เปิดใจทีมสัตวแพทย์ หวิดถูกหมีควายขย้ำ เล่านาทีกระโดดลงน้ำหนีเอาชีวิตรอด
หลังถูกยิงยาสลบนัดแรกยังไม่สิ้นฤทธิ์ทันที หนึ่งในทีมสัตวแพทย์กำลังจะเข้ายิงยาสลบอีกรอบ แต่ถูกหมีควายไล่พยายามทำร้ายในระยะประชิด ตัดสินใจรีบกระโดดลงน้ำเพื่อหนีเอาชีวิตรอด
นายอนุชิต เดชประไพ นักวิชาการสัตวบาล หนึ่งในทีมสัตวแพทย์ เกือบถูกเจ้าแตงโมทำร้าย เปิดใจกับทีมข่าวอีจันว่า วินาทีนั้นหมีควายเข้ามาประชิดมากจนเกินไป จึงตัดสินใจกระโดดลงน้ำ รอดมาได้อย่างหวุดหวิด หลังจากใช้ปืนยิงยาสลบเข้าไปยิงซ้ำรอบ 2 เพื่อให้มั่นใจ
นายอนุชิต บอกอีกว่าทุกครั้งที่ออกปฏิบัติหน้าที่ด้านงานสัตว์ป่ามีความเสี่ยงทุกครั้ง แต่ก็ไม่ได้ประมาท ทำงานเกี่ยวกับสัตว์ป่ามีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอันตรายแบบนี้ได้ แต่ด้วยหน้าที่ที่จะต้องรักษาสัตว์ป่าของประเทศชาติ และให้ประชาชนปลอดภัยจากสัตว์ป่า สำหรับภารกิจนี้ทุกหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ตลอดระยะเวลา 10 วัน ทุกคนทุ่มเทแรงกายแรงใจให้งานนี้สำเร็จเร็วๆ ขอบคุณเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครทุกนายรวมถึงชาวบ้านที่มีส่วนร่วมทำให้ภารกิจนี้สำเร็จไปได้โดยดี
สำหรับปฏิบัติการล้อมจับหมีวันที่ 10 ในพื้นป่าช้าบ้านโนนทองหลาง ต.สีชมพู อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น เริ่มเปิดปฏิบัติการตั้งแต่ช่วงเช้ามืด (16 ก.ย.63) สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 จ.ขอนแก่น กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธ์ุพืช เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนันผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครรวมถึงชาวบ้านในพื้นที่กว่า 300 คน ปิดล้อมพื้นที่ป่าตีวงล้อมกระชับพื้นที่ให้แคบลงเรื่อยๆ กระทั่งเมื่อเวลา 15.45 น. หมีควายพยายามหนีออกจากพื้นที่วงล้อม ออกไปทางด้านทิศตะวันออกติดกับพื้นที่นาของชาวบ้าน หลังถูกยิงยาสลบยังไม่ยอมหยุด วิ่งหนีไปไกลจากจุดที่ถูกยิงเกือบ 1 กิโลเมตร จนกระทั่งสิ้นฤทธิ์ นอนสลบอยู่ในบริเวณพื้นที่ของชาวบ้าน ก่อนที่ทีมสัตวแพทย์จะช่วยกันปฐมพยาบาลรีบนำออกนอกพื้นที่ไปรักษาฟื้นฟู ที่สถานเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ
นายอนันต์ ปิ่นน้อย ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและ พันธุ์พืช ระบุว่า ภารกิจนี้สำเร็จได้เพราะได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ตลอดระยะเวลา 10 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนันผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครหลายหน่วยงานเข้ามาสนับสนุนภารกิจจนทำให้สำเร็จได้ด้วยดี ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม
สวนเจ้าแตงโม หรือหมีควาย หลังจากนี้จะต้องตรวจสอบว่าเป็นหมีเลี้ยง หรือหมีป่า หากเป็นหมีเลี้ยง ก็จะต้องเป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครอง สืบหาข้อมูลว่าใครเป็นเจ้าของ แต่ในขณะนี้จะต้องดูแลให้หมีควายตัวนี้ปลอดภัยก่อน