ช็อก! สาว ม.4 เตรียมขึ้นประกวดนางงามผ้าไหม เจอลูกหลงอริเพื่อนเกือบครึ่งร้อยไล่ยิงจนดับ

วัยรุ่นกว่า 40 คน ไล่ยิงกันกลางถนน หลังงานผ้าไหมเลิก สาว ม.4 ไปกับเพื่อนชาย แต่โดนลูกหลงถูกกระสุนปืน 9 มม. จนดับ แม่เล่าทั้งน้ำตา ลูกสาวเตรียมชุดประกวดธิดานางงามผ้าไหมคืนนี้ ไม่คิดว่าลูกจะมาตายเสียก่อน

เมื่อเวลา 01.00 น. กลางดึกที่ผ่านมาของวันนี้ (26 ก.ย.) ร.ต.อ.สุเมธ ยิ่งแสวงดี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุวัยรุ่นยิงกันบนถนนสายบ้านบง-หนองสองห้อง บริเวณบ้านโคกเมฆ ต.บ้านคู่ อ.นาโพธิ์ จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบวัยกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 5-6 คน กำลังพยายามช่วยเหลือ น.ส.ณัฐนิชา หรือ น้องปอย อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.นาโพธิ์ ตรวจสอบกระสุนปืนทราบต่อมาขนาด 9 มม. โดนเข้าด้านหลังตัดขั้วหัวใจ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ ยังมีนายกิตติพัฒน์ อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ ถูกกระสุนนัดเดียวกันที่ทะลุจากเด็กสาววัย 16 เข้าแผ่นหลัง ถูกนำส่งโรงพยาบาลนาโพธิ์แล้วก่อนหน้านี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่บ้านของน้องปอย มีครูและเพื่อนนักเรียนรุ่นเดียวกันเดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทุกคนต่างมีอาการเศร้าโศกกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน

ทั้งนี้ นางสายฝน อายุ 38 ปี แม่ของน้องปอย กล่าวว่า ที่ อ.นาโพธิ์ มีการจัดงานผ้าไหมนาโพธิ์ ซึ่งเป็นงานประจำปีที่ยิ่งใหญ่ของอำเภอ ตอนแรกลูกสาวจะไม่ไปเที่ยวงานในคืนเกิดเหตุ แต่อยากไปให้กำลังใจเพื่อนชายที่ไปประกวดนางฟ้าจำแลง จึงไปกับเพื่อน ก่อนจะมาทราบข่าวว่าลูกถูกยิงเสียชีวิตแล้ว 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรู้สึกช็อก เพราะลูกสาวเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน เป็นที่รักของครูและเพื่อนในโรงเรียน โดยเฉพาะลูกสาวเป็นตัวแทนของ ต.ดอนกอก จะไปประกวดนางงามผ้าไหม ในคืนวันนี้ (26 ก.ย.) ไม่คิดว่าลูกสาวจะจากไปก่อนเวลาอันควร และอยากให้กฎหมายลงโทษคดีแบบนี้ให้แรงถึงประหารชีวิต

นอกจากนี้ นางสายฝน ยังกล่าวด้วยว่า ตอนนี้เป็นห่วงสามีที่เดินทางมาจากไต้หวันได้ 2 วัน ซึ่งอยู่ระหว่างการกักตัว 14 วัน ที่ศูนย์กักกันที่กรุงเทพฯ แต่ไม่รู้ว่าอยู่ศูนย์ไหน และยังไม่สามารถติดต่อกันได้ จึงอยากจะวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดต่อสามีและช่วยหาวิธีพูดให้สามีเข้าใจว่าลูกเสียชีวิตแล้ว เพราะสามีมีโรคความดันและหัวใจ เกรงจะช็อกเมื่อทราบข่าว

ขณะที่นายกิตติพัฒน์ อายุ 18 ปี คนขับรถคันเกิดเหตุ เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดว่า ก่อนหน้านี้เคยไม่กินเส้นกันกับวัยรุ่นต่างหมู่บ้าน คืนเกิดเหตุตนกับพวกรวมประมาณ 6 คน จะขับรถกลับบ้านหลังงานเลิก ระหว่างนั้นเห็นคู่อริขับรถจักรยานยนต์กว่า 40 คันสวนมา พวกตนเห็นท่าไม่ดีจึงขับรถหนีกลับบ้าน แต่ถูกกลุ่มนี้ขับรถไล่ตามและได้ยินเสียงปืนเป็นระยะ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ยินเสียงน้องปอยบอกว่าไม่รู้อะไรมาโดนกลางหลัง ตนรู้ทันทีว่าน่าจะถูกยิง

จากนั้นตนจึงขับรถไปบ้านญาติใกล้กับที่เกิดเหตุ เพื่อให้ติดต่อเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ ซึ่งต่อมา น้องปอย บอกว่า "หายใจไม่ออก" ก่อนจะสิ้นใจในเวลาต่อมา ตนคาดว่ามือยิงน่าจะเป็นลูกคนมีสีที่เคยมีเรื่องกันมาก่อนหน้านี้