นิพนธ์ เมินทิ้งเก้าอี้ รมช.มหาดไทย อัด ป.ป.ช. ทำสับสน ทำผิดทางแพ่งกลายเป็นคดีอาญา

นิพนธ์ เมินทิ้งเก้าอี้ รมช.มหาดไทย อัด ป.ป.ช. ทำสับสน ทำผิดทางแพ่งกลายเป็นคดีอาญา

นิพนธ์ เมินทิ้งเก้าอี้ รมช.มหาดไทย อัด ป.ป.ช. ทำสับสน ทำผิดทางแพ่งกลายเป็นคดีอาญา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"นิพนธ์" เมินทิ้งเก้าอี้ รมช.มหาดไทย ย้ำถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดละเว้นการไม่จ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ขณะเป็นนายก อบจ.สงขลา ไม่ใช่ตำแหน่ง รมต.ที่ ปชป.มอบหน้าที่ให้ - อัด ป.ป.ช. สร้างความสับสนให้ระบบราชการ ทำผิดแพ่งกลายเป็นคดีอาญา

วันนี้ (7 ต.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (รมช.มหาดไทย) และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดตัวเองเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา กรณีไม่จ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ 2 คัน วงเงิน 50,850,000 บาท ให้บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ทั้งนี้ นายนิพนธ์ ระบุว่า การจัดซื้อรถดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่ตนจะมาดำรงตำแหน่ง และเมื่อมารับตำแหน่งในฐานะผู้บริหาร ตนจึงต้องคิดให้รอบคอบว่าระบบของรถดังกล่าวใช้ได้จริงหรือไม่ เพราะส่วนประกอบมาจากหลายประเทศ รวมถึงมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการประมูลการจัดซื้อรถดังกล่าว จึงเป็นสาเหตุที่ตนไม่สามารถจ่ายเงินให้ได้

ส่วนการที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า มีคนไปร้องคดีฮั้วประมูลเมื่อปี 2561 นั้น ตนอยากชี้ให้เห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่บ่งบอกว่าตนทำผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เพราะการจะผิดข้อกฎหมายดังกล่าว นอกจากจะมีเจตนาธรรมดาแล้ว ต้องมีสิ่งพิเศษว่าไปกลั่นแกล้งใครหรือไม่ ซึ่งตนไม่จำเป็นต้องกลั่นแกล้งใคร แต่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของ อบจ.สงขลา เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ตนต้องไปเอาเอกสารมาจากต่างประเทศเอง ทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ และเรื่องการซื้อขายรถลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ที่ จ.สงขลา แต่ยังมีอีกหลายจังหวัด ซึ่งบางส่วนมีการร้องเรียนและเกิดเป็นคดีความในศาลเช่นกัน

นายนิพนธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ การที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า แยกการพิจารณาเรื่องการไม่จ่ายเงิน กับเรื่องการฮั้วออกจากกันนั้น ตนแปลกใจว่าทำไมต้องแยกส่วนกัน ทั้งที่มันเกี่ยวเนื่องกัน เพราะถ้าตนจ่ายไปแล้ว สืบทราบในภายหลังว่าบริษัทมีการฮั้วกันจริง แล้วตนจะทำอย่างไร ดังนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.ควรจะตรวจสอบในเรื่องเหล่านี้ด้วย เพราะเรื่องทั้งหมดอยู่ในการพิจารณาของ ป.ป.ช.แล้ว และอยู่ในศาลปกครองสูงสุด จะมาด่วนสรุปได้อย่างไรว่าเรื่องนี้ตนทำผิด

อัด ป.ป.ช. สร้างความสับสนให้ระบบราชการ

เมื่อถามว่า ป.ป.ช. ระบุว่า จะส่งเรื่องไปให้อัยการดำเนินการต่อ มีความมั่นใจหรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ตนยังมีความมั่นใจและจะพยายามส่งเรื่องทั้งหมดไปให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.อีกครั้ง และเชื่อว่าเรื่องทั้งหลายไม่ผิด และเรื่องนี้กำลังสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพราะจะสร้างความสับสนให้กับระบบราชการว่าต่อไปหากใครทำผิดทางแพ่ง จะกลายเป็นอาญาทั้งหมด เพราะถ้าทุกคนกลัวว่าจะเป็นแพะ แล้วจ่ายเงินตามสัญญาทั้งหมด ไม่ว่าจะโมฆะกรรม หรือทุจริตหรือไม่ เพราะกลัวจะเหมือน อบจ.สงขลา ตนจึงจำเป็นต้องส่งสัญญาณให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาด้วยความรอบคอบและเป็นธรรม

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้ นายนิพนธ์ แสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่งเพื่อรักษามาตรฐานและอุดมการณ์ของพรรคนั้น นายนิพนธ์ กล่าวตอบว่า ขอขอบคุณ นายอลงกรณ์ แต่มาตรฐานครั้งนี้กับครั้งก่อนๆ เป็นคนละกรณีกัน ครั้งนี้เกิดขึ้นขณะที่ตนเป็นนายก อบจ.สงขลา ซึ่งไม่ได้เกิดจากตำแหน่งที่พรรคมอบหมาย จึงถือว่าตนไม่ได้ทำให้พรรคเสียหายหรือเสียชื่อเสียง อีกทั้งตนยังมั่นใจว่ากรณีนี้เป็นการรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน ไม่มีการทุจริต 

เมื่อถามว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลช่วงนี้มีนัยอะไรหรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ตนเคารพในการใช้ดุลยพินิจของ ป.ป.ช. แต่ตนทำหน้าที่แสวงหาข้อเท็จจริง ไม่มีเจตนาให้ใครเสียหายทั้งสิ้น เมื่อกล่าวหามาอย่างนี้ ตนก็ต้องรักษาชื่อเสียงและเกียรติยศ ขอย้ำว่าไม่ได้ทำอะไรที่ทุจริต

"ถ้าประจักษ์พยานอย่างนี้ไม่ใช่ทำให้เสียหาย ลึกๆ ทำอย่างนี้คือ การรักษาผลประโยชน์ ไม่มีการทุจริต แต่นี่คือรักษาผลประโยชน์แผ่นดิน ยืนยันไม่ได้ทำให้เสียหาย ถ้ากล่าวหาต้องรักษาชื่อเสียงเกียรติยศ จนมาเป็น ส.ส. ต้องปกป้องศักดิ์ศรีพรรคประชาธิปัตย์" รมช.มหาดไทย ระบุ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook