จับนักค้ายาเสพติดรายใหญ่พร้อมของกลางมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท

 ป.ป.ส.แถลงจับนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ 1 ใน 3 ของประเทศ พร้อมยึดของกลางเป็นยาเสพติดและตรวจยึดทรัพย์สิน 60 รายการ มูลค่ากว่า 50 ล้าน โดยเฉพาะยาไอซ์ยึดได้ 6 ก.ก. ซึ่งเป็นล็อตใหญ่สุดที่จับได้ปีนี้ เตรียมขยายผลเกี่ยวข้องเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายใด

พล.ต.ท. กฤษณะ ผลอนันต์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) แถลงการจับกุม นายธนกร ดวงถาวรวงศ์ หรือ นายเกษมศักดิ์ พันธุ์ศรี หรือ นายสมชาย เจดีย์ หรือ เฮียหมัด นักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามพฤติกรรมมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2551 พร้อมของกลางยาเสพติดจำนวนมาก และตรวจยึดทรัพย์มีมูลค่า 50 ล้านบาท

สำหรับ พฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้ เป็นผู้จัดหายาไอซ์จากกลุ่มผู้จัดจำหน่ายในจังหวัดเชียงราย ส่งมาจำหน่ายในกรุงเทพฯ ใช้อาคารที่พักหรู 2 แห่ง ย่านพระราม 3 เป็นที่สถานที่เก็บพักและรวบรวมยาเสพติดออกจำหน่าย เมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลา 13.00 น. เจ้าหน้า ป.ป.ส.ได้เข้าจับกุม นายธนกร ตามหมายศาลของ จ.เชียงราย พบผู้ต้องหามีอาวุธปืนพร้อมกระสุน จากนั้นเข้าค้นห้องพัก แต่ นายธนกร ได้กระโดดหนีจากชั้น 4 ของห้องพัก อาการขาหักทั้ง 2 ข้าง ขณะนี้รักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ จากนั้นได้ขยายผลไปจับกุม น.ส.เสาวณีย์ ศรีทอง ภรรยา นายธนกร ที่บ้านพักย่านซอยสหการประมูล วังทองหลาง

สำหรับของกลางที่เป็นยาเสพ ติดและทรัพย์สิน รวม 60 รายการ ได้แก่ ยาไฮซ์ 6 กิโลกรัม ยาเค 1,900 กรัม ยาอี 10,620 เม็ด ยาอีชนิดผง 1 กิโลกรัม ยาอิริมิน 5 จำนวน 28,500 เม็ด ยาแก้หวัดผสมซูโดอีเฟดรีน 19,400 เม็ด อัลปราโซแลม 70 เม็ด โดมิคุ่ม 500 เม็ด เงินสด 3.87 ล้านบาท รถยนต์หรู 8 คัน อาวุธปืน 5 กระบอกพร้อมกระสุน ตู้เซฟ 1 ตู้ เอกสารบัญชีธนาคาร 28 รายการ มียอดเงิน 18 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 53 ล้านบาท

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ 1 ใน 3 ของประเทศ ส่วนของกลางยาไอซ์ 6 ก.ก. ถือว่าเป็นจำนวนที่มากที่สุดที่จับได้ในปีนี้ หากนำไปขายส่งมีมูลค่า 10 ล้านบาท แต่หากขายปลีกในตลาดมีมูลค่าสูงถึง 30 ล้านบาท สถานที่กระจายยาไอซ์ จะเป็นแหล่งสถานบันเทิงใจกลางกรุงเทพฯ ทั้งนี้ จะขยายผลเพิ่มเติมว่านักค้ายาเสพติดรายนี้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายใดบ้าง

นอก จากนี้ ป.ป.ส. ยังพบว่ามีการสกัดยาสารซูโดเฟดรีนจากยาแก้ไข้หวัดมาเป็นหัวเชื้อในการผลิตยา ไอซ์ เพื่อแลกกับยาไอซ์จากประเทศเพื่อนบ้านทางตอนเหนือของไทย ส่วนยาอีนั้นได้จากทางใต้ของไทย ไม่ใช่จากยุโรป .- สำนักข่าวไทย