ป.ป.ช.เล็งขอเอกสารคดีสินบน บางกอกฟิล์ม จากสหรัฐ!! ยันสอบ จุฑามาศ ไม่ต้องรอศาลตัดสิน
ป.ป.ช.เตรียมร่างหนังสือขอเอกสารคดีสินบนบางกอกฟิล์มจากสหรัฐ ยันสอบ "จุฑามาศ"ได้เลยไม่ต้องรอศาลตัดสิน เปิดช่องเจ้าตัวแจงข้อเท็จจริง แม้ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา "เพ็ญสุดา"พร้อมยันไม่เกี่ยวทุจริต
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายเมธี ครองแก้ว กรรมการป.ป.ช. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงคดีกล่าวหานางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เรียกรับสินบนจากนักธุรกิจชาวสหรัฐอเมริกา เพื่อให้สิทธิในการจัดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ หรือเทศกาลหนังบางกอกฟิล์ม ปี 2550 กล่าวว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการวันนี้ได้มีมติให้ร่างหนังสือเพื่อส่งไปยังศาลยุติธรรมของประเทศสหรัฐอเมริกาผ่านทางสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับการพิจารณาคดีเรื่องนี้ เช่นการธุรกรรมทางการเงิน การจัดการเรื่องบัญชี เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าทางการสหรัฐอเมริกาจะส่งข้อมูลกลับมาเมื่อใด
"ตัวผมเป็นคนใจร้อน ใจจริงก็อยากจะบินไปเอาเอง หรือไม่ก็ให้เจ้าหน้าที่ของป.ป.ช.ไปรับเอกสารด้วยตัวเอง เพื่อให้คดีพิจารณาดำเนินการไปได้อย่างรวดเร็ว เพราะที่ผ่านมา ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก ทั้งนี้ การพิจารณาของป.ป.ช.ไม่จำเป็นต้องรอให้การพิจารณาคดีที่สหรัฐไปสิ้นสุดที่ศาลฎีกา โดยป.ป.ช.สามารถดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคนไทยได้เลย เพราะถือว่า ทางสหรัฐฯ กับไทยต่างมีระบบกฎหมายที่แตกต่างกัน" นายเมธี กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมานางจุฑามาศได้ติดต่อมายังป.ป.ช.บ้างหรือไม่ นายเมธี กล่าวว่า ทางคณะอนุกรรมการได้ส่งเรื่องการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนไปให้นางจุฑามาศแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการติดต่อมาว่า นางจุฑามาศจะเดินทางมาชี้แจงหรือไม่ เพราะขั้นตอนนี้เป็นเพียงขั้นตอนการรวบรวมข้อเท็จจริงเท่านั้น ยังไม่ถึงขั้นการแจ้งข้อกล่าวหา แต่หากนางจุฑามาศมีความสมัครใจที่จะเข้ามาชี้แจงต่อป.ป.ช.ก็สามารถทำได้ และป.ป.ช.เองก็พร้อมให้ความร่วมมือ
ขณะที่ น.ส.เพ็ญสุดา ไพรอร่าม รองผู้ว่าการด้านบริหาร ในฐานะรักษาการผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวพาดพิงรักษาการผู้ว่าการ ททท. ในปี 2550 ทุจริตการจัดงานภาพยนตร์นานาชาติหรือเทศกาลบางกอกฟิล์ม ร่วมกับนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการ ททท. โดยยอมรับว่า ขณะนั้นเป็นรักษาการผู้ว่าการ ททท.จริง แต่เรื่องดังกล่าวไม่อยู่ในสายงาน เพราะทำหน้าที่ในตำแหน่งรองผู้ว่าการด้านสินค้าและการท่องเที่ยว ส่วนสายงานที่รับผิดชอบ คือ สายงานสื่อสารการตลาด จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว แต่หาก ป.ป.ช.เรียกให้ไปชี้แจงก็พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
"การที่ ป.ป.ช.กล่าวพาดพิงถึงรักษาการผู้ว่าการ ททท.ในขณะนั้น อาจจะเป็นเพราะเรื่องของตำแหน่งมากกว่า เพราะการที่ทำหน้าที่รักษาการผู้ว่าการ ททท. ถือเป็นตำแหน่งสูงสุด ที่อาจมีส่วนรู้เห็นด้วย แต่จริงๆ แล้ว ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด และหลังทราบข่าวว่ามีการกล่าวพาดพิง รู้สึกตกใจมาก แต่พอทราบรายละเอียดของเนื้อหาแล้ว ก็ไม่รู้สึกวิตกกังวลอะไร เพราะไม่มีส่วนงานที่เกี่ยวข้องจริงๆ" น.ส.เพ็ญสุดากล่าว