สมาร์ทวอตช์ อุปกรณ์ไฮเทคที่กลายเป็นจริง จากคำทำนายเมื่อ 67 ปีก่อน

สมาร์ทวอตช์ อุปกรณ์ไฮเทคที่กลายเป็นจริง จากคำทำนายเมื่อ 67 ปีก่อน

สมาร์ทวอตช์ อุปกรณ์ไฮเทคที่กลายเป็นจริง จากคำทำนายเมื่อ 67 ปีก่อน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อ 2-3 วันก่อนหลานชายอายุ 6 ขวบมาเยี่ยมและถ่ายรูปให้ปู่อายุ 72 ปีด้วยนาฬิกาข้อมือของเขาแถมยังโทรศัพท์คุยกับบิดาของตัวเองว่าได้ถ่ายรูปปู่ส่งไปให้แล้ว ก็ยังเข้ามานั่งดูรายการจากยูทูบกับปู่ต่อจากนาฬิกาข้อมือของเขานั่นแหละ เล่นเอาปู่อ้าปากค้าง

หลังจากนั้นพี่ชายอายุ 74 ปีผู้อยู่ที่สหรัฐอเมริกาได้ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่มีข่าวใหญ่เมื่อปี 2496 (67 ปีที่แล้ว) ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์หลายฉบับมาให้อ่านสนุกๆ แต่บังเอิญเป็นเรื่องที่ออกจะเหลือเชื่อ ซึ่งจะขออ้างอิงจากหนังสือพิมพ์ The News Tribune ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์รายวันของเมืองทาโคมา มลรัฐวอชิงตัน ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีอายุถึง 137 ปี (ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2426) ปัจจุบันก็ยังดำเนินกิจการอยู่

หนังสือพิมพ์ The News Tribune พาดหัวข่าวตัวโป้งดำว่า "ในอนาคตไม่ทางที่จะหนีจากโทรศัพท์ได้" เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2496 โดยประธานบริษัทแปซิฟิกเทเลโฟนซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการโทรศัพท์ในมลรัฐแคลิฟอร์เนียชื่อนายมาร์ค อาร์. ซัลลิแวน ได้กล่าวปาฐกถา ที่เมืองแพซาดินา เมื่อคืนวันที่ 9 เม.ย. โดยหนังสือพิมพ์ตัดเอาส่วนสำคัญของปาฐกถามาตีพิมพ์ ความว่า

"สำหรับอนาคตต่อไปของกิจการโทรศัพท์นั้นก็เป็นการคาดการณ์โดยยังไม่มีหลักฐานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน  แต่ผมขอทำนายว่าในการพัฒนาก้าวหน้าจนถึงที่สุดของโทรศัพท์ก็คือ โทรศัพท์จะเป็นสิ่งที่เราสามารถพกพาติดตัวไปได้ตลอดเวลาเหมือนนาฬิกาข้อมือที่เราสามใส่ติดตัวอยู่ในปัจจุบัน และเราจะใช้โทรศัพท์ติดต่อกันโดยเห็นหน้ากันได้ระหว่างเราโทรศัพท์ถึงกันอยู่หากเราต้องการจะเห็นหน้าตาซึ่งกันและกัน  และใครจะไปรู้ว่าต่อไปโทรศัพท์จะสามารถแปลภาษาต่าง ๆ ให้เข้าใจซึ่งกันและกันได้โดยไม่ต้องใช้ล่าม"

ความจริงสมัยเมื่อ 67 ปีที่แล้วนั้นก็มีวี่แววของการเปลี่ยนแปลงที่นายมาร์ค ซัลลิแวน อ้างถึงที่เห็นเป็นรูปธรรมอยู่แทบทั้งหมดแล้วโดยการติดต่อแบบโทรศัพท์มือถือก็ใช้กันแพร่หลายตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เรียกว่าวอล์กกี้-ทอล์กกี้ซึ่งเป็นโทรศัพท์ที่ไร้สายขนาดถือกระทัดรัดถือในมือได้เพียงแต่รัศมีการใช้งานอยู่ในรัศมีที่ไม่ไกลมากนัก

ไม่ใช่แค่นั้นในสมัยที่นายมาร์ค ซัลลิแวนเป็นประธานบริษัทแปซิฟิกเทเลโฟนอยู่นั้นก็เริ่มมีโทรศัพท์ติดรถยนต์ตั้งแต่ปี 2489  ซึ่งผู้เขียนก็ยังมีโอกาสได้ใช้ 2-3 ครั้งเมื่อปี 2526 ซึ่งเป็นรถประจำตำแหน่งของท่านปลัดทบวงมหาวิทยาลัย พ.อ.อาทร ชนเห็นชอบ

สำหรับสมาร์ทวอตช์หรือนาฬิกาข้อมือที่โทรศัพท์ได้ ถ่ายรูปได้ ดูยูทูบได้นั้นก็ปรากฎมีขึ้นในหน้าหนังสือพิมพ์ในรูปของการ์ตูนตำรวจนักสืบสวนชื่อ ดิ๊ก เทรซี่ ตั้งแต่ปี 2489 แล้วนัยว่าผู้วาดการ์ตูนได้แนวคิดจากโทรศัพท์ติดรถยนต์ซึ่งออกมาในปีเดียวกันนั้นเอง

ดังนั้นการคาดการณ์ที่ออกจะพิลึกพิลั่นของคนระดับบริษัทโทรศัพท์ที่ผูกขาดการให้บริการทั่งมลรัฐแคลิฟอร์เนียที่เป็นที่ฮือฮาเมื่อ 67 ปีมาแล้วและในปัจจุบันก็เกิดมีขึ้นเป็นความจริงทุกประการนั้นก็เหมือนกับที่พระพุทธองค์ตรัสไว้เมื่อกว่า 2,500 ปีก่อนคือ

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อพระอาทิตย์จะขึ้น สิ่งที่ขึ้นก่อน สิ่งที่เป็นนิมิตมาก่อน คือแสงเงินแสงทอง สิ่งที่เป็นเบื้องต้นเป็นนิมิตมาก่อน แห่งความเกิดขึ้นแห่งอริยมรรคมีองค์ 8 ของภิกษุ คือความเป็นผู้มีมิตรดีฉันนั้นเหมือนกัน" -กัลยาณมิตตสูตร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook