โรงเรียนเสื้อแดงกำหนด 7ยุทธวิธีไล่ รบ.อำมาตย์! ขัดขืนอำนาจรัฐ-ไล่รมต.ทุกที่

โรงเรียนเสื้อแดงกำหนด 7ยุทธวิธีไล่ รบ.อำมาตย์! ขัดขืนอำนาจรัฐ-ไล่รมต.ทุกที่

โรงเรียนเสื้อแดงกำหนด 7ยุทธวิธีไล่ รบ.อำมาตย์! ขัดขืนอำนาจรัฐ-ไล่รมต.ทุกที่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โรงเรียนเสื้อแดง สรุปแผนไล่รบ.อำมาตย์ กำหนด 7ยุทธวิธี ขัดขืนการใช้อำนาจรัฐ ฮือไล่รมต.-องค์กรอิสระทุกที่ วางเป้าผลิตนักเรียนนปช. 1 ล้านคน ขยายผลไปยังคนหนุ่มสาว ดึงคนใกล้ตัว-น.ศ.ร่วมขบวน โอ่ 19ก.ย.มีหมัดเด็ดน็อครัฐบาล

พท.ขู่"มาร์ค"ซ้ำรอย"ทักษิณ"

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงเมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่พรรคเพื่อไทย ถึงการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 19 กันยายนนี้ว่า ขณะนี้มีแนวโน้มว่ารัฐบาลอาจจะประกาศใช้ พ.ร.บ.การความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อควบคุมและใช้กำลังทหารเป็นหลัก ดังนั้น พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้ทบทวนถึงผลดีและผลเสียของการใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงฯ เพราะน่าจะเป็นการยั่วยุทหารและประชาชนให้เกิดการเผชิญหน้าอีกครั้ง ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยได้วิเคราะห์แล้วว่าในวันที่ 19 กันยานยน จะมีประชาชนมาร่วมชุมนุมนับแสนคน ดังนั้น ขอให้นายกรัฐมนตรีลดการเผชิญหน้า โดยใช้กฎหมายเท่าที่มีอยู่ก็น่าจะเพียงพอ

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า พรรคยังทราบว่าสายฮาร์ดคอร์ในหลายจังหวัดเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ซึ่งจะทำให้มือที่ 3 เข้ามาแทรกแซง จนทำให้อำนาจนอกระบบเข้ามาควบคุมสถานการณ์ อาจจะทำให้นายอภิสิทธิ์ตกเก้าอี้ เข้าลักษณะกงเกวียนกำเกวียนเหมือนกับกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ไปประชุมที่สหรัฐอเมริกาแล้วไม่ได้กลับประเทศไทย จึงขอให้นายอภิสิทธิ์ทบทวนให้รอบด้าน อย่าฟังที่ปรึกษาสายเหยี่ยวเพียงอย่างเดียว ให้ยึดผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นที่ตั้ง

"จตุพร" ชี้นายกฯเข้ามุมอับเอง

นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ให้สัมภาษณ์ที่ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว ชั้น 6 ถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงขว้างปาสิ่งของใส่นายกรัฐมนตรี ที่ จ.ลพบุรี ว่า เรื่องนี้ถือเป็นเพียงน้อยนิดกับสิ่งที่นายอภิสิทธิ์เคยทำ หากเทียบกับสิ่งที่นายอภิสิทธิ์ถูกต่อต้าน กับที่นายอภิสิทธิ์สั่งสลายชุมนุมถือเป็นเรื่องเล็กน้อย และคนเสื้อแดงทำเต็มที่ก็ได้เพียงแค่นี้ ดังนั้น สิ่งที่นายอภิสิทธิ์ต้องกลัวไม่ใช่คนเสื้อแดง แต่ต้องกลัวพวกเดียวกันเองที่ไปทรยศหักหลังใครมา นายอภิสิทธิ์ต้องรู้ว่าในโลกความเป็นจริงประชาชนไม่ได้เลือกให้นายอภิสิทธิ์มาเป็นนายกฯ แต่ใช้วิธีอำมาตย์อุ้มมาเป็นรัฐบาล และบรรดาอำมาตย์ที่อุ้มนายอภิสิทธิ์ก็เริ่มมีปัญหาแล้ว

นายจตุพรกล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 กันยายนนี้ ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษว่า ยืนยันว่าหากวันดังกล่าวไม่มีเหตุการณ์อะไรก็จะชุมนุมถึงเพียง 24.00 น.เท่านั้น และหากมีการสร้างสถานการณ์ก็จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวนำไปสู่หายนะ

"นายอภิสิทธิ์ต้องรู้ดีกว่าทำอะไรกับใคร อีกทั้งการตั้ง ผบ.ตร ลึกๆ แล้วต้องการชนะใคร แล้วคุณมีอะไรถึงกล้าไปชนะเขา ชนะแล้วจะได้อะไร ผมขอเตือนสติว่าสถานการณ์วันนี้คุณอภิสิทธิ์ทำตัวเองเข้ามุมอับเอง" นายจตุพรกล่าว

ลั่น"ป๋าเปรม"คือต้นตอปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันที่ 19 กันยายน พล.อ.เปรมจะไม่พักอยู่ที่บ้านสี่เสาฯ จะยังมีเป้าหมายบุกไปเหมือนเดิมหรือไม่ นายจตุพรกล่าวว่า พล.อ.เปรมไม่มีทางอยู่ แต่วันที่ 19 กันยายน คือสัญลักษณ์แห่งการยึดอำนาจล้มล้างประชาธิปไตย คนที่เป็นแก่นแท้ยึดอำนาจคือ พล.อ.เปรม แม้ พล.อ.เปรมจะอยู่หรือไม่อยู่ที่บ้านสี่เสาฯก็มีค่าเท่ากัน และจะยังคงชุมนุมที่หน้าสี่เสาฯต่อไป ซึ่งหาก พล.อ.เปรมอยู่ในบ้าน คนเสื้อแดงก็จะไม่ทำอะไร แค่ชุมนุมเท่านั้น เพียงแต่มาบอกว่า พล.อ.เปรมคือต้นตอของปัญหาของประเทศ
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯจะโฟนอินมาในวันดังกล่าวหรือไม่ นายจตุพรกล่าวว่า ยังไม่มีการคุยกัน ยังไม่แน่นอน พ.ต.ท.ทักษิณเป็นแค่คนคน หนึ่งในกระบวนการประชาธิปไตย และทาง นปช.ต้องคุยเป็นมติก่อนว่าจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณมาโฟนอินหรือไม่

เดินหน้ายุทธศาสตร์2ขา2แขน

นายจตุพรกล่าวถึงยุทธศาสตร์การต่อสู้ของกลุ่มคนเสื้อแดงโค่นล้มรัฐบาลอำมาตยาธิปไตยภายใต้ยุทธศาสตร์ "เดินด้วย 2 ขา ทำงานด้วย 2 แขน" ว่า คนเสื้อแดงต้องจัดแถวจัดระเบียบ เพราะต่อสู้กับอำมาตย์ที่บงการประเทศนี้มายาวนาน มีกลไกประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง และเราจะต่อสู้โดยไม่จัดวางยุทธศาสตร์ก็จะต่อสู้ไม่ได้ การเปิดโครงการโรงเรียนผู้ปฏิบัติงาน นปช.นั้น ก็คือจัดหมวดหมู่ จัดแนวทางให้การต่อสู้มีเป็นระบบ และหากไม่จัดระบบแบบนี้ก็จะเจอปัญหาการต่อสู้เหมือนเช่นในอดีตที่ได้ประสบมา

"การสถาปนารัฐใหม่ตามที่นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช.ได้พูดนั้น เพราะรัฐไทยวันนี้ได้ตายไปแล้ว ตายเพราะอำนาจนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการได้ตายไปแล้วในวันนี้ ตายด้วยการหมดความน่าเชื่อถือ ซึ่งการยึดอำนาจ 19 กันยายนได้ดึงเอาสถาบันตุลาการมาเกี่ยวข้องกับการเมือง จนกระทั่งเมื่อบางคนกลับไปที่ศาล ความน่าเชื่อถือก็หมดไป ความหมายที่นายวีระพูดจึงต้องกระทำการในสิ่งที่ถูกต้องกระบวนการยุติธรรมต้องเป็นไปอย่างยุติธรรม และนิติบัญญัติควรมีที่มาจากประชาชน บริหารต้องมาจากประชาชน และทำตามประกาศต่อประชาชน คือทุกฝ่ายต้องทำหน้าที่ของตัวเองไม่ก้าวล่วงกัน ซึ่งตอนนี้ทุกฝ่ายได้เละไปหมดแล้ว" นายจตุพรกล่าว

ร.ร.เสื้อแดงสรุป7ยุทธวิธีไล่รบ.

ด้านการอบรมโรงเรียนผู้ปฏิบัติงาน นปช. "แดงทั้งแผ่นดิน" วันที่ 2 ที่ห้องแกรนด์บอลรูมฮอลล์ ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว ชั้น 6 ปรากฏว่า แกนนำกลุ่ม นปช.ได้แบ่งกลุ่มนักเรียนคนเสื้อแดงออกเป็น 10 กลุ่ม โดยจะมีแกนนำประกอบด้วย นายวิสา คัญทัพ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นางดารุณี กฤตบุญญาลัย นายประมวล ชูกลอง หรือ "เจ๋ง ดอกจิก" นายพายัพ ปั้นเกตุ นายประแสง มงคลศิริ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ เป็นต้น ร่วมเป็นคณะครูผู้รับผิดชอบแต่ละกลุ่ม เพื่อให้ทุกกลุ่มได้แลกเปลี่ยนความเห็นในตลอดช่วงเช้าว่า จะนำนโยบาย นปช.ไปขยายผลในทางปฏิบัติอย่างไร และกำหนดยุทธวิธีการขับไล่รัฐบาลอำมาตยาธิปไตยและระบอบอำมาตยาธิปไตย

เวลา 15.30 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. สรุปรายงานผลการศึกษาของทั้ง 10 กลุ่ม ว่า หลังจากทุกกลุ่มได้เสนอความเห็นแล้วสามารถสรุปในส่วนการจะนำหลักนโยบาย นปช.ไปขยายผลในทางปฏิบัติได้ดังนี้
1.จัดศูนย์กลางให้ความรู้เรื่องวินัย โดยทำสื่อเป็นทั้งไทยและภาษาอังกฤษ
2.จัดสัมมนาในทุกพื้นที่
3.เสนอให้ นปช.ส่วนกลางจัดนิทรรศการ
4.ขยายผลไปยังคนหนุ่มคนสาว
5.ตั้งกรรมการแต่ละกลุ่มเพื่อประสานส่วนกลาง
6.เดินหน้าตามโครงการ 1 อำเภอ 1 วิทยุชุมชม 1 คน 1 เสื้อแดง โดยต้องสร้างคนเสื้อแดงให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ
7.ทำคนใกล้ตัวหรือสมาชิกในครอบครัวให้เป็นคนเสื้อแดงให้ได้

ประกาศไม่หนุนสินค้าอำมาตย์

"ส่วนยุทธวิธีการขับไล่รัฐบาลอำมาตยาธิปไตยและระบอบอำมาตยาธิปไตยนั้น สามารถสรุปจากทุกกลุ่มได้ อาทิ เคลื่อนไหวกดดันทุกที่ที่รัฐบาลอำมาตย์ไปโดยสันติวิธี สร้างห้องเรียนยุทธวิธีโดยมีรหัสคำสั่งและพร้อมที่จะเปลี่ยนรหัสคำสั่งเพื่อความปลอดภัย รณรงค์ให้คนใส่เสื้อแดง ขุดคุ้ยตีแผ่จุดอ่อนฝ่ายตรงข้ามต่อเนื่อง ขัดขืนต่อการใช้อำนาจของรัฐบาลชุดนี้โดยสันติวิธี หลีกเลี่ยงใช้คำว่าอารยะขัดขืน ประกาศตัวอย่างเป็นทางการไม่สนับสนุนสินค้าของระบอบอำมาตย์ เรียกร้องให้นำรัฐธรรมนูญปี 2540 กลับคืนมา ถ้าหากเครือข่ายคนเสื้อแดงได้อำนาจรัฐกลับมาจะต้องสร้างเสรีภาพสื่อให้ไม่ตกอยู่ภายในสื่อกระแสหลัก โจมตีแขนขาระบอบอำมาตย์ตลอดไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือองค์กรอิสระ, เปิดรับสมัครแนวหน้าจรยุทธ์ เพื่อประสานกับกลุ่มเสื้อแดงในแต่ละพื้นที่เพื่อกดดันรัฐบาลอำมาตย์" นายณัฐวุฒิกล่าว

นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำกลุ่ม นปช. ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารโรงเรียนผู้ปฏิบัติงาน นปช. "แดงทั้งแผ่นดิน" กล่าวปิดงานสัมมนาโรงเรียน นปช.รุ่นที่ 1 ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ว่า ขณะนี้จำเป็นอย่างยิ่งต้องสร้างมวลชนเพื่อให้ได้มวลชนที่มีคุณภาพ เพราะเวลานี้มีคนเสื้อแดงทั้งแผ่นดินกว่าล้านคนกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ จึงมีคนถามว่า เมื่อไรเราจะชนะ จึงบอกว่า อีกไกล แต่หนทางที่จะชนะอย่างแท้จริงคือ ต้องมีมวลชนที่มีคุณภาพ ซึ่งตอนนี้เรามีมวลชนเสื้อแดงคุณภาพอยู่ 1,107 คน ซึ่งเป็นกลุ่มแรกที่เป็นมวลชนมาตรฐานหรือมวลชนคุณภาพของรัฐไทยใหม่ ซึ่งเป็นรัฐที่ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นรัฐที่ต้องปกครองโดยใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม มีนิติรัฐ และนิติธรรม ทั้งนี้ หลักนิติธรรม เป็นหลักแห่งฟ้าดิน ซึ่งจะบิดเบือนไม่ได้ ดังนั้น ต้องขอแสดงความภาคภูมิใจต่อพี่น้องทั้งหลายว่าพวกท่านคือ นปช.ที่มีคุณภาพ

ตั้งเป้าผลิตนักเรียนนปช.1ล้านคน

"หากเราสามารถผลิตนักเรียน นปช.ได้ 1 ล้านคน ก็จะสามารถได้คนเสื้อแดงนักประชาธิปไตยที่มีคุณภาพ เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว ไม่ว่าเราจะชิ้วนี้ไปทางไหนประเทศนี้เป็นตามนิ้วที่คนเสื้อแดงชี้ ดังนั้น พวกเราต้องเป็นครูเพื่อหาลูกศิษย์สอนให้รู้จักแดงทั้งแผ่นดิน ซึ่งไม่ต้องไปวิตกว่าจะเป็นแดงคอมมิวนิสต์ เดี๋ยวนี้ใครเรียกแบบนี้ถือว่าเชยแหลก ดังนั้น ท่านทั้งหลายต้องทำให้มีคนเสื้อแดงทั้งแผ่นดินเร็ว" นายวีระกล่าว และว่า ถ้ามีนิสิตนักศึกษามารับรู้ปัญหา ก็จะได้พลังอันบริสุทธิ์ที่จะช่วยได้มาก ซึ่งจำเป็นที่จะต้องตั้งชมรมนิสิตนักศึกษาแดงไปทุกมหาวิทยาลัยให้ได้ รวมทั้งจะเปิดโรงเรียนคนเสื้อแดงในภาคใต้ด้วย

นายวีระกล่าวว่า คนเสื้อแดงมีหมัดน็อครัฐบาลชุดนี้แน่ แต่เป็นเรื่องที่จะต้องระวัง เพราะไม่ต้องการน็อคเพื่อนบ้าน เพราะคนเสื้อแดงจะพูดเรื่องนี้เฉพาะปัญหาของคนไทยเท่านั้น โดยจะไม่ปลุกระดมให้ไปเกลียดชังประเทศเพื่อนบ้าน เพราะในวันที่ 19 กันยายนนี้ที่จะชุมนุมใหญ่ จะใช้อาวุธนี้ซัดรัฐบาลเพื่อฟ้องคนไทย 64 ล้านคน ว่าที่แท้จริงแล้วรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ และนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ที่ทำให้ประเทศไทยเสียดินแดน ไม่ใช่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ถูกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงการปิดสัมมนาอบรมโรงเรียนผู้ปฏิบัติงาน นปช. "แดงทั้งแผ่นดิน" บรรดาแกนนำ นปช.ได้มอบเกียรติบัตรให้แก่นักเรียน นปช.รุ่นที่ 1 ที่เข้าอบรมด้วย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook