"น้องแมนยู" เด็กชายตาบอดยอดกตัญญูวัย 9 ขวบ เคราะห์ซ้ำพลัดตกรถ แขนซ้ายขาด

"น้องแมนยู" เด็กชายตาบอดยอดกตัญญูวัย 9 ขวบ เคราะห์ซ้ำพลัดตกรถ แขนซ้ายขาด

"น้องแมนยู" เด็กชายตาบอดยอดกตัญญูวัย 9 ขวบ เคราะห์ซ้ำพลัดตกรถ แขนซ้ายขาด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

น้องแมนยู เด็กตาบอดวัย 9 ขวบ ประสบอุบัติเหตุแขนขาด ตัวเองเจ็บยังห่วงกลัวแม่ไม่ได้กินข้าว 

สืบเนื่องจากนางสาวกิริตากร มะระครอง อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่ รพ.สต.แห่งหนึ่งใน จ.เลย โพสต์เรื่องราวอันสะเทือนใจของ "น้องแมนยู" เด็กชายอายุ 9 ขวบ ว่า "ควรทำอย่างไร หน่วยงานไหนช่วยได้ ค่าใช้จ่าย ณ ปัจจุบัน 105,000 บาท กว่าจะออกควรทำยังไง อุบัติเหตุต้องจ่ายเองทั้งหมด พ.ร.บ.ขาด แม่ตาบอด ตาหนูหนวก ส่วนตาน้องตาบอดข้างซ้าย ยังมาแขนขาดอีก" ทำให้เวลาต่อมามีคนแชร์โพสต์ดังกล่าวออกไปเป็นจำนวนมาก พร้อมกับโอนเงินช่วยเหลือ "น้องแมนยู" ที่กำลังรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู รพ.ศูนย์อุดรธานี

มาวันนี้เมื่อเวลา 12.00 น. (6 ต.ค.63) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านของเลขที่ 54 หมู่ 6 บ้านหนองทุ่ม ต.นาดินดำ อ.เมืองเลย พบเด็กชายธีระพงษ์ อายุ 14 ปี นักเรียนโรงเรียนบ้านหนองผำ อยู่ภายในบ้านคนเดียว พบว่าเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในบ้านไม่มีห้องนอนเป็นสัดส่วน มีมุ้ง 2 หลัง และภายในครัวมีเครื่องครัวที่ใช้แล้วสภาพเกะกะไปหมด ส่วนพ่อชื่อ นายสมนึก วรรณชัย อายุ 60 ปี ไม่อยู่บ้านเนื่องจากเดินทางไป รพ.เลย เพื่อจ่ายค่ารักษาและรับเงินส่วนเหลือจากผู้มีจิตศรัทธา

เด็กชายธีระพงษ์ ได้พาผู้สื่อข่าวไปที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นทางแยก และชี้จุดที่ชนกับรถเก๋ง เล่าว่า ตนเองได้พาแมนยู อายุ 9 ขวบ และหลานอายุ 3 ขวบ นั่งซ้อนท้ายไปซื้อกับข้าวที่ตลาดให้แม่ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้ขับรถตามรถเก๋ง และตนเองกำลังขี่ จยย.จะเลี้ยวเข้า แต่รถเก๋งกลับเลี้ยวตัดหน้าโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว ทำให้รถชนท้ายรถเก๋งจนพลิกคว่ำ ตัวเองและหลานวัย 3 ขวบได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนน้องแมนยูกระเด็นมือซ้ายไปฟาดกับไม้หลักลายริมทางจนแขนซ้ายขาด ตนเองตกใจมาก เห็นน้องแมนยูแขนขาด น้องร้องไห้บอกว่า ให้ไปซื้อกับข้าวให้แม่ก่อน ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะกลัวแม่ไม่ได้กินข้าว จนกระทั่งมีคนมาช่วยเหลือนำส่ง รพ.สต. 

ผู้สื่อข่าวได้ที่โรงเรียนบ้านหนองผำ พบนายธงชัย เหง้าวิชัย ผอ.โรงเรียน เล่าว่า เบื้องต้นได้ช่วยเหลือน้อง 2,000 บาท และไปเปิดบัญชีในชื่อของน้อง เพื่อระดมทุนให้น้อง โดยมี จนท.ครู และ กลุ่มและต้นสังกัด ทยอยโอนเงินเข้ามา 5,000 บาทเบื้องต้น ซึ้งตอนนี้ยังไม่ไปปรับบัญชียังไม่ทราบตัวเลข ส่วนสภาพตอนนี้ต่อแขนแล้ว ยังอยู่ห้องไอซีอยู่ รพ.ศุนย์อุดรธานี ตอนนี้น้องรู้สึกตัวมีไข้ ส่วนทางสภาพทางบ้านน่าสงสารมาก พ่อหูหนวกไม่ได้ยินต้องพูดตะโกนดังๆ ส่วนแม่พิการทางสายตา มองเห็นเลือนราง รายได้จากเงินยังชีพคนพิการ

นางกนกวรรณ เหง้าวิชัย ครูผู้สอนรายวิชาของน้องแมนยู เล่าว่า เป็นเด็กที่เรียบร้อย ชอบช่วยเหลือครู น้องเป็นคนร่าเริง ชอบช่วยเหลือเพื่อน น้องเป็นน่ารัก เป็นที่รักของเพื่อน วันที่เกิดเหตุได้รับข่าวก็ตกใจเพื่อนๆ ก็ตกใจสอบถามกันใหญ่ ว่าแมนยูเป็นอย่างไร และให้กำลังน้องแมนยูโดยเขียนบนกระดานว่า แมนยู สู้ๆ

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook