Sanook คลุกข่าวเช้า 15 ก.ย. 63 "ประยุทธ์" ยันงบ 64 ช้า แต่เงินสำรองเพียบ - บรรยินสารภาพอุ้มฆ่าพี่ชาย
สวัสดีค่ะ พบกันอีกครั้งกับ Sanook คลุกข่าวเช้า ประจำวันอังคารที่ 15 กันยายน พร้อมกับข่าวสารที่น่าสนใจ ที่ระบบ AI ของเราจะมาสรุปให้คุณฟัง ด้วยฟังก์ชัน Text to Speech ซึ่งจะช่วยให้คุณรับฟังข่าวสารได้อย่างสะดวกสบายในทุกที่ เพียงกดปุ่มรูปลำโพงสีเขียวเท่านั้น ก็สามารถรับฟังข่าวสารได้ทันที
เริ่มกันที่สถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศ กับประเด็นร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ที่เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 16-18 ก.ย. โดยนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ว่า หลังจากที่สอบถามนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างศึกษาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 นายสันติยืนยันว่าไม่มีปัญหา
พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า ความจริงแล้วรัฐมีมาตรการการใช้จ่ายงบประมาณไปพลางก่อนเหมือนครั้งที่ผ่านมา รวมทั้งกล่าวถึงงบประมาณ 4 แสนล้านบาท ที่ใช้ในการแก้ปัญหาโควิด-19 ว่ามีการเผื่อไว้และใช้ไปแล้วบางส่วน โดยใช้งบกลางและงบโอนจาก พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 63 เข้ามาช่วย
สำหรับประเด็นเรื่องงบการเงินการคลังของประเทศมีไม่เพียงพอหรืออาจเรียกได้ว่าถังแตก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีการยืนยันแล้วว่าเงินสำรองมีมากมาย จึงสามารถเอาเงินเหล่านี้ออกมาใช้ก่อนที่งบประมาณรายจ่ายประจำปี 64 จะออกมา
สำหรับประเด็นคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาอดีตเจ้าของสำนวนโอนหุ้นเสี่ยชูวงษ์ ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ศาลนัดสืบพยานที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยพนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์, นายมานัส ทับทิม, นายณรงค์ศักดิ์ ป้อมจันทร์, นายชาติชาย เมณฑ์กูล, นายประชาวิทย์ ศรีทองสุข และ ด.ต.ธงชัย หรือ สจ.อ๊อด วจีสัจจะ ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ และข้อหาอื่น
นายบรรยิน ยื่นคำร้องขอถอนคำให้การเดิมที่ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เป็นให้การรับสารภาพ ตามคำให้การฉบับลงวันที่ 19 สิงหาคม 2563 ว่าจำเลยที่ 1 ได้ก่อเหตุในคดีนี้จริง โดยระบุว่าตนได้ก่อเหตุคุมตัวนายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ รวมทั้งฆ่าและเผาทำลายศพ ก่อนที่จะนำหลักฐานทั้งหมดไปทิ้ง พร้อมระบุว่าตนไม่มีเจตนาจะก่อเหตุดังกล่าวเพื่อกระทบกระทั่งต่อองค์กรศาล หรือก้าวล่วง หรือดูหมิ่นเหยียดหยามองค์กรศาล แต่เป็นเรื่องเฉพาะตัวด้วยเห็นว่า น.ส.พนิดาผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนในคดีอาญาของศาลอาญากรุงเทพใต้ ทำหน้าที่อย่างลำเอียง ขาดความเที่ยงธรรม และมีอคติกับจำเลยที่ 1 ในระหว่างการพิจารณาคดีดังกล่าวโดยตลอด ทำให้เกิดความกดดันและขาดสติยั้งคิดจึงได้กระทำความผิดในคดีนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อจำเลยให้การสารภาพ ศาลจึงให้ยกเลิกวันนัดสืบพยานหลักฐานตามที่กำหนดไว้เดิม และกำหนดวันนัดสืบพยานหลักฐานใหม่ ในช่วงเดือนตุลาคมนี้
ปิดท้ายกันที่ข่าวเครือซีพีประกาศรับสมัครเด็กจบใหม่ 28,000 อัตรา ลดปัญหาการว่างงาน และช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วงวิกฤตโควิด-19
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด กล่าวว่า เครือซีพีจะไม่มีการปลดพนักงาน ขณะเดียวกัน วิกฤตโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบในทุกอุตสาหกรรม และทำให้มีอัตราคนว่างงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งบัณฑิตจบใหม่ที่จะเข้ามาในตลาดแรงงานปีนี้อีก 4-5 แสนคน ทำให้เกิดปัญหาการว่างงาน ดังนั้น เครือฯ จึงมีนโยบายเปิดรับนักศึกษาจบใหม่อายุไม่เกิน 25 ปี ทั้งในส่วนของกลุ่มอาชีวะ และมหาวิทยาลัย จำนวน 28,000 อัตรา คิดเป็น 10% ของจำนวนพนักงานในปัจจุบัน ประกอบด้วย บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เตรียมรับเพิ่ม 8,000 อัตรา บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) เตรียมรับเพิ่ม 12,000 อัตรา กลุ่มธุรกิจสยามแม็คโคร เตรียมรับเพิ่ม 5,000 อัตรา และบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (True) เตรียมรับเพิ่ม 3,000 อัตรา
นอกจากนี้ นายศุภชัยยังระบุว่า เครือฯได้ให้ความสำคัญในการ “สร้างคน” จะมีการพัฒนาศักยภาพด้วยการสร้างทักษะ upskill และ reskill โดยได้จัดโปรแกรมต่างๆ เน้นในด้านดิจิทัลให้กับพนักงานที่เข้ามาใหม่เพื่อให้สามารถทำงานในยุค 4.0 ได้อย่างเต็มศักยภาพ