สะพัดวิ่งเต้นซี10ในมหาดไทยวงเงิน15ล.!!! เลื่อนชั้นผู้ว่าฯจบ 'ง.15จากม.สยาม'

สะพัดวิ่งเต้นซื้อซี 10 วงเงิน 15 ล้านในมหาดไทยมีจริง ผู้ว่าฯสมุทรสาครเชื่อโดนพิษการเมืองถูกย้ายเข้ากระทรวง "พรทิวา"รีบแจ้นนำ"ยรรยง พวงราช"คารวะนายกฯ ถึงรัฐสภา ปัดข่าวให้รอผลคดีกล้ายางตัดสินก่อน นั่งรอพบจนได้คุย"มาร์ค"ในที่สุด เผย"อภิสิทธิ"ยันไม่มีปัยหาตัวบุคคล ปัดข่าวขัดแย้งระหว่างปชป.

ผู้ว่าฯสมุทรสาครเชื่อโดนพิษการเมือง

นายวีระยุทธ เอี่ยมอำภา ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับทราบคำสั่งโยกย้ายให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจกระทรวงมหาดไทยว่า เชื่อว่ารับพิษการเมืองเข้าเต็มๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ นับเวลาแล้วนั่งอยู่ตำแหน่งผู้ว่าฯครบ 2 ปีพอดี อย่างไรก็ตาม ทำใจได้สบายและเดินทางไปมาสะดวก

"ผมได้ยินกระแสข่าวเรื่องการจัดโผอยู่บ้างว่าจะมีคำสั่งย้ายจำนวนมาก เด็กเส้นเด็กฝากรวมทั้งเส้นสายก็เยอะ อย่างไรก็ตาม นับว่าโอเคกับตำแหน่งล่าสุด ถือว่ามีเวลาพักผ่อนมากขึ้น สำหรับสมุทรสาครนั้นผมกำลังพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้กำลังไปได้สวย แต่มาโดนสั่งเด้งฟ้าผ่าเสียก่อน ผมเชื่อว่าเพราะพิษการเมืองเต็มเปา" นายวีระยุทธกล่าว

"ประชา" ยันย้ายเพื่อดูแลครอบครัว

ทางด้านนายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งถูกให้โยกย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย กล่าวระหว่างพบปะกับหัวหน้าส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในงาน "เวทีประชาคมยามเช้า" ที่โรงแรมวังใต้ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จัดทุกเช้าวันพุธของสัปดาห์ว่า ขอย้ายไปเป็นผู้ตรวจฯเพราะต้องการให้เวลากับครอบครัว อย่างไรก็ตาม ทำงานที่ จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งใจทุ่มเทตลอด งานบางอย่างอาจไม่สามารถสนองได้ทั้งหมด แต่ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเงินบาป และขอให้ทุกคนอย่าไปรับเงินจากบ่อนการพนัน, ยาเสพติด เพราะเป็นเงินบาปติดตัวไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บอร์ดสายตรงผู้ว่าฯในเว็บไซต์ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชาชนและนักศึกษาเข้าแสดงความคิดเห็นเสียดายและให้กำลังใจที่นายประชาถูกย้ายเป็นจำนวนมาก

แหล่งข่าวระบุว่า กระแสข่าวการวิ่งเต้นเลื่อนขึ้นซี 10 (อธิบดีและผู้ว่าฯ) ในวงเงิน 15 ล้านบาทเป็นจริง โดยเป็นปีแรกที่ให้ระดับรองผู้ว่าฯที่เหลืออายุราชการ 1 ปี ให้เข้าเสนอวิสัยทัศน์เป็นผู้ว่าฯได้ ทั้งที่ปกติจะไม่แต่งตั้ง ทำให้มีการแข่งขันเสนอตัวกันสูงและเรียกตัวรองผู้ว่าฯไปเจรจาเป็นรายบุคคล จนมีคำพูดฮือฮาเป็นที่รู้กันในวงข้าราชการมหาดไทยว่า ผู้ที่ได้เลื่อนชั้นผู้ว่าฯจบ ง.15 จาก ม.สยาม

"กอร์ปศักดิ์"ยัน"ยรรยง"ไร้ปัญหา

เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เกี่ยวกับการเข้าพบนายอภิสิทธิ์ และนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ที่รัฐสภา ว่า ไม่มีการเจรจาเพื่อแลกเปลี่ยนข้อตกลงทางการเมืองแต่อย่างใด แต่เข้าพบเพื่อรับมอบนโยบายโครงการประกันรายได้เกษตรกร และการพยุงราคาสินค้าเกษตร ที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ โดยนายกรัฐมนตรีกำชับว่าเรื่องนี้กระทรวงพาณิชย์มีบทบาทสำคัญ ควรเป็นไปในทิศทางเดียวกับรัฐบาล เพื่อให้งานเดินหน้าต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้ยืนยันไปว่ากระทรวงพาณิชย์พร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว

"การเข้าพบครั้งนี้ ผมต้องขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี และถือเป็นโอกาสพิเศษต่อกระทรวงพาณิชย์ ชี้ให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการดำเนินงานตามนโยบายมาก หากไม่สนใจคงจะปล่อยให้เรื่องผ่าน โดยส่วนตัวผม เคารพผู้นำเสมอ และพร้อมปฏิบัติตามนโยบายทุกเรื่อง" นายยรรยงระบุ
ด้านนายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเชิญนายยรรยงเข้าพบเพื่อหารือถึงนโยบายประกันรายได้ของกระทรวงพาณิชย์ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่า พูดคุยกันถึงเรื่องอะไรบ้าง

"ส่วนการดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงพาณิชย์ของนายยรรยง คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร และยืนยันว่าที่ผ่านผมก็ไม่เคยคัดค้านอะไร เพราะไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใครอยู่แล้ว" นายกอร์ปศักดิ์ระบุ

"ภูมิใจไทย"ยัน"อภิสิทธิ์"ไม่ยี้"ยรรยง"-สัมพันธ์พรรคร่วมยังปึ้ก

นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่อนุมัติให้นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นปลัดกระทรวงพาณิชนย์ ตามที่กระทรวงนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ โดยนายอภิสิทธิ์ ขอเวลาไปดูก่อนว่า เราทราบดีว่าในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลการเสนอชื่อเข้ามาเป็นสิทธิของนายกฯ ที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาใน ครม. และสิ่งที่ปรากฎให้เห็นคือที่ผ่านมา นายกฯ ไม่ได้มีความคิดเห็นเป็นอย่างอื่น หากเป็นกระทรวงที่พรรคภูมิใจไทยรับผิดชอบ ซึ่งกรณีกระทรวงพาณิชย์ก็เช่นเดียวกัน แต่การที่จะแต่งตั้งใครเป็นปลัดกระทรวงนั้นส่วนหนึ่งเป็นสิทธิของนายกฯ ที่จะพิจารณาความเหมาะสม

"บางเรื่องในการทำงานร่วมกัน ก็จะเป็นในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ที่เปลี่ยนการจำนำข้าวหรือข้าวโพดมาเป็นการประกันรายได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่นายกฯต้องหาเวลาคุยกับคนที่จะมาเป็นปลัดกระทรวงคนใหม่ ที่ผ่านมานายกฯก็ไม่เคยแสดงความคิดเห็นว่านายยรรยง ไม่เหมาะจะมาเป็นปลัด ซึ่งนายรรยงก็ได้พูดคุยกับนายกฯแล้ว ทุกอย่างก็จบ เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าเรื่องความขัดแย้งระว่างพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้เป็นความจริง" นายศุภชัย กล่าว

"พรทิวา"ลาก"ยรรยง"ดักรอ"นายกฯ ถึงหน้าห้องทำงาน

ก่อนหน้านี้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 16 กันยายน นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้นำนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน ซึ่งได้รับการสนับสนุนให้เข้ารับตำแหน่งปลัดกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ รอเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่รัฐสภา หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (15 ก.ย.) ยังไม่มีการพิจารณาแต่งตั้งปลัดกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ตามข้อเสนอ เนื่องจากนายกฯต้องการหารือกับผู้ที่จะเข้ามารับหน้าที่ให้มีความเข้าใจตรงกันก่อน

ทั้งนี้ นายยรรยงให้สัมภาษณ์ ว่า เดิมมีกำหนดเข้าพบนายกฯในวันที่ 17 กันยายน แต่เพื่อความสะดวกของนายกฯ จึงเดินทางมาพบที่รัฐสภาในวันที่ 16 กันยายน เพื่อรับฟังนโยบายเกี่ยวกับนโยบายการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์เป็นฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร ดังนั้นจะพยายามทำงานตามนโยบายรัฐบาลเต็มที่ คิดว่านายกฯ เองก็คงอยากรับทราบความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายการประกันราคาสินค้าเกษตร

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุที่ครม. ยังไม่อนุมัติแต่งตั้งเป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นเพราะนายกฯ เคืองที่เคยไปสั่งสอนครม. เรื่องการระบายข้าวโพดในสต๊อกของรัฐบาลหรือไม่ นายยรรยงยิ้มแหยๆ ก่อนกล่าวว่า "ไม่ใช่แบบนั้น นายกฯ ไม่มีปัญหาอะไร หลังจากนั้นผมยังไปพบกับท่านที่ห้องเลย ท่านก็สบายใจดี"

เมื่อถามว่า มีความหวังจะได้เป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์มากน้อยแค่ไหน นายยรรยงกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องมีความหวังหรือไม่ แต่มาเรียนให้นายกฯ ทราบเรื่องการทำงาน และนายกฯ อาจอยากฝากรัฐมนตรีให้ไปดูแลเรื่องนโยบายสำคัญของรัฐบาล

ขณะที่ นางพรทิวากล่าวชี้แจงกรณีที่ครม. ยังไม่อนุมัติแต่งตั้งนายยรรยงเป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ ว่า นายกฯ ได้รับเรื่องเอาไว้แล้ว และยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาเรื่องตัวบุคคล แต่ต้องการให้นายยรรยงมาพบเสียหน่อย ซึ่งอาจเป็นความผิดของตนที่ไม่ได้นำนายยรรยงไปพบนายกฯ ก่อน ดังนั้นจะนำนายยรรยงเข้าพบนายกฯ ในวันที่ 17 ก.ย. เพื่อรับฟังแนวทางแก้ปัญหาสินค้าเกษตร ทั้งนี้นายยรรยงต้องปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาลอยู่แล้ว ไม่สามารถคิดเอง ทำเองได้ ดังนั้นนายยรรยงพร้อมปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าปลัดกระทรวงพาณิชย์คนใหม่จะชื่อนายยรรยง นางพรทิวากล่าวว่า "ยังไงก็ยังยืนยันว่าจะส่งรายชื่ออธิบดียรรยง ดิฉันมีจุดยืน อย่างไรก็ไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา และนายกฯ เองก็บอกชัดเจนว่าตัวบุคคลไม่มีปัญหาสำหรับท่าน แต่เรื่องแนวนโยบายให้มาพบพูดคุยกันหน่อย สำหรับสาเหตุที่ถูกใจนายยรรยงเพราะเป็นข้าราชการซี 10 ตั้งแต่ปี 2539 ถือเป็นผู้มีอาวุโสสูงสุด ข้าราชการให้การยอมรับ ที่ผ่านมาเคยเป็นแคนดิเดตปลัดมาหลายสมัยแล้ว"

เมื่อถามถึงกระแสข่าวนายกฯ อยากรอดูผลการตัดสินคดีทุจริตการจัดซื้อกล้ายางพารา ในวันที่ 21 กันยายน เพื่อผลักดันให้นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์แทน นางพรทิวากล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น เรายังไม่ทราบว่าการตัดสินคดีจะเป็นอย่างไร ก็เป็นแค่ข่าว แต่นายกฯ พูดชัดเจนว่าไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่า มีข่าวอีกกระแสว่าเหตุที่มีการดองเรื่องการแต่งตั้งปลัดกระทรวงพาณิชย์ เพื่อต่อรองเรื่องการแต่งตั้งผบ.ตร. นางพรทิวากล่าวว่า คงไม่ใช่ เมื่อถามว่า การแต่งตั้งปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้กลายเป็นปัญหาขัดแย้งระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคภูมิใจไทย จะอธิบายอย่างไร นางพรทิวากล่าวว่า ไม่เห็นมีอะไรขัดแย้ง การประชุมครม. เมื่อวันที่ 15 กันยายน ก็อนุมัติการแต่งตั้งข้าราชการกระทรวงมหาดไทย และคมนาคม ซึ่งอยู่ในความดูแลของพรรคภูมิใจไทย ไม่ใช่ว่าไม่ผ่าน

เมื่อถามว่า แสดงว่านายยรรยงจะได้รับแต่งตั้งเป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์ในการประชุมครม. วันที่ 22 กันยายนแน่ๆ ใช่หรือไม่ นางพรทิวากล่าวว่า นายกฯ รับเรื่องไปแล้ว ตัวบุคคลไม่เป็นปัญหา แสดงว่านายกฯ ไม่ได้ปฏิเสธที่จะรับตัวนายยรรยง

เมื่อถามว่า หากนายยรรยงไม่ได้เป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์ จะตัวใครตัวมัน เหมือนที่นายเนวินระบุว่าถ้าไม่ได้พล.ต.อ. จุมพล มั่นหมาย เป็นผบ.ตร. ก็ตัวใครตัวมันหรือไม่ นางพรทิวากล่าวว่า ไม่รู้ ก็พูดกันไป นายเนวินพูดแบบนี้จริงหรือไม่

ขณะที่เมื่อนายอภิสิทธิ์มาถึง ผู้สื่อข่าวได้บอกว่านางพรทิวาได้พานายยรรยงมารอพบอยู่ด้านหลังประตูกระจก แต่นายอภิสิทธิ์ทำเป็นมองไม่เห็น และกล่าวว่า "นัดพรุ่งนี้(17 กันยายน)ครับ" ผู้สื่อข่าวแซวเล่นอีก ว่า เห็นว่าให้นายพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม โทรศัพท์ไปบอกนายกิตตติพงษ์ กิตติยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม หนึ่งในกรรมการก.ต.ช. ว่าไม่ต้องรีบกลับ นายอภิสิทธิ์ส่ายหน้าปฏิเสธจากนั้นรีบเดินเข้าห้องประชุมสภาทันที โดยไม่สนใจนางพรทิวาและนายยรรยง ที่ยืนรออยู่ นางพรทิวาเห็นดังนั้น จึงพานายยรรยงมาดักรอพบนายกฯที่หน้าห้องทำงานนายกฯชั้น 2 อาคารรัฐสภา โดยมีนายธนพร ศรียากูล ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์มาร่วมให้กำลังใจด้วย อย่างไรก็ตามยังไม่มีที่ท่าว่านายอภิสิทธิ์จะออกมาพบ

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ระหว่างนั่งรอนางพรทิวาได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ที่พานายยรรยงมาพบนายกฯ เพราะเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา นายกฯได้นัดให้นายยรรยงมาพบในวันเดียวกันนี้ จากนั้นคณะทำงานนายกฯได้โทรศัพท์เข้ามายังมือถือของนางพรทิวาโดยแจ้งว่า นายกฯขอพูดเปิดในสภาก่อนแล้วค่อยมาพบ ทำให้นางพรทิวารีบลุกเดินเข้าห้องประชุมสภาและทิ้งให้นายยรรยงรออยู่เพียงลำพลัง แต่เมื่อนางพรทิวาเดินผ่านนายอภิสิทธิ์ที่นั่งอยู่ กลับไม่ได้รับความสนใจโดยนายอภิสิทธิ์ทำทีเป็นอ่านหนังสือ และเมื่อนายอภิสิทธิ์พูดในสภาจบ ก็ยังไม่มีท่าทีจะออกมาพบ แต่กลับเดินไปพูดคุยกับส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงนายบัญญติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และนายพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ขณะที่กลุ่มของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯและเลขาธิการพรรค อาทิ นายชุมพล กาญจนะ ส.ส.สุราษฎรธานี ในฐานะประธานส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ นายชิณวรณ์ บุญยเกียตริ ประธานวิปรัฐบาล ได้จับกลุ่มหารือกันที่ห้องกาแฟใกล้ๆห้องทำงานนายกฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทั่งเวลา 10.30 น. นางพรทิวากลับมาหานายยรรยง โดยมีนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคมตามมาพูดคุยกับนายยรรยงครู่หนึ่งก่อนแยกออกไป จากนั้นเวลา 10.50 น. นายอภิสิทธิ์จึงยอมออกมาพบ โดยนายอภิสิทธิ์ นางพรทิวา และ นายยรรยง ปิดห้องหารือกันราว 15 นาที พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาเชิญสื่อมวลชนที่ไม่เกี่ยวข้องออก โดยระบุว่านางพรทิวาจะแถลงข่าวเองหลังการหารือ หลังหารือจบนายยรรยงรีบเดินทางกลับด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ขณะที่นางพรทิวา ให้สัมภาษณ์ ว่า เป็นเพียงหามาหารือเนื่องจากนายกฯเห็นว่าตำแหน่งปลัดกระทรวงควรจะมีศักยภาพในการทำงานตามที่วางไว้

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าคุยกันลงตัวแล้วใช่หรือไม่ นางพรทิวากล่าวว่า ไม่มีปัญหา เพราะนายกฯพูดชัดเจนว่าไม่ได้มีปัญหาเรื่องตัวบุคคล แล้วในการพูดคุยนายกฯยังยืนยันแบบนี้ และยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่มีอะไร คุยกันไม่นานแค่ 15 นาที เพราะนายกฯมีคิวเยอะ

เมื่อถามว่า แสดงว่าชื่อนายยรรยงจะเข้าครม.ในครั้งต่อไปใช่หรือไม่ นางพรทิวากล่าวด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยมั่นใจ ว่า "เรื่องนี้เราส่งให้นายกฯไปแล้วตั้งแต่ก่อนประชุมครม.วันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากนี้คิดว่าน่าจะเข้านะ แต่นายกฯต้องไปอเมริกา ท่านก็คงเซ็นทิ้งไว้ แต่ก็ไม่แน่ใจ แต่นายกฯรับเรื่องไว้ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนแล้ว ดังนั้นการมาพบวันนี้ ก็แค่นายกฯอยากหารือพูดคุยกับนายยรรยง จะได้ชัดเจนในเรื่องแนวทางสิทค้าเกษตรให้ไปในทิศทางเดียวกัน เป็นเอกภาพในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจแค่นั้นเอง อีกทั้งเรื่องการพาณิชย์เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งต้องเข้าใจนายกฯ เพราะนายกฯเป็นหัวหน้า เป็นแกนนำทีมเศรษฐกิจ"

เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่าในการประชุมครม.สัปดาห์หน้า จะได้ปลัดกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ นางพรทิวากล่าวว่า "ก็ส่งเรื่องให้นายกฯไปแล้ว นายกฯถือไว้กับมือเอง ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนแล้ว" เมื่อถามว่า ความล่าช้าในการตั้งปลัดกระทรวงพาณิชย์จะกระทบต่อการทำงานของข้าราชการกระทรวงหรือไม่ นางพรทิวากล่าวว่า "มันไม่ใช่ปัญหา แต่ที่คุยกับนายกฯก็คุยกันเรื่องงาน ไม่มีอะไร นายกฯยิ้มแย้มแจ่มใส นายกฯเองก็ทราบว่าคนทำงานคือพี่(นางพรทิวา) ท่านก็พูดเอง ท่านบอกไม่ติดใจอยู่แล้วเรื่องตัวบุคคล และท่านบอกว่าอยากคุยด้วย เพื่อให้มีแนวทางเดียวกัน มีแค่นี้จริงๆ ส่วนนายยรรยงเอง เป็นข้าราชการ นโยบายรัฐบาลว่าอย่างไรก็ปฏิบัติตามอยู่แล้ว ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดเท่านั้นเอง" เมื่อถามอีกว่า นายกฯได้รับปากหรือไม่ว่าจะนำชื่อนายยรรยงเข้าพิจารณาในครม.สัปดาห์หน้า นายพรทิวากล่าวว่า "พี่ไม่ได้ถาม แต่เอกสารอยู่ที่ท่าน ท่านไม่มีปัญหาหรอก ท่านบอกเอง ไม่มีปัญหา"

"สุเทพ"อ้างไม่รู้"มาร์ค"ยื้อตั้งปลัดพณ. ชี้ไม่ได้ถูกใช้บริการ

ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการที่นายอภิสิทธิ์ ยังไม่อนุมัติแต่งตั้งปลัดกระทรวงพาณิชย์ ก็อาจจะทำให้พรรคภูมิใจไทยไม่พอใจ ว่าเรื่องนี้ก็ไม่ได้พูดคุย เพราะไม่ได้ใช้บริการของตน เมื่อถามว่าการวางตัวผู้ว่าราชการจังหวัดไปส่วนหนึ่งแล้วจะทำให้ พรรคภูมิใจไทยพอใจขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า การแก้ปัญหาประเทศคงไม่ใช่อยู่ที่การโยกย้ายผู้ว่าฯ 10-20 เท่านั้น ยังมีเรื่องอื่นๆที่ต้องทำอีกเยอะ เมื่อถามว่ามีข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ก็จะวางตำแหน่งผู้ว่าฯ เพื่อเตรียมรับการเลือกตั้ง นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่จริง เพราะไม่มีการตระเตรียมการเลือกตั้งใดๆ และถ้ามีตนจะบอก

เมื่อถามว่ามีการโยกย้ายผู้ว่าฯหลายจังหวัดถูกมองว่าเป็นการสกัดการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงด้วยใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เรื่องของความมั่นคงนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการโยกย้ายผู้ว่านคราวนี้ แต่ถ้าจะมีส่วนเกี่ยวพันอยู่บ้างก็ จ.ยะลาและนราธิวาส เพราะเป็นพื้นที่ที่เราต้องพิจารณาเรื่องความละเอียดอ่อน และผู้ว่าฯทั้ง 2 จังหวัดก็อยู่มานานจึงจะต้องขยับขาย ซึ่งก็พิจารณาเอารองผู้ว่าฯ ทั้ง 2 จังหวัดมารับตำแหน่ง เพราะมั่นใจว่าทำงานได้

เมื่อถามว่า ผู้ว่าฯหลายคนทำงานดี แต่กลับถูกเก็บเข้ากรุ นายสุเทพ กล่าวว่า มันหลายเหตุผล อย่างกรณีนายประชา เตรัช ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีนั้นก็บอกกับตนเองว่าเหนื่อยแล้วและอยากทำงานอื่นที่ไม่ใช่ตำแหน่งผู้ว่าฯ เมื่อถามว่า ไม่ใช่เพราะมีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบุกรุกป่าไม้หรือ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี เพราะนายประชาเป็นคนที่แปลกมากว่าจะเอาอยางนั้นจริงๆหรือ เป็นความประสงค์ส่วนตัวจริงๆ เพราะเป็นคนไปสอบถามเองถึง 2 หน แต่จริงๆตนชอบนายประชามากและยืนยันเรื่องนี้ได้เอง ส่วนนายภานุ อุทัยรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ที่ไปเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทยนั้นรู้สึกว่านายภานุ จะชอบใจและพอใจมาก