กล้องจับโป๊ะ "อดีตเลขาฯ" แอบลักเงินทุกวัน 5 ปี สูญ 10 ล้าน เลี้ยงมาตั้งแต่ 9 ขวบ
อดีตนายกเทศมนตรีตำบลหนองไม้แดง จ.ชลบุรี แจ้งจับอดีตเลขาฯ ขโมยเงินมาตลอด 5 ปี สูญเป็น 10 ล้าน ระแวงคนนอก สุดท้ายติดกล้องวงจรปิดจับได้แบบคาหนังคาเขา
กล้องวงจรปิดจับภาพพฤติกรรมของหญิงสาวที่เข้าไปในห้องนอน และได้เปิดผ้าห่ม ก่อนทำการหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมาและทำการหยิบเงิน โดยกล้องสามารถจับพฤติกรรมการก่อเหตุในลักษณะนี้ทุกวัน ได้จำนวน 21 ครั้ง จนเจ้าของเงินซึ่งเป็นอดีตนายกเทศมนตรีตำบลหนองไม้แดง ต้องนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับได้แบบคาหนังคาเขา
ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. ของวันที่ 24 ก.ย. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ จ.ชลบุรี ได้นำตัว นางสาวสุ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี พนักงานฝ่ายทะเบียนราษฎร์อำเภอเมืองชลบุรี มาทำการสอบสวนเพิ่มเติม ในข้อหาลักทรัพย์และยักยอกทรัพย์ในเคหะสถาน หลังก่อเหตุลักเงินในกระเป๋าของ นางตวงทิพย์ ภาวสุทธิ์ชัยกิจ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลหนองไม้แดง ภายในห้องนอน ของบ้านพัก 3 ตำบลหนองไม้แดง อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี
โดยมีการตรวจเงินหมุนเวียนของธนาคาร พบว่า นางสาวสุ (นามสมมุติ) มีการเปิดบัญชีจำนวนกว่า 5 ธนาคาร บางธนาคารมียอดเงินกว่า 4 ล้านบาท ทั้งที่เป็นพนักงานเงินเดือนแค่ 12,000 บาท
ขณะที่ นางสาวสุ (นามสมมุติ) ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ ยอมรับว่าผิดทำจริง แต่อ้างว่าได้มีการยักยอกหยิบเงินมาแค่ประมาณ 2 ปี ส่วนที่ทำไปเพราะความโลภ ส่วนเงินที่ได้มาเอาไปใช้จ่ายรายวัน
ด้าน นางตวงทิพย์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลหนองไม้แดง เปิดเผยว่า ตนได้นำนางสาวสุมาเลี้ยงดูตั้งแต่อายุประมาณ 9 ปีเศษ เพราะเห็นว่าแม่ของนางสาวสุมีอาชีพดูแลสวนมะม่วง จึงได้ชักชวนมาอยู่ด้วย จะได้ไม่ต้องมาเช่าหอ เมื่อเรียนจบออกมาก็ได้ให้มาเป็นเลขาส่วนตัว จนแต่งงานมีลูกก็ยังอยู่บ้านนี้เหมือนเดิม แต่ไปทำงานที่อำเภอเมืองชลบุรี
มาช่วงหลังตลอดระยะเวลา 5 ปี เงินของตนเองได้หายไปตลอดเกือบทุกวัน ครั้งละ 10,000 – 20,000 บาท บางครั้งหายเป็นก้อนถึง 2 แสนบาท ทำให้เกิดการระแวงคนใกล้ตัวที่อยู่นอกบ้าน เพราะไม่คิดว่าเงินจะหายในบ้าน
จนมาตอนหลังก็ได้มีการจดยอดเงินในกระเป๋าก็พบว่ามีการหายจริง จึงนำกล้องวงจรปิดมาติดในห้องจึงรู้ว่าเป็นคนใกล้ชิดที่นำมาเลี้ยงดูเข้ามาหยิบเงิน แต่ก็ยังไม่มีการแจ้งความจับ ตนเฝ้าติดตามพฤติกรรมการใช้ชีวิตส่วนตัว กิน เที่ยว แบบหรู ของนางสาวสุ และดูกล้องวงจรปิด 19 วัน พบเข้ามาลักขโมยเงิน จำนวน 21 ครั้ง จนหมดความอดทนจึงเรียกตำรวจมาจับกุม
ทั้งนี้ ตนรู้สึกเสียใจที่เอามาดูแลอย่างดียังทำกันได้ อยากฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์กับคนที่เอาคนนอกมาอยู่ในบ้าน ให้ดูคดีนี้เป็นตัวอย่างจนต้องทำให้ต้องเสียเพื่อนและญาติพี่น้อง เพราะเกิดการระแวงไปหมด