อาเจะห์ออกก.ม.ปาหินใส่คนจนตาย
จาการ์ตา-กลุ่มสิทธิมนุษยชนค้านอาเจะห์ออกก.ม.ปาหินใส่คนที่มีความผิดฐานคบชู้จนตาย
กลุ่มสิทธิมนุษยชนอินโดนีเซียได้ออกโรงประณาม เมื่อวันอังคาร (15 ก.ย.) ต่อกรณีที่ทางการจังหวัดอาเจะห์ ได้ออกกฎหมายลงโทษผู้ที่มีความผิดฐานคบชู้ด้วยการปาก้อนหินใส่จนตาย โดยกล่าวว่าเป็นการกระทำที่โหดร้าย และเหยียบย่ำความเป็นมนุษย์
กฎหมายฉบับนี้ ซึ่งเพิ่งผ่านความเห็นชอบของสภาท้องถิ่น จังหวัดอาเจะห์ไปเมื่อวันจันทร์ ได้กำหนดบทลงโทษประหารชีวิตผู้ที่แต่งงานแล้ว แต่จงใจคบชู้ด้วยการปาหินใส่จนตาย ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้แต่งงานแต่มีความผิดฐานคบชู้ จะถูกลงโทษโบย 100 ที
กฎหมายอิสลามฉบับนี้ ซึ่งนำมาใช้แทนประมวลกฎหมายอาญาของอินโดนีเซีย ยังกำหนดโทษผู้ที่มีเพศสัมพันธ์แบบรักร่วมเพศ ด้วยการเฆี่ยนสูงสุด 100 ที ปรับเป็นทองคำสูดสุด 1,000 กรัม หรือจำคุกสูงสุด 100 เดือน ส่วนผู้ที่มีความผิดฐานอนาจารเด็กนั้นจะต้องโทษโบยสูงสุด 200 ที ปรับเป็นทองคำสูงสุด 2,000 กรัม หรือจำคุกสูงสุด 200 เดือน
ส่วนผู้ที่มีความผิดในข้อหาข่มขืนจะถูกโบยอย่างน้อย 100 ครั้ง สูงสุด 300 ครั้ง หรือต้องโทษจำคุกอย่างน้อย 100 เดือน สูงสุดไม่เกิน 200 เดือน
นายอิฟดาล กาซิม ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติอินโดนีเซีย กล่าวว่า ทางกลุ่มจะเรียกร้องให้ประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุดโดโยโนทบทวนการออกกฎหมายฉบับนี้ใหม่ พร้อมทั้งกล่าวว่า กฎหมายอิสลามฉบับนี้ทำให้อาเจะห์ย้อนกลับไปสู่ความล้าหลัง การปาหินใส่คนจนตายทำให้อาเจะห์เหมือนตกอยู่ในศตวรรษที่ 14 หรือ 15
อย่างไรก็ตาม นายมารูฟ อามิน ประธานสภาอูเลมา ซึ่งเป็นองค์กรมุสลิมชั้นนำของอินโดนีเซีย ได้แสดงความยินดีต่อการออกกฎหมายฉบับนี้ โดยบอกว่า สภาอูเลมาสนับสนุนการนำกฎหมายอิสลามมาใช้ในพื้นที่ที่ได้รับการอนุญาตอย่างเช่นจังหวัดอาเจะห์ ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองพิเศษ เพราะสำหรับชาวมุสลิมแล้ว กฎหมายอิสลามนั้นดีที่สุด และสามารถนำมาใช้ได้ไม่ว่าจะยุคสมัยใด หรือที่ใดก็ตาม ตราบเท่าที่เป็นความเห็นพ้องต้องกันของทุกคน เรื่องนี้ก็ไม่มีปัญหา
กฎหมายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ภายใน 30 วัน และผ่านความเห็นชอบในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ก่อนหน้าที่สภาอาเจะห์ชุดใหม่ นำโดยพรรคอาเจะห์ ซึ่งยึดแนวทางสายกลาง จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งต่อจากพรรคมุสลิมที่มีหัวอนุรักษนิยม
ทั้งนี้ ชาวอินโดนีเซียเกือบ 90% เป็นชาวมุสลิม แต่ส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาแนวทางสายกลาง