โหรทำนายดวง ทักษิณ วาระสุดท้ายไม่เหลืออะไร
นักโหราศาสตร์ทำนายดวง ทักษิณ วาระสุดท้ายของบั้นปลายชีวิตไม่เหลืออะไรเลย เหมือนพ่อ ผิดกับ"อภิสิทธิ์"ไปต่างประเทศยังไงก็ได้กลับมาเมืองไทย และยังได้เป็นนายกฯลากยาวไปถึงปีหน้า ชี้เหตุการณ์19 ก.ย. ไม่รุนแรง ทำนายยุบสภาปี 53 หลังแก้รธน.
เว็บไซต์มติชนออนไลน์รายงานว่า ที่ห้อง 604 อาคารวิทยบริการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เมื่อเวลา 9.00 น.วันที่ 13 กันยายน ชมรมสกายคล็อก โหราศาสตร์สากล-ยูเรเนียน จัดงาน "วันโหรจรัญ" ครั้งที่ 5 ประจำปี 2552โดยมีการสัมมนาทางวิชาการโหราศาสตร์สากล-ยูเรเนียน เรื่อง "เศรษฐกิจและโรคภัยไทย ปี 2553"
นายจรัสโรจน์ บถดำริห์ ทายาทของ นายจรัญ พิกุล (บถดำริห์) อดีตปรมาจารย์โหรผู้ยิ่งใหญ่แห่งสยาม กล่าวว่า ในการจัดงานครั้งนี้ เป็นหนึ่งกิจกรรมที่ทำกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการร่วมรำลึกถึง นายจรัญ พิกุล และให้นักโหราศาสตร์รุ่นใหม่ได้รับความรู้เพิ่มขึ้นจากผู้ทรงคุณวุฒิและวิทยากร อีกทั้งการสัมมนาครั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ เพื่อเป็นแนวทางให้รู้ว่าควรปฏิบัติตัวในทิศทางใด
ขณะที่ นายวิโรจน์ กรดนิยมชัย นักโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยน กล่าวว่า ในอดีตเมื่อ 90 ปีที่แล้วมีไข้หวัดสเปนนิสฟูลระบาด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 50-60 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งเป็นเชื้อโรคชนิดเดียวกันกับไข้หวัด 2009 โดยในปี ค.ศ.2010 ยังมีไข้หวัด 2009 ระบาดเหมือนเดิมแต่อาจจะมีความรุนแรงไม่เท่ากับในสมัยอดีตที่ผ่านมา เพราะวิทยาการทางการแพทย์มีการพัฒนามากขึ้น โดยโอกาสติดเชื้อไข้หวัด 2009 มีเพียง 1 ใน 3 ของคนทั้งโลกที่มีโอกาสติดเชื้อ และจะมีการระบาดหนักในช่วงฤดูหนาว
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ส่วนทางด้านเศรษฐกิจโลกในปีหน้าประเทศที่อยู่ตรงข้ามกับสหรัฐอเมริกา อย่างเช่น จีน รัสเซีย และอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าของสหรัฐอเมริกา จะมีการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจมากกว่า โดยประเทศจีนอาจจะเป็นประเทศมหาอำนาจแทนประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ปัญหาหนึ่งคือ โครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศจีนอาจจะต้องมีการปรับตัว
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์การเมืองในอนาคต จะมีนายกรัฐมนตรีที่ ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งเหมือนกับปี พ.ศ.2523 ที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่เงื่อนไขในครั้งนี้อาจจะต่างกันตรงที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากสภา ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญในอนาคตข้างหน้านี้
"ส่วนเหตุการณ์ 19 กันยายนนี้ที่จะเกิดขึ้น ก็จะต้องมาดูด้วยว่า ประเทศไทยปีนี้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีดวงเมืองอยู่ โดยในแต่ละปีสามารถดูดวงได้ว่า แต่ละปีคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีจะมีลักษณะอย่างไร ซึ่งในปีนี้และปีหน้านายกรัฐมนตรีก็ยังเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เช่นเดิม ซึ่งจะทำให้เหตุการณ์ในวันที่ 19 กันยายนนี้ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง และไม่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงตัวนายกรัฐมนตรี" นายวิโรจน์กล่าว
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ถ้าหากเปรียบเทียบดวงชะตาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีนั้น มีความแตกต่างโดยสิ้นเชิง ดวงชะตาชีวิตของนายอภิสิทธิ์ เป็นดวงชีวิตที่ต้องเดินทางระหว่างต่างประเทศซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน เพราะฉะนั้นนายอภิสิทธิ์จะเดินทางไปไหนมาไหนนั้นถือเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นดวงของเขา ดังนั้นในการเดินทางไปต่างประเทศในช่วงนี้นายอภิสิทธิ์ไปแล้วก็ต้องกลับมา และไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น
"ส่วนดวงชะตา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้น ต้องดูดวงของพ่อเขา พ่อเป็นอย่างไรลูกเป็นอย่างนั้น สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นส่วนหนึ่งมาจากพ่อ ข้อมูลจากหนังสือ "ตาดูดาวเท้าติดดิน" หน้า 37 พ.ต.ท.ทักษิณพูดถึงพ่อตัวเองว่า "สิบกว่าปีที่ผ่านมา พ่อไม่เหลืออะไรเลย ในวาระสุดท้ายในชีวิตของพ่อ ทักษิณต้องพาพ่อไปอยู่ที่ จ.นนทบุรี แล้วพ่อก็ตาย โดยที่ไม่เหลืออะไรให้ลูกหลานไว้สืบทอดเลย" ซึ่งนั่นก็คือ ชีวิตของ พ.ต.ท.ทักษิณ" นายวิโรจน์กล่าว
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ส่วนดวงชะตาของนายอภิสิทธิ์นั้นในช่วงเดือนนี้จะต้องระวังให้มาก เพราะอาจมีอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่วย ระหว่าง พ่อ หรือ นายอภิสิทธิ์ ต้องเข้าโรงพยาบาล และดวงในปีหน้าอาจจะมีการยุบสภา เลือกตั้งใหม่ได้ หลังจากการแก้รัฐธรรมนูญเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ นายพงษ์พันธ์ วงศ์หนองเตย นักโหราศาสตร์การเงิน กล่าวว่า อย่าเพิ่งเชื่อว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว เพราะวิกฤติในปี ค.ศ.2010 ยังคงรออยู่ การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจยังไม่จบ ซึ่งรู้แต่เพียงว่าประเทศสหรัฐอเมริกาได้ลดบทบาทการเป็นผู้นำหลักเพียงประเทศเดียวของโลกไปแล้ว แต่ยังไม่ชัดเจนว่าใครจะมาแทนสหรัฐฯ
"จีนดูเหมือนมีสถานะที่ดูดี จากขนาดตลาดที่ใหญ่และเศรษฐกิจที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาภายในของจีนยังมีอีกมาก เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ดูเหมือนจะไม่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือว่าจะเป็นเงินตราหลักของโลกเหมือนในอดีต แต่เงินหยวนของจีนก็ไม่เข้มแข็งและโปร่งใสเพียงพอที่จะมาแทนที่เงินดอลลาร์ ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับเหล่าผู้นำประเทศว่าจะตัดสินใจนำพาโลกไปทางไหน สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ก็คือ การเตรียมพร้อมที่จะพบวิกฤติในปีหน้าด้วยความไม่ประมาท และไม่ตื่นกลัวเกินกว่าเหตุ" นายพงษ์พันธ์กล่าว
นายพงษ์พันธ์ กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนปฏิรูประบบงานภายในองค์กรหรือแม้แต่ภายในครอบครัว ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำพาให้พ้นจากวิกฤติครั้งนี้ได้อย่างปลอดภัย และอาจทำให้เรามีความมั่งคั่งและแข็งแกร่งมากกว่าเดิม