ทันตแพทย์ฟ้องโรงพยาบาล ภรรยาแพ้สารทึบรังสีเสียชีวิต สุดเศร้าตรวจศพพบตั้งครรภ์
ทันตแพทย์หนุ่มสุดเศร้า ภรรยาแพ้สารทึบรังสี ขณะเอกซเรย์จนเสียชีวิต ตรวจศพพบว่ากำลังตั้งครรภ์
(29 ก.ย.63) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ธีระวุฑฒ์ หวงสุวรรณากร ซึ่งเป็นทันตแพทย์ที่ จ.เชียงใหม่ ได้โพสต์ข้อความเรียกร้องความเป็นธรรมให้ครอบครัว เนื่องจากภรรยาต้องเสียชีวิตหลังจากเข้ารับการรักษาอาการปวดท้อง ก่อนจะตรวจพบว่ากำลังตั้งครรภ์ ข้อความระบุว่า
"สวัสดีคับ ทางเราเป็นญาติผู้เสียชีวิตต้องการติดต่อนักข่าวเพื่อมาทำข่าวเกี่ยวกับการฟ้องร้องโรงพยาบาลเอกชน ทำการรักษาคนไข้ที่มีประกัน โดยกระทำการรักษาเกินความจำเป็นส่งผลให้เสียชีวิต
เหตุการณ์คือ ภรรยาของผม (กิ๊ฟ) มีอาการปวดท้องน้อยได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเช้าวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2563 อาการคือปวดท้องน้อยมา 3-4 วัน คลื่นไส้อาเจียน 1 สัปดาห์ กิ๊ฟและผม ตัดสินใจเลือกคลินิกอายุรกรรมทางเดินอาหาร เพราะในเบื้องต้นไม่แน่ใจว่าอาการปวดท้องเกิดจากอะไร
คุณหมอแจ้งกับ กิ๊ฟ ว่าสงสัยนิ่วทางเดินปัสสาวะ และให้กิ๊ฟ แอดมิทเพื่อทำ การตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ช่องท้องส่วนล่างที่มีการฉีดสารทึบรังสี หรือ CT lower abdomen with contrast media
ที่ห้องเอ็กซเรย์ กิ๊ฟ เกิดอาการแพ้สารทึบรังสี ขั้นรุนแรงที่สุด หรือ Anaphylactic shock จากเหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นรวดเร็วมาก ภายในไม่กี่ชั่วโมง แม้จะอยู่ในมือแพทย์ และโรงพยาบาลชั้นนำ แต่อาการกลับทรุดหนักจนทำให้กิ๊ฟได้จากไปโดยไม่มีวันกลับมา
เหตุการณ์สุดท้ายที่จำได้ที่รพ. คุณหมอ เดินเข้ามาบอกผมว่า พบถุงการตั้งครรภ์จากผลเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ แพทย์ได้สวนปัสสาวะร่างที่ไร้วิญญาณไปตรวจปัสสาวะยืนยันแล้วพบว่าตั้งครรภ์จริงๆ ผมหัวเราะเบาๆ แล้วพูดกับภรรยาว่า อ้าวท้องเหรอ เรากำลังจะมีลูก นี่รอตั้งนานเลยนะ จุดนี้ไม่รู้จริงๆ ว่าผมควรจะดีใจหรือเสียใจดี
หลังจากนั้นครอบครัวรีบนำร่างกลับบ้านเกิดเพื่อทำพิธีทางศาสนา ตอนนั้นครอบครัวรู้สึกติดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงขอเอกสารการรักษามาดู แต่ต้องไปขอหลายครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งไม่ครบถ้วน
ต่อมาพี่น้องเราที่เป็นหมอไม่รอช้าขอเข้าพบ ผอ.โรงพยาบาล เพื่อขอคำอธิบายกับเรื่องนี้ ทางโรงพยาบาลปฏิเสธการอธิบายเหตุการณ์ พูดเพียงแต่ตนไม่ผิด สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปตามมาตรฐานทุกขั้นตอน ไม่ยอมแม้แต่จะพูดคำว่าขอโทษซึ่งได้อ้างถึงศักดิ์ศรีของวิชาชีพของแพทย์ ณ จุดนี้ทางครอบครัวของเราเมื่อมีสติดูเอกสารและข้อมูลการรักษาอย่างละเอียด มีสิ่งที่ผิดปกติหลายจุด ซึ่งคนเป็นหมออย่างพี่น้องเรายังสงสัยเป็นอย่างมากว่า โรงพยาบาลแห่งนี้ทำตามขั้นตอนตามมาตรฐานแล้วจริงหรือ...
ด้วยเหตุนี้ทางเราจะทำการยื่นเอกสารกับทางแพทยสภาเพื่อขอความยุติธรรมในการตรวจสอบโดยไม่มีการแทรกแซงใดๆ เพื่อให้มีการตรวจสอบอย่างใสสะอาดที่สุด โดยเร็ววัน (จะแจ้งให้ทราบอีกที) ณ แพทยสภาแห่งประเทศไทย
ทางครอบครัวของเราขอร้องสื่อทุกๆท่านได้โปรดอย่ามองข้ามกับเรื่องนี้ เพื่อขอความเป็นธรรมให้แก่ภรรยาของผม เพื่อเป็นอุทาหรณ์ และช่วยกันป้องกันเพื่อไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคนอื่นๆและครอบครัวของท่าน"