อส.นราธิวาส ยิงกันเอง เสียชีวิตคาฐาน 1 นาย ผู้ก่อเหตุหลบหนีพร้อมอาวุธสงคราม
อส.นราธิวาส เป็นบัดดี้กัน ทะเลาะเสียงดังก่อนยิงกันเอง เสียชีวิตคาฐาน 1 นาย ผู้ก่อเหตุหลบหนีพร้อมอาวุธสงคราม
(5 ต.ค.63) พ.ต.ท.ทีปกร ธิติชญากุล สารวัตรสอบสวน สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ประจำฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครอง ต.โต๊ะเด็ง ซึ่งตั้งอยู่ ม.1 ต.โต๊ะเด็ง ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงกันเองเสียชีวิต 1 นาย จึงพร้อมด้วย นายเศวต เพชรนุ้ย นายอำเภอสุไหงปาดี พ.อ.เอกพล เลขนอก ผู้บังคับชุดเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยสุไหงปาดีและกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ พบศพ อส.เจ๊ะมูฮัมหมัดฟีกรัน อายุ 27 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนแคร่ไม้หน้าห้องพักใกล้กับที่ตั้งหอสูง ซึ่งอยู่ด้านหลังสุดของฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบล เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ผ้าคลุมศพผู้เสียชีวิตไว้ พร้อมทั้งได้กั้นพื้นที่ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้า เพื่อรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส มาตรวจสอบ ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ อส.อาสลาน อายุ 35 ปี ได้วิ่งหลบหนีออกจากฐาน โดยได้นำอาวุธปืน AK 102 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนจำนวนหนึ่งไปด้วย นายเศวต เพชรนุ้ย นายอำเภอสุไหงปาดี จึงได้สั่งการให้จุดตรวจทุกจุดตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อจับกุม อส.อาสลาน แต่เจ้าหน้าที่ไม่พบตัวแต่ประการใด
ต่อมาเวลา 18.00 น. พ.ต.อ.มานิตย์ ปานทอง นักวิทยาศาสตร์ สบ. 4 กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ได้เดินทางมาตรวจจุดเกิดเหตุ และพบว่า อส.เจ๊ะมูฮัมหมัดฟีกรัน มีบาดแผลถูกกระสุนปืนที่บริเวณหน้าอกและศีรษะ จำนวน 2 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน โดยในระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ทางเครือญาติของผู้เสียชีวิต และเครือญาติของผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางมาฐานปฏิบัติการณ์ชุดคุ้มครองตำบล โดยนายเศวต นายอำเภอสุไหงปาดี ได้พูดปลอบประโลมกับญาติทั้ง 2 ฝ่าย ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้ขอร้องให้ญาติของผู้ก่อเหตุ เมื่อ อส.อาสลาน ประสานหรือติดต่อกลับมาทางบ้าน ก็ขอให้เข้ามอบตัวพร้อมนำอาวุธปืนหลวงมาคืน โดยเจ้าหน้าที่จะให้ความเป็นธรรม ก่อนที่จะมอบศพผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยสุไหงปาดี นำศพส่งโรงพยาบาลสุไหงปาดี เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา
จากการสอบสวนทราบว่า ในระหว่างที่เพื่อนๆ ในฐานกำลังแยกย้ายกันอยู่ตามจุดต่างๆ ตามปกติเฉดเช่นทุกวันที่ผ่านมา อส.เจ๊ะมูฮัมหมัดฟีกรัน และ อส.อาสลาน ซึ่งเป็นบัดดี้และพักอยู่ในห้องเดียวกัน นั่งเล่นอยู่ที่แคร่ไม้หน้าห้องพัก จู่ๆ ทั้ง 2 คน ได้ถกเถียงปัญหาบางอย่างและเสียงค่อยๆ ดังขึ้น แต่เพื่อนๆ ในฐานไม่มีใครสนใจ เนื่องจากทั้ง 2 คน มักมีปากเสียงกันอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งเพื่อนๆ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น จำนวน 2 นัด แล้ว อส.อาสลาน ได้วิ่งถืออาวุธปืน AK 102 ออกจากฐานไป โดยวิ่งมุ่งหน้าเข้าไปในป่าสวนยางพาราตรงข้ามฐาน และเพื่อนๆ ได้วิ่งไปที่ห้องพัก พบ อส.เจ๊ะมูฮัมหมัดฟีกรัน ถูกยิงเสียชีวิต และได้แจ้งให้นายเศวต นายอำเภอสุไหงปาดี ให้รับทราบพร้อมเดินทางมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้านนายเศวต เพชรนุ้ย นายอำเภอสุไหงปาดี เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นสอบถามเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน เหตุที่เกิดขึ้นไม่มีใครพบเห็นได้ยินเพียงเสียงโต้เถียงระหว่างผู้เสียชีวิตกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นบัดดี้และเพื่อนกัน น่าจะเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนในฐานคาดไม่ถึง ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องส่วนตัวที่ทั้ง 2 คน มีความเห็นไม่ลงรอยกัน ซึ่งข้อเท็จจริงต้องรอให้ อส.อาสลาน เข้ามอบตัวจึงจะทราบความจริงทั้งหมด