แม่ปาดคอลูกสาว 3 ขวบ ดับสยองคาบ้าน หลอนตั้งแต่เช้าบอกจะมีคนมารุมโทรม

แม่ปาดคอลูกสาววัย 3 ขวบเศษ ก่อนจะปาดคอตัวเองตาม แต่สามีเห็นก่อนจึงเข้าแย่งมีด แต่ลูกดับคาที่นอน

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุนพิน พร้อมด้วยศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 เจ้าตรวจสอบบ้านพักไม่มีเลขที่ภายในสวนยางพารา พื้นที่ ม.6 ต.บางงอน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเวลา 21.00 น. (14 ก.ย.63) หลังรับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายที่บ้านหลังดังกล่าว

ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักขนาด 4x7 เมตร กันผนังและมุงหลังคาด้วยสังกะสี พบเด็กหญิงกลิ่นขวัญ อายุ 3 ขวบเศษ นอนเสียชีวิตอยู่ใกล้ประตูทางเข้าภายในบ้านติดกับที่นอนที่นอนเป็นประจำ มีบาดแผลที่คอด้านซ้ายเป็นแผลลึก เลือดเปื้อนไปทั้งตัว

จากการสอบถาม พ่อของเด็กน้อยที่เสียชีวิต ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือภรรยาของตนเอง อายุ 43 ปี และเป็นแม่แท้ๆ ของน้องกลิ่นขวัญ ที่ใช้มีดทำครัวปาดคอลูกและพยายามปาดคอตัวเอง แต่ตนเห็นก่อนจึงแย่งมีดทันและพยายามใช้ส้อมทำร้ายตัวเองอีก

โดยพ่อของเด็กเล่าให้ฟังว่า อยู่กินกับภรรยามานานมีลูกด้วยกัน 3 คน คนโตเป็นผู้ชายเพิ่งย้ายกลับไปอยู่บ้านภรรยาที่สกลนคร เมื่อปี 62 ทำให้ที่บ้านอยู่ด้วยกัน 4 คน พ่อ แม่ และลูกสาววัย 8 ปี และ 3 ขวบ ประกอบอาชีพรับจ้างกรีดยางตรงจุดดังกล่าวประมาณ 50 ไร่ ซึ่งปกติตนจะออกกรีดตั้งแต่ช่วงเย็น ส่วนภรรยาจะออกกรีดยางในช่วงประมาณ 23.00 น. หลังลูกนอนหลับกันหมด ที่ผ่านมาก็อยู่ด้วยกันอย่างปกติ ไม่ได้ทะเลาะกัน และก็ไม่ได้มีปัญหาหนี้สิน

จนเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 14 วันเกิดเหตุ ภรรยามีอาการวิตกหวาดระแวง บอกว่าจะมีคนมารุมโทรมตัวเองและลูกทั้งสองคน ซึ่งก็บอกว่าให้นอนพักก่อนอย่าเครียด แต่ภรรยาก็ไม่ยอมนอนและไม่ยอมไปส่งลูกที่โรงเรียน จนลูกต้องขาดเรียน ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อน จนตกค่ำขณะเข้านอน ปกติตนเองจะนอนกับลูกสาวคนกลาง ในมุมด้านในแต่คนละมุ้งกัน ภรรยานอนกับลูกสาวคนเล็ก ด้านนอกใกล้ประตูบ้าน ตอนเกิดเหตุตนหันมาเห็นภรรยากำลังใช้มีดจะปาดคอตัวเอง จึงรีบเข้าไปแย่งมีด ก่อนจะหันมาเห็นลูกสาวคนเล็กเลือดท่วมตัวจึงพยายามอุ้มลูกจะพาไปหาหมอ แต่พอมาถึงบริเวณประตูพบว่า ลูกสิ้นชีวิตแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวภรรยาไปสอบสวนที่ สภ.พุนพิน ก่อนหน้า และเมื่อชันสูตรพลิกศพเสร็จจึงพาตัวผู้เป็นพ่อและลูกสาววัย 8 ขวบ ไปสอบสวนเพิ่มเติม