ไต้หวันล่าเงินอดีตผู้นำซุกธนาคารสวิส700ล้าน

ไทเป-ไต้หวันเตรียมขอสวิสคืนเงินที่อดีตประธานาธิบดีทุจริตไปซุกไว้ 700 กว่าล้าน

หนังสือพิมพ์ไชน่า ไทม์ส ของไต้หวันรายงานเมื่อวันอาทิตย์ (13 ก.ย.) ว่าเจ้าหน้าที่ไต้หวันกำลังขออนุญาตสวิตเซอร์แลนด์เพื่อหาทางเรียกคืนเงิน 21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 735 ล้านบาท) ที่ถูกอายัดไว้ในธนาคาร 2 แห่งของสวิส เพราะต้องสงสัยว่าเป็นเงินที่อดีตประธานาธิบดี เฉิน สุย เปี่ยน นำไปซุกไว้

รายงานข่าวที่อ้างการเปิดเผยของอัยการหลายคนระบุว่า จะส่งสำนวนพิพากษาของนายเฉินที่ถูกจำคุกตลอดชีวิตในข้อหาทุจริต รับสินบน ฟอกเงิน ตลอดจนปลอมแปลงเอกสาร ระหว่างดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ระหว่างปี 2543-2551 ไปให้หน่วยงานยุติธรรมของสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อหาทางขอเงินเหล่านี้คืนให้แก่รัฐบาลไต้หวัน ขณะที่ นายฟอลโค กัลลี โฆษกกระทรวงยุติธรรมของสวิตเซอร์แลนด์ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ รัฐบาลสวิสยังไม่ได้รับคำขอคืนเงินอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ได้มีคำสั่งให้อายัดเงินในบัญชีของ นายเฉิน จื่อ ชุง และ นางหวง ซุ่ย จิง บุตรชาย และลูกสะใภ้ของนายเฉินที่ฝากไว้กับธนาคารอาร์บีเอส โคทท์ แบงก์ เอจี และธนาคารเมอร์ริล ลินช์ แบงก์ (ซุยส์) เอส.เอ.เอาไว้ เนื่องจากต้องสงสัยว่ามีการฟอกเงิน ขณะที่ศาลไต้หวันระบุว่า นายเฉินและนายอู๋ได้สั่งให้ลูกชายและลูกสะใภ้นำเงินที่ยักยอกมาไปฝากไว้ในบัญชีนี้ ขณะที่ทั้งคู่ปฏิเสธว่า เงินเหล่านี้เป็นเงินที่เหลือจากยอดบริจาคทางการเมือง

ไชน่า ไทม์ส ยังรายงานโดยไม่อ้างแหล่งข่าวด้วยว่า บรรดาอัยการไต้หวันกำลังพิจารณาจะเอาผิดทางกฎหมายต่อนายเฉิน กับภรรยาเพิ่มเติม เพียงไม่กี่วันหลังจากที่ศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตนายเฉินกับภรรยาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยผู้สืบสวนกำลังพิจารณาว่านายเฉินมีบทบาทในคดีทุจริตอีก 6 คดี ซึ่งมีตั้งแต่ยักยอกเงินจากกองทุนลับทางการทูตไปจนถึงการรับสินบท และฟอกเงิน โดยกำลังเร่งหาหลักฐานที่แสดงว่านายเฉินยักยอกเงินกว่า 3 แสนดอลลาร์สหรัฐ (ราว 10.5 ล้านบาท) จากกองทุนลับทางการทูตระหว่างเดินทางไปเยือนต่างประเทศ 11 ครั้ง

วันเดียวกัน ผู้สนับสนุนนายเฉินได้ไปประท้วงหน้าบ้านนายไซ่ ชู-สุน ประธานผู้พิพากษาคดีทุจริตของนายเฉิน โดยกล่าวหาว่า คำตัดสินมีแรงจูงใจทางการเมือง นอกเหนือจากกล่าวว่านายเฉินถูกจำคุกระหว่างการพิจารณาคดีโดยไม่เป็นธรรม ขณะที่ศาลสูงจะวินิจฉัยในวันที่ 25 กันยายนนี้ว่าจะยังคงควบคุมตัวในเฉินระหว่างยื่นอุทธรณ์ต่อไปหรือไม่