ลูกขุนสหรัฐฯชี้2ฝรั่งผิดติดสินบน-ปปช.จะชี้มูลจุฑามาศ พ.ย.นี้

ลูกขุนสหรัฐฯชี้2ฝรั่งผิดติดสินบน-ปปช.จะชี้มูลจุฑามาศ พ.ย.นี้

ลูกขุนสหรัฐฯชี้2ฝรั่งผิดติดสินบน-ปปช.จะชี้มูลจุฑามาศ พ.ย.นี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คณะลูกขุนสหรัฐฯชี้ผัวเมีย ผอ.สร้างภาพยนตร์ ผิดติดสินบนผู้ว่าททท.เพื่อจัดงานบางกอกฟิล์ม ศาลตัดสิน17ธ.ค. ด้าน ปปช.ระบุจะชี้มูลความผิดพ.ย.นี้ คณะลูกขุนนครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันศุกร์ (11 ก.ย.) ได้ตัดสินกรณี นายเจอรัลด์ และนางแพทริเซีย กรีน มีความผิดในข้อหาสมคบคิด และฟอกเงิน ตามคำฟ้องที่ระบุว่าสามีภรรยาคู่นี้ตั้งบริษัทขึ้นมาบังหน้า เพื่อติดสินบนนางจุฑามาศ ศิริวรรณ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ในขณะนั้น รวมเป็นเงิน 18 ล้านดอลลาร์ แลกกับการได้เป็นผู้จัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ระหว่างปี 2545-2550 ศาลมีกำหนดตัดสินโทษในวันที่ 17 ธ.ค. ซึ่งทั้งคู่อาจถูกจำคุกตลอดชีวิต ขณะที่นางจุฑามาศยังไม่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีแต่อย่างใด โดยสามีภรรยาคู่นี้ถือเป็นบุคคลในธุรกิจบันเทิงคู่แรกที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดตามกฎหมายการทุจริตในต่างประเทศของสหรัฐ ทางด้านทนายของนางแพทริเซีย แย้งว่า การจ่ายเงินดังกล่าวไม่ใช่สินบน ทั้งคู่เป็นคนดี เป็นเจ้าของบริษัทที่ทำให้คนจำนวนมากมีงานทำ และเป็นบริษัทที่ลงทุนหลายล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาธุรกิจในไทย ขณะที่ทนายความของนายเจอรัลด์ ระบุว่า อัยการต้องการส่งสารไปถึงธุรกิจบันเทิงโดยใช้คดีของลูกความเขาเป็นทางผ่าน ทั้งนี้ เนื้อหาในคำฟ้อง ยังให้รายละเอียดการจ่ายสินบนว่า มีบางส่วนที่จ่ายเป็นเงินสดให้นางจุฑามาศโดยตรง ในรูปของค่านายหน้าประมาณ 10-20% ของจำนวนเงินทั้งหมดที่เหลือโอนเข้าบัญชีธนาคารบุตรสาว และเพื่อนของนางจุฑามาศ แล้วชดเชยด้วยการโก่งราคาค่าจัดงาน ปปช.เผยคดีจุฑามาศ คืบได้ข้อมูลFBI ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นายเมธี ครองแก้ว กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงคดี นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เรียกรับสินบนจากนักธุรกิจชาวสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ได้สิทธิ์ในการจัดงานนิทรรศการภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพ พ.ศ.2550 โดยกล่าวว่า ในวันที่ 16 ก.ย.นี้จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการฯ เพื่อประมวลข้อมูลให้รอบด้าน หลังจากได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปรับฟังการพิจารณาคดีของศาลสหรัฐอเมริกา โดยจะนำข้อมูลทั้งจากฝ่ายโจทก์และจำเลยมาพิจารณา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และจะนำคำตัดสินของคณะลูกขุนมาประกอบการพิจารณาสรุปสำนวนคดีว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ หากยังมีข้อมูลส่วนใดที่ยังไม่ชัดเจนคณะอนุกรรมการฯ ก็จะประสานงานกับทางอัยการสูงสุด เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมจากทางสหรัฐฯ แต่เบื้องต้นข้อมูลที่ได้รับจากสำนักงานสอบสวนกลางแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือเอฟบีไอ ถือว่ามีความชัดเจนอยู่แล้ว โดยเฉพาะขั้นตอนการทำธุรกรรมทางการเงินในต่างประเทศ ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ ไม่มีอำนาจในการไปเรียกข้อมูล เอกสารหลักฐานการเงินในต่างประเทศดังกล่าว ดังนั้น จึงถือว่าข้อมูลที่เอฟบีไอส่งมาให้คณะอนุกรรมการฯ นั้นสำคัญต่อการสรุปสำนวนคดีอย่างมาก อย่างไรก็ตามจากการไต่สวนคดีนี้นอกจากเรื่องการทุจริตแล้วยังพบว่ามีการกระทำผิดในตำแหน่งหน้าที่ด้วย ส่วนผู้ถูกกล่าวหานั้นก็ไม่ได้มีเฉพาะนางจุฑามาศเพียงคนเดียว แต่ยังรวมไปถึงรักษาการผู้ว่าฯ ททท.อีกคนหนึ่งด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ อย่างไรก็ตามคาดว่าคณะอนุกรรมการฯจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดได้ ภายในเดือน ก.ย.นี้ และจะสามารถสรุปสำนวนคดีเพื่อชี้มูลความผิดได้ภายในเดือน พ.ย.นี้แน่นอน DSI เผยส่งสำนวนคดีบางกอกฟิล์มฯให้ปปช.เมื่อต้นปี'51 พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าชุดตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีทุจริตโครงการบางกอกฟิล์มเฟสติวัล ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ท.ท.ท.) เปิดเผยว่า ดีเอสไอได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีความไม่โปร่งใสในโครงการบางกอกฟิล์มฯภายหลังกระทรวงยุติธรรม และเอฟบีไอของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ดำเนินคดีกับนายเจอรัลด์ และนางแพทิเซีย กรีน ฐานจ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่ในประเทศไทย โดยผลการตรวจสอบเบื้องต้น ดีเอสไอพบหลักฐานน่าเชื่อว่ามีการทุจริตฮั้วประมูล เอื้อประโยชน์ให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดได้เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ และพบว่ามีพนักงานในองค์กรของรัฐเรียกรับสินบน ซึ่งคดีเป็นอำนาจสอบสวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดีเอสไอจึงได้ส่งสำนวนคดีทั้งหมดให้ป.ป.ช.ไต่สวนตามกฎหมายตั้งแต่ต้นปี 2551 ซึ่งที่ผ่านมาป.ป.ช.ได้เรียกตนเข้าให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวอีกว่า ในชั้นตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น ดีเอสไอไม่มีอำนาจสอบสวน จึงไม่ได้เรียกผู้บริหารระดับสูงของท.ท.ท. รวมถึงนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการท.ท.ท. เข้าให้ปากคำ รวมทั้งไม่ได้เรียกบุคคลใดเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา เป็นเพียงการเรียกเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างและการประกวดราคาโครงการบางกอกฟิล์มของท.ท.ท. ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2546-2549 และเรียกเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูล ซึ่งก็พบมูลความผิดฐานทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook