พ่อเปิดใจทั้งน้ำตา! เล่านาทีจับโป๊ะ "ครูจุ๋ม" อยากได้ลูกคนเดิมกลับคืนมา
วันนี้ (29 ก.ย. 63) กลุ่มผู้ปกครองรวมตัวกันไปที่ โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ เพื่อฟังแถลงการณ์จากทางโรงเรียน เพราะสิ่งที่ครูจุ๋มและครูคนอื่นๆ ได้กระทำ มันรุนแรงเกินกว่าที่พ่อแม่จะรับได้
คุณพ่อซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ปกครองของเด็กที่ถูกครูจุ๋มทำร้าย เล่าด้วยน้ำตา ถึงความโหดร้ายที่เกิดขึ้นกับลูกชายวัย 3 ขวบ ว่า น้องได้พูดออกจากปากตัวเอง ว่าถูกครูเอาดินสอจิ้มเท้า กระทืบที่ต้นขา และที่เลวร้ายไปกว่านั้น คือ ขังน้องไว้ในห้องน้ำอย่างโดดเดี่ยว
ตนเริ่มสังเกตพฤติกรรมของลูกชายได้ชัด คือ หลังช่วงโควิด-19 น้องมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป จากที่เป็นเด็กร่าเริง ชอบทำการบ้าน ชอบระบายสี กลายเป็นเด็กที่สมาธิสั้น และมีอารมณ์รุนแรง ทุกวันนี้พอเอาสมุดระบายสีมาให้ น้องก็ระบายสีไม่ถึงครึ่งของภาพ นอกนั้นละเลงจนภาพเละไปหมด
ตนจึงปรึกษาคุณหมอ โดยคุณหมอบอกว่า ช่วงนี้เป็นวัยทองของเด็ก เลยไม่ได้สงสัยอะไร แต่มาเริ่มเอะใจอีกครั้ง เนื่องจากเวลาน้องกลับจากโรงเรียน ท้องของน้องจะตึง แข็ง ปวดท้อง และปัสสาวะออกเยอะกว่าผู้ใหญ่ แถมยังกินข้าวมากกว่าปกติ
คุณพ่อจึงตัดสินใจ แกล้งถามน้องว่า ครูจุ๋มเป็นอย่างไรบ้าง แต่สิ่งที่น้องตอบกลับมา ทำให้พ่อรู้ทันที น้องบอกว่า “ป๊าไม่เอา ไม่พูด ครูไม่ให้พูด”
หลังทราบเรื่องทั้งหมด คุณพ่อเลยลองทดสอบ ด้วยการเอาน้ำดื่มผสมวิตามินเต็มขวดให้น้องไปโรงเรียน แต่ปรากฏว่า พอน้องกลับจากโรงเรียน น้ำในขวดยังอยู่เท่าเดิม เมื่อลองชิมก็ยังเป็นน้ำวิตามินเดิม
คุณแม่ของน้องจึงลองโทรหาครูจุ๋ม ถามว่า น้องได้ดื่มน้ำไหม ครูจุ๋มตอบด้วยความมั่นใจว่า “น้องดื่มน้ำเยอะจนหมดขวด ครูเลยเติมน้ำให้ใหม่” แม่ของน้องเลยตอบกลับไปว่า “โรงเรียนสปอร์ตนะ ให้น้ำดื่มผสมวิตามินด้วย” ประโยคนี้ทำให้ครูจุ๋มอึ้งไปเลย
ตอนนี้สิ่งที่คุณพ่อ และเชื่อว่าผู้ปกครองอีกหลายท่านต้องการ คือ “อยากได้ลูกคนเดิมกลับคืนมา ลูกนอนผวาทั้งคืน”
สิ่งที่พ่อแม่เจ็บปวดที่สุด คือ การเห็นลูกสุดที่รักเปลี่ยนไป หลังจากนี้ไม่รู้ว่าจะใช้เวลาอีกนานแค่ไหน ถึงจะได้ลูกคนที่ร่าเริงกลับคืนมา ตอนนี้ทางโรงเรียนก็ยังไม่มีข้อสรุป ว่าจะรับผิดชอบอย่างไร
ก่อนที่คุณพ่อจะยืนยันว่า จะย้ายน้องไปเรียนที่อื่น เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันรุนแรงเกินกว่าจะรับได้