ออกซ์ฟอร์ด ลุยทดลองวัคซีนโควิด-19 ต่อ หลังพักชั่วคราว เหตุพบอาสาสมัครป่วย
มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดเปิดเผยว่า จะกลับมาทดสอบวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาต่อ หลังจากที่พักการทดสอบเพราะมีผลข้างเคียงต่ออาสาสมัคร
มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดระบุว่า จะทดสอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ถูกพัฒนาโดยบริษัทยาแอสตราเซเนกาต่อ เนื่องจากเป็นเรื่องที่คาดการณ์ไว้แล้วว่าอาสาสมัครบางคนอาจป่วย และคณะกรรมการทบทวนความปลอดภัยและหน่วยงานกำกับดูแลของกังกฤษก็ลงความเห็นแล้วว่าปลอดภัยที่จะทดสอบต่อได้
แถลงการณ์ของมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดออกมา หลังจากแอสตราเซเนกาออกมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า ได้ระงับการทดสอบชั่วคราวระหว่างการตรวจสอบว่าอาการป่วยของอาสาสมัครเป็นผลมาจากวัคซีนหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ออกซฟอร์ดจะไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับอาการป่วยของอาสาสมัคร ด้วยเหตุผลด้านความเป็นส่วนตัว แต่สำนักข่าวเดอะนิวยอร์กไทม์สรายงานว่าอาสาสมัครทดสอบวัคซีนโควิด-19 ได้รับการวินิจฉัยว่ามีอาการไขสันหลังอักเสบ ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส
แมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษกล่าวว่า การพักการทดสอบครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก และจะสนับสนุนนักวิทยาศาสตร์ให้ผลิตวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยให้ได้เร็วที่สุด
องค์การอนามัยโลก หรือ WHO กล่าวว่าปัจจุบันมีการทดลองวัคซีนป้องกันโควิด-19 เกือบ 180 ตัวอย่างทั่วโลก แต่ยังไม่มีตัวไหนที่จบขั้นตอนการทดสอบกับมนุษย์จนครบทุกขั้นตอนเลย แต่วัคซีนของออกซฟอร์ดถูกตั้งความหวังไว้ว่าอาจเป็นหนึ่งในวัคซีนแรกๆ ที่จะผลิตออกมาใช้ได้ เนื่องจากผ่านการทดลองและการทดสอบเฟส 1 และ 2 มาได้แล้ว
ปัจจุบัน การทดสอบวัคซีนของออกซฟอร์ดอยู่ในเฟส 3 โดยทดสอบกับอาสาสมัครประมาณ 30,000 คนในสหรัฐฯ อังกฤษ บราซิล และเซาท์แอฟริกา ซึ่งตามปกติแล้ว เฟส 3 มักจะใช้เวลายาวนานหลายปี กว่าจะได้รับการรับรองให้ผลิตออกมาขายได้