สมพงษ์ หัวหน้าเพื่อไทย ชี้ "พจมาน" ร่วมพรรค ไม่เป็นความจริง! เชื่อมวลชนยังสนับสนุน

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง การทำงานหลังจากรับตำแหน่งหัวหน้าครั้งที่ 2 ว่า หลังจากนี้จะมีการประชุมเพื่อหาแนวทางการทำงานของพรรคโดยขณะนี้ได้เชิญผู้ที่มีความรู้ด้านเศรษฐกิจมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมจากบุคลากรด้านเศรษฐกิจของพรรคที่มีอยู่เพื่อให้ได้ความรอบรู้ที่กว้างขึ้น เมื่อประชุมเสร็จแล้วก็จะวางแนวทางของพรรค ว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไรทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม

อีกทั้งต้องรวมทุกภาคส่วนให้มาช่วยกัน รวมถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ด้วยเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่ง ส.ส. จะต้องหาข้อมูลในภาคส่วนประชาชนและมาประเมินว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อเพื่อให้พรรคเดินทางไปในเส้นทางที่ถูกต้อง

ส่วนการดึงมวลชนให้กลับมาสนับสนุนพรรคเพื่อไทยเช่นนั้น ตนมองว่า ประชาชนยังสนับสนุนพรรคเพื่อไทยอยู่ โดยตลอดและก็ไม่คิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายแต่อย่างไรก็ตามก็ต้องทำให้หนักแน่นขึ้นเพื่อให้คำว่าพรรคเพื่อไทยอยู่ในใจของประชาชนได้ยืดยาวและมันคงยิ่งขึ้น

สำหรับการทำนโยบายพรรคนั้น ก็จะเน้นการผสมผสานคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ นำนโยบาย มาบูรณาการร่วมกัน เพื่อให้พรรคเพื่อไทยกลับมาให้ยิ่งใหญ่เหมือนเดิม พร้อมยืนยันว่ากรรมการชุดใหม่นี้เป็นตัวจริงทุกคน โดยก่อนหน้านี้เคยคิดจะปรับโครงสร้างพรรคอยู่แล้ว แต่เนื่องด้วยตนเองเป็นผู้นำฝ่ายค้านจึงต้องรอเวลาให้ปิดสมัยประชุมก่อน และในช่วงเวลานี้จึงเหมาะสมที่จะปรับเปลี่ยนโครงสร้างพรรครวมทั้งเรื่องกับปรับเปลี่ยนโลโก้ด้วย

นอกจากนี้ นายสมพงษ์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยาของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเข้ามาช่วยงานของพรรค ว่า คุณหญิงพจมาน ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรกับพรรค แต่มีบางครั้งที่สมาชิกบางคนอาจจะไปพบปะพูดคุยเป็นการส่วนตัว ข่าวที่ออกมาเป็นเพียงแค่ข่าวลือ และขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณว่าคนในตระกูลชินวัตรจะเข้ามาช่วยเหลืองาน

ส่วนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย จะได้รับตำแหน่งอะไรในพรรคอีกหรือไม่นั้น ขณะนี้คุณหญิงสุดารัตน์ ยังคงเป็นสมาชิกพรรคอยู่ และเป็นประธานกรรมการสรรหาของผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพียงแต่ได้ลาออกจากประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เท่านั้น

สำหรับเรื่องของการชุมนุมพรรคเพื่อไทยก็ได้มีการติดตามอยู่ไม่ได้ขัดข้องอะไรและไม่ได้ให้การสนับสนุนโดยตรงเพียงสังเกตการณ์และปฏิบัติตัวไปในแนวทางที่ถูกที่ควร