่อชีวิตเพื่อข่มขู่เท่านั้น
พล. ต.ต.ไพศาล กล่าวว่า จากการตรวจสอบแรงระเบิดคาดว่าน่าจะเป็นระเบิดแบบใช้ขว้างระยะหวังผล 3-4 เมตร ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นการข่มขู่ ไม่ได้หวังผลเอาชีวิต เพราะคนร้ายมีช่องทางในการขว้างให้ถึงตัวบ้าน แต่กลับขว้างใส่กันสาดบ้านเท่านั้น ส่วนประเด็นการก่อเหตุครั้งนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดได้ให้ฝ่ายสืบสวนออกตรวจ สอบกล้องวงจรปิดตามปากซอยทางเข้าออกและบ้างข้างเคียงแล้ว
ขณะที่ พ.ต.อ.อดิศักด์ กล่าวว่า เบื้องต้นส่งฝ่ายสืบสวนออกหาข่าว ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ปากซอยสิรินธร 2 ก็ไม่พบผู้ต้องสงสัยเพราะกล้องอยู่ในมุมอับ ทั้งนี้จะเรียกเจ้าของบ้านมาสอบสวนอีกครั้ง ในส่วนของนายวิชานั้นขณะนี้ยังไม่เรียกมาสอบสวนเพราะได้ขายบ้านไปนานแล้ว แต่ก็ไม่ตัดประเด็นการข่มขู่นายวิชา ทิ้งคาดว่าคนร้ายไม่หวังผลให้ใครเสียชีวิตหรือบาดเจ็บเพียงต้องการข่มขู่ เท่านั้น